Health Status of Factory Workers in Chakkrarat District, Nakhon Ratchasima Province
| dc.contributor.author | โชคชัย มานะธุระ | en_US |
| dc.contributor.author | Chokchai Manatura | en_US |
| dc.coverage.spatial | นครราชสีมา | en_US |
| dc.date.accessioned | 2008-10-03T08:01:01Z | en_US |
| dc.date.accessioned | 2557-04-16T15:55:36Z | |
| dc.date.available | 2008-10-03T08:01:01Z | en_US |
| dc.date.available | 2557-04-16T15:55:36Z | |
| dc.date.issued | 2550 | en_US |
| dc.identifier.citation | วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 1,3-4 (ต.ค.-ธ.ค. 2550), 2(ต.ค.-ธ.ค. 2550) : 271-278 | en_US |
| dc.identifier.issn | 0858-9437 | en_US |
| dc.identifier.uri | http://hdl.handle.net/11228/385 | en_US |
| dc.description.abstract | การศึกษาเชิงพรรณนาด้านสุขภาพของคนงานในโรงงานอุดสาหกรรม 8 แห่งในอำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤมภาคม 2550 เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพด้านสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงของคนงาน 2,227 คน โดยใช้แบบสอบถามและการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง ได้ข้อมูลดังนี้ ข้อมูลจากคนงานร้อยละ 97.9 โรงงานดังกล่าวมีการผลิตเสื้อผ้า ชุดชั้นในสตรีและการผลิตชิ้นส่วนรองเท้า, คนงานร้อยละ 74 เป็นหญิง ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 25-29 ปี ส่วนใหญ่สมรส จบระดับประถมศึกษา ทำหน้าที่เย็บจักร ถึงร้อยละ 68.5 นั่งทำงานร้อยละ 77.3 มีปัญหาสุขภาพ ได้แก่ โรคติดเชื้อทางหายใจ โรคกระเพาะอาหาร โรคปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไรคในช่องปากและอาการปวดศีรษะตามลำดับ การเกิดอุบัติเหตุในเวลาทำงาน พบว่าส่วนใหญ่ถูกเข็มตำมือ ข้อมูลจากการตรวจสุขภาพประจำปี พบความผิดปรกติของปอด 2 ราย สายตาผิดปรกติร้อยละ 21.6 แต่ไม่พบคนงานมีความผิดปรกติของการได้ยิน ผลการคัดกรองพฤติกรรมเสี่ยงพบว่า คนงานมีบิดามารดาป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ร้อยละ 20.8 มีพี่น้องป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงร้อยละ 6.8 แต่จากการตรวจคัดกรอง พบคนงานป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงอยู่เดิมร้อยละ 1.8 และคัดกรองเพิ่มเติมพบอีกร้อยละ 0.9 รวมเป็นร้อยละ 2.7 คนงานที่เป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่รับการรักษาและปฏิบัติตามแพทย์แนะนำ คนงานมีพฤติกรรมสูบบุหรี่ร้อยละ 10.6 ดื่มสุราร้อยละ 21.8 คนงานที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพียงร้อยละ 12.4 ในด้านพฤติกรรมการบริโภค พบว่าคนงานส่วนใหญ่บริโภคอาหารรสหวาน เค็ม มัน พฤติกรรมการขับขี่รถยนต์/รถจักรยานยนต์พบว่ามีการสวมหมวกนิรภัยและคาดเข็มขัดนิรภัยเพียงร้อยละ 75.6 ยังมีพฤติกรรมเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ในคนงานบางคน คนงานมีมาตราส่วนเอว/สะโพกเกินปรกติร้อยละ 26.54 อีกทั้ง มีค่าดรรชนีมวลกายเกินเกณท์มาตรฐานร้อยละ 43.7 จึงสมควรที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีแนวทางชัดเจนในการจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการศึกษาปัญหาในเชิงลึกของแต่ละโรงงาน เพื่อนำไปสู่การแก้ใขปัญหาให้เหมาะสมกับสภาพบริบทของแต่ละโรงงานต่อไป | th_TH |
| dc.language.iso | th | en_US |
| dc.publisher | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | en_US |
| dc.rights | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | en_US |
| dc.title | สุขภาพของคนงานในโรงงานอุตสาหกรรม อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา | en_US |
| dc.title.alternative | Health Status of Factory Workers in Chakkrarat District, Nakhon Ratchasima Province | en_US |
| dc.type | Article | en_US |
| dc.description.abstractalternative | This research was aimed at studying the health status and risk behavior of workers in factories in Chakkarat district, Nakhon Ratchasima Province in the period March-May 2007. The methodology involved data a collection form; secondary data, questionnaire and risk-screening data. The results showed that there were 8 factories with 2,274 workers; data were collected on 2,227 of them, or 97.9 percent of the total. These factories produce clothing, underwear and shoes. Most of the workers were women (74 percent), aged between 25 and 29 years; most were married and had a primary level education. Seamstress accounted for 68.5 percent of the total. Those who sat working totaled 77.3 percent. The top-five out-patient cases were respiratory tract infection, dyspepsia, myalgia, headache and oral disease, in that order. With regard to accidents in workplace, it was found that the most were needle accidents. Annual health examination data found that only two patients had lung problems; eyes problems accounted for 21.6 percent of the total. The patients with presbyopia problems comprised 8.0 percent of the total, but there were no hearing problems. The result of risk screening found that 20.8 percent of the workers’ parents had diabetes and high blood pressure; 6.8 percent of their brothers and sisters has these health conditions, while only 1.8 percent of the workers themselves did so, and additional new cases accounted for 0.9 percent, a total of 2.7 percent. The workers who had diabetes and hypertension were following doctors’ supervision. As for the behavior of workers, 10.6 percent smoked, 21.8 percent drank alcohol; 12.4 percent of the workers usually exercised. With regard to eating behavior, it was found that most of the workers consumed sweet, more salty and fatty food. As for driving/riding behavior, it was found that most workers wore helmets and safety belts (75.6%). Unsafe sexual behavior was practiced by some workers. The shape of body (waist/hip) exceeded the standard for 26.54 percent of the subjects. The body mass index (BMI) exceeded the standard in 43.7 percent of the workers. Health care for all the workers should be the responsibility of the related organization; health promotion activities including solving problems, should be carried out by each factory with appropriate conditions. | en_EN |
| dc.subject.keyword | โรงงานอุตสาหกรรม | en_US |
| dc.subject.keyword | สภาวะสุขภาพ | en_US |
| dc.subject.keyword | การวิจัยเชิงพรรณนา | en_US |
| dc.subject.keyword | Factory Workers | en_US |
| dc.subject.keyword | Health Status | en_US |
| dc.subject.keyword | Descriptive Research | en_US |
| .custom.citation | โชคชัย มานะธุระ and Chokchai Manatura. "สุขภาพของคนงานในโรงงานอุตสาหกรรม อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา." 2550. <a href="http://hdl.handle.net/11228/385">http://hdl.handle.net/11228/385</a>. | |
| .custom.total_download | 609 | |
| .custom.downloaded_today | 0 | |
| .custom.downloaded_this_month | 3 | |
| .custom.downloaded_this_year | 31 | |
| .custom.downloaded_fiscal_year | 39 |
 | ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ |
Fulltext
Name: hsri-journal-v1n3 ...
Size: 192.6Kb
Format: PDF
This item appears in the following Collection(s)
-
Articles [1334]
บทความวิชาการ