บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทเรียนจากการดำเนินงานด้านการเสริมสร้างศักยภาพผู้บริโภคในภาคเหนือโดยการศึกษาพัฒนาการและปัจจัยเงื่อนไขที่ส่งผลต่อการก่อตัวของกลุ่มที่ดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างพลังผู้บริโภค ศึกษาปรัชญา  การทำงาน  รูปแบบ  กระบวนการจัดการองค์การ  กลไก  และแนวทางการทำงานของกลุ่ม  เพื่อสังเคราะห์บทเรียนและข้อเสนอในการดำเนินการเสริมสร้างพลังผู้บริโภคในภาคเหนือ  ใช้วิธีการศึกษาโดยเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ  โดยการสัมภาษณ์  การสนทนากลุ่ม  และการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่ดำเนินงานด้านการเสริมสร้างพลังผู้บริโภคในภาคเหนือ  การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการกำหนดประเด็นและพรรณนาข้อมูลเพื่อนำเสนอตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด	ผลการศึกษา  การดำเนินการของกลุ่มที่ดำเนินงานด้านการเสริมสร้างพลังผู้บริโภคทั้ง 5 กลุ่มได้แก่  1) ชมรมผู้ประกอบการร่วมใจใส่ใจผู้บริโภค  อำเภอแม่ริม  จังหวัดน่าน  ที่ตระหนักในความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชน  โดยการสนับสนุนให้กลุ่มผู้ประกอบการเข้ามาร่วมเป็นพลังในการคุ้มครองผู้บริโภค   2) ชมรมเกษตรธรรมชาติและอาหารปลอดภัย  จังหวัดพิจิตร ที่มีความพอเพียงและมีการสรุปบทเรียนอย่างมีระบบและจัดกระบวนการถ่ายทอดความรู้ไปสู่ชุมชนและสังคม  เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางความคิดที่ยั่งยืน  3) เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์  จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่พัฒนากิจกรรมให้เกิดเป็นพลังของกลุ่ม  พลังทางสุขภาพ  และพลังทางสังคม  จนเกิดเป็นเครือข่ายจากระดับปัจเจกสู่ระดับประเทศ  เกิดภาคีความร่วมมือเพื่อการแก้ไขปัญหาของสังคมในที่สุด  4) กลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วย  อำเภอแม่เมาะ  จังหวัดลำปาง  เป็นการรวมพลังของกลุ่มผู้ประสบปัญหาสุขภาพจากสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์   ที่ต่อรองให้ได้รับการดูแลด้านสุขภาพและให้ได้รับสิทธิอันพึงมีพึงได้จากการสูญเสียที่เกิดขึ้น   5) ชมรมคุ้มครองผู้บริโภค  จังหวัดเชียงราย  ได้ดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเท่าทัน  ผ่านพลังสตรีในครอบครัวและในชุมชนแล้วสร้างเครือข่ายความร่วมมือไปสู่เด็ก  เยาวชนในโรงเรียนและกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน  	กล่าวโดยสรุปบทเรียนจากการดำเนินงานด้านการเสริมสร้างพลังผู้บริโภคในภาคเหนือเกิดจากการที่ประชาชนประสบปัญหาด้านสุขภาพอนามัย  ความยากจน   การถูกละเมิดสิทธิ  เป็นต้น  โดยสาเหตุของปัญหามาจากการกำหนดนโยบายการพัฒนาภาครัฐ  ที่เน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจมากกว่าการพัฒนาด้านสังคม  ดังนั้นการดำเนินการของภาคประชาชนจึงเป็นลักษณะการขยายตัวอย่างช้าๆ ขาดการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอกเพื่อความต่อเนื่องและยั่งยืน