แสดงรายการชิ้นงานแบบง่าย

โปรแกรมนำร่องเพื่อการคัดกรองและพัฒนาการดูแลเด็กเชิงบวกสำหรับครูและผู้ปกครอง เพื่อการส่งเสริมสุขภาพจิตและความสำเร็จทางการเรียนในเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา

dc.contributor.authorรัศมี สังข์ทองth_TH
dc.contributor.authorRassamee Sangthongth_TH
dc.contributor.authorจตุรพร แสงกูลth_TH
dc.contributor.authorJaturaporn Sangkoolth_TH
dc.contributor.authorธรรมสินธ์ อิงวิยะth_TH
dc.contributor.authorThammasin Ingviyath_TH
dc.contributor.authorนูรตัสนีม อูมูดีth_TH
dc.contributor.authorNurtasneem Oumudeeth_TH
dc.contributor.authorนาริสา หะยีวานิth_TH
dc.contributor.authorNarisa Hayeevanith_TH
dc.date.accessioned2021-04-07T04:14:41Z
dc.date.available2021-04-07T04:14:41Z
dc.date.issued2563-12-15
dc.identifier.otherhs2656
dc.identifier.urihttp://hdl.handle.net/11228/5343
dc.description.abstractโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการใช้ระบบสนับสนุนช่วยเหลือสุขภาพจิตโรงเรียนที่จัดตั้งโดยกระทรวงศึกษาธิการ 2) ทราบขนาดปัญหาการเรียนและปัญหาสุขภาพจิตในเด็กนักเรียนประถมศึกษาตอนต้นจากการคัดกรอง และ 3) ประเมินประสิทธิผลโปรแกรมจิตวิทยาเชิงบวกต่อสุขภาพจิต ผลการศึกษาพบว่า 1) ระบบการสนับสนุนช่วยเหลือสุขภาพจิตโรงเรียนมีในระดับมัธยมศึกษาและยังมีไม่ครบทุกโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมการแนะแนวการศึกษาเข้าเรียนต่อและดูแลนักเรียนที่มีปัญหารุนแรง (เชิงรับ) มากกว่าการส่งเสริมป้องกัน (เชิงรุก) ครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องยังมีไม่เพียงพอและมีภารกิจการเรียนการสอนมาก ทำให้ไม่อาจทำงานด้านสุขภาพจิตได้เต็มที่และยังขาดความรู้ ความเข้าใจในการดูแลเด็กทั้งการส่งเสริม ป้องกันและการดูแลเมื่อมีปัญหาแล้ว 2) ปัญหาสุขภาพจิตและปัญหาการเรียนในนักเรียนระดับประถมศึกษาตอนต้น ได้แก่ ผู้ปกครองรายงานปัญหาจากการคำถามคัดกรอง DSM-5 ร้อยละ 18.3 ก่อนเข้าเรียนอนุบาลเพิ่มเป็นร้อยละ 41.9 เมื่อเข้าเรียนอนุบาลแล้ว ส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านชีวภาพ เช่น พัฒนาการการเรียนรู้ล่าช้า พบนักเรียนร้อยละ 25 มี GPA น้อยกว่า 2.50 ผู้ปกครองและครูรายงานปัญหาสุขภาพจิตด้านใดด้านหนึ่งสูงถึงร้อยละ 32 โดยเฉพาะปัญหาการใช้สื่อเทคโนโลยี โดยพบว่านักเรียนใช้เวลากับสื่อเทคโนโลยีระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ เฉลี่ยวันละ 3.5±3.1 ช.ม. และวันอาทิตย์-เสาร์ เฉลี่ยวันละ 6.2±4.1 ช.