บทคัดย่อ
การประกอบกิจการอุตสาหกรรมขนาดเล็กในพื้นที่ชนบทมีปัญหาและข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพของรัฐค่อนข้างมาก ประกอบกับมีการนำอุปกรณ์และสารเคมีที่มีความไม่ปลอดภัยสูงมาใช้ในกระบวนการผลิตเป็นจำนวนมาก การศึกษานี้ศึกษาเฉพาะกรณีโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ในจังหวัดเลยที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ ด้วยการสังเกตแบบมีส่วนร่วม การสัมภาษณ์เจาะลึก การสนทนากลุ่ม แบบสัมภาษณ์ และวิธีการศึกษาเชิงปริมาณ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเอกสารประกอบ ผลการศึกษาแสดงถึงกระบวนการผลิตโดยเฉพาะการปฏิบัติงานท่ามกลางเสียงดังโดยขาดอุปกรณ์ป้องกัน สภาพแวดล้อมของการทำงานในภาวะที่เสี่ยงต่อมลพิษทั้งฝุ่น ควันและเสียงดัง นอกจากผลต่อสุขภาพของคนงานโดยตรง ยังส่งผลกระทบขยายไปสู่สุขภาพของครอบครัวและชุมชนด้วย ผู้วิจัยเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาสำหรับกรณีดังกล่าวนี้เน้นที่การจัดการระดับพื้นที่ โดยโรงพยาบาลชุมชนในฐานะหน่วยการรักษาปฐมภูมิและให้องค์การบริหารส่วนตำบลมีบทบาทนำในการประสานงาน สนับสนุนงบประมาณแก่หน่วยภาคีที่เกี่ยวข้องเพื่อสะท้อนข้อมูลแก่ชุมชนและเสนอแนะให้มีการออกนโยบายสาธารณะเพื่อสร้างสุขภาพดี เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงจากการทำงานให้เป็นแนวทางแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด และต้องมีการปรับปรุงระบบวินิจฉัยของสถานบริการในการคัดกรองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมให้ง่ายต่อการปฏิบัติ ดำเนินการเรื่องการเฝ้าระวังโรคอย่างแข็งขัน และจัดให้มีการศึกษาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของปัจจัยการเกิดโรคอย่างเป็นระบบต่อไป
บทคัดย่อ
Workers in small industries in rural areas work under unhealthy and poor environmental
conditions because of the limitation of local health services. In addition, unsafe
equipment and chemicals are commonly used in the manufacturing process. This study
explored the working processes in wooden furniture factories in Loei Province after the
workers had received information about the health and safety of workers, and about the health and environmental risks in surrounding communities affected by these small industries.
This study employed both qualitative methods, including participation observation,
in-depth interviews, group discussions and questionnaire interviews, as well as
quantitative methods, such as secondary data analysis from existing documents. The
results of the study showed that the manufacturing processes of these kinds of factories
might be directly harmful to the health and safety of the workers. Poor working conditions,
for example, dust, smoke and noise pollution, might not only affect the health and
safety of these workers but also afftect the health of their family members and communities.
Community hospitals and tambon administrations should be major stakeholders in
managing theses occupational health problems by launching a “healthy public” policy
and providing all sectors with guidance, including that on the manufacturers, workers,
and health centers or primary care units. Moreover, management at the national policy
level should be implemented by providing a simplified version of the diagnosing process
of diseases related to occupational health, strengthening occupational health surveillance
in local settings and initiating prospective cohort studies to identify specific determinants
of local occupational diseases.