บทคัดย่อ
ประสิทธิภาพของโปรแกรมสุขศึกษาในการป้องกันภาวะหูเสื่อมจากเสียงดังของคนงานโรงงานสิ่งทอการประมง จังหวัดขอนแก่น ภาวะหูเสื่อมจากเสียงดังยังคงพบเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากทั้งที่ได้มีความพยายามในการควบคุมและป้องกันอย่างดีแล้วก็ตาม เช่น ความพยายามของการก่อตั้งโครงการอนุรักษ์การได้ยินที่ได้ถูกบังคับใช้ในโรงงานที่เสี่ยงต่อเสียงดังมาเป็นเวลากว่าสิบปี แต่ในหลายผลการศึกษาก็ยังคงพบภาวะหูเสื่อมจากเสียงดังของคนงานในอัตราที่สูงเช่นเดิม ผลการศึกษาต่อมาพบว่าโปรแกรมสุขศึกษาซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งในโครงการอนุรักษ์การได้ยินนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประสิทธิภาพของโครงการอนุรักษ์การได้ยินไม่ได้ผล งานวิจัยครั้งนี้ ได้เสนอโปรแกรมสุขศึกษาที่สามารถปฏิบัติเป็นรูปธรรมจริงในโรงงานและการประเมินสุขภาพของโปรแกรมสุขศึกษานี้ตามสมรรถภาพการให้บริการทางสุขภาพของประเทศไทยในการป้องกันภาวะหูเสื่อมจากเสียงดังของคนงานทั้งกลุ่มที่มีพื้นฐานการได้ยินเดิมดีและไม่ดี วิธีการศึกษาได้เลือกโรงงานสิ่งทอการประมงในจังหวัดขอนแก่น 2 แห่งที่มีลักษณะพื้นฐานของคนงาน ระดับเสียงดังที่คนงานสัมผัสและระดับการได้ยินของคนงานที่ใกล้เคียงกัน จากนั้นทั้ง 2 โรงงานได้จัดทำโครงการอนุรักษ์การได้ยินตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับทั่วไป ก่อนที่จะมีการสุ่มเลือกเป็นโรงงานควบคุมและโรงงานทดลอง โดยโรงงานทดลองจะได้รับโปรแกรมสุขศึกษาที่เสนอในการศึกษาครั้งนี้ หลังจบการศึกษาได้ตรวจการได้ยินของคนงานอีกครั้งเทียบกับพื้นฐานเดิม ผลการศึกษาพบว่าคนงานมากกว่า 70% ของโรงงานทดลองสวมใส่ปลั๊กอุดหูเป็นประจำ (มากกว่า 90% ของเวลาทำงานทั้งหมด) เมื่อเทียบกับเพียง 50% ของคนงานในโรงงานควบคุม ค่าเฉลี่ยของความแตกต่างที่เปลี่ยนไปจากพื้นฐานระดับการได้ยินเดิมคือมีการสูญเสียการได้ยินในโรงงานควบคุมเพิ่มสูงขึ้นกว่าโรงงานทดลองทุกค่าความถี่ [0.51(p=0.01),0.17 (p=0.44, 0.61(p=0.01), 1.30(p<0.01), 3.03(p<0.01) และ 0.04(p=0.93) ตามลำดับความถี่] เมื่อเปรียบเทียบจำนวนคนงานที่มีภาวะหูเสื่อมจากเสียงดังตาม Significant Threshold Shift criteria พบว่า โรงงานทดลองมีอุบัติการณ์ของภาวะหูเสื่อมจากเสียงดัง = 22.3% โรงงานควบคุม = 27.2% นั่นคือมีอุบัติการณ์แตกต่างกันถึง 4.8% (95% CI : - 13.6% to 40.0%) p-value = 0.282