ม. มีปัญหาเริ่มติดการใช้โทรศัพท์หรือติดแล้วร้อยละ 25.4 ทั้งนี้ทั้งผู้ปกครองและครูยังไม่ทราบวิธีการดูแลที่เหมาะสม และ 3) โปรแกรมจิตวิทยาเชิงบวกส่งผลดีต่อความรู้สึกเกี่ยวกับตนเองและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยเฉพาะกลุ่มที่มี GPA <2.50 เนื่องจากผลการศึกษาบ่งชี้ว่าปัญหาสุขภาพจิตในนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 มีระดับสูง ควรมีการแทรกแซงที่เหมาะสมตามวัยอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อลดปัญหานี้ โครงการจึงได้นำเสนอผลงานวิจัยและหารือถึงแนวทางดำเนินงานเพื่อลดปัญหาและส่งเสริมสุขภาพจิตในเด็กกับหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนที่ร่วมโครงการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอหาดใหญ่ บัณฑิตอาสาและจัดเวทีสาธารณะสำหรับประชาชนทั่วไป พบว่าผู้ปกครอง ครู ชุมชนและองค์กรต่างๆ มีความเป็นห่วงและเห็นควรให้มีการดำเนินการเพื่อลดปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจว่าควรทำอย่างไร โครงการได้จัดทำสื่อโปสเตอร์และบันทึกการบรรยายเป็นวิดีโอเผยแพร่ทางสาธารณะ เพื่อให้ความรู้ในการดูแลเด็กและเยาวชนตามปัญหาที่เป็นข้อค้นพบจากงานวิจัยและโครงการมีความต้องการการสนับสนุนจากงบประมาณที่คงเหลือของโครงการ จัดทำเป็นหนังสือสำหรับครู ผู้ปกครองและผู้ทำงานด้านเด็กและเยาวชนต่อไปth_TH
dc.description.sponsorshipสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.rightsสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.subjectจิตวิทยาเด็กth_TH
dc.subjectสุขภาพจิตเด็กth_TH
dc.subjectพัฒนาการเด็กth_TH
dc.subjectการเรียนรู้ (จิตวิทยา)th_TH
dc.subjectเด็ก--พฤติกรรมth_TH
dc.subjectเด็ก--พฤติกรรมทางสังคมth_TH
dc.subjectปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH)th_TH
dc.subjectการบริการสุขภาพ (Health Service Delivery)th_TH
dc.titleโปรแกรมนำร่องเพื่อการคัดกรองและพัฒนาการดูแลเด็กเชิงบวกสำหรับครูและผู้ปกครอง เพื่อการส่งเสริมสุขภาพจิตและความสำเร็จทางการเรียนในเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาth_TH
dc.title.alternativeA pilot program for screening and promoting positive child development for teachers and parents to enhance mental health and academic achievement among primary schoolchildrenth_TH
dc.typeTechnical Reportth_TH
dc.identifier.callnoWS105 ร388ป 2563
dc.identifier.contactno62-033
.custom.citationรัศมี สังข์ทอง, Rassamee Sangthong, จตุรพร แสงกูล, Jaturaporn Sangkool, ธรรมสินธ์ อิงวิยะ, Thammasin Ingviya, นูรตัสนีม อูมูดี, Nurtasneem Oumudee, นาริสา หะยีวานิ and Narisa Hayeevani. "โปรแกรมนำร่องเพื่อการคัดกรองและพัฒนาการดูแลเด็กเชิงบวกสำหรับครูและผู้ปกครอง เพื่อการส่งเสริมสุขภาพจิตและความสำเร็จทางการเรียนในเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา." 2563. <a href="http://hdl.handle.net/11228/5343">http://hdl.handle.net/11228/5343</a>.
.custom.total_download96
.custom.downloaded_today0
.custom.downloaded_this_month1
.custom.downloaded_this_year5
.custom.downloaded_fiscal_year10

ฉบับเต็ม
Icon
ชื่อ: hs2656.pdf
ขนาด: 7.552Mb
รูปแบบ: PDF
 

ชิ้นงานนี้ปรากฎในคอลเล็คชั่นต่อไปนี้

แสดงรายการชิ้นงานแบบง่าย