บทคัดย่อ
การพลิกฟื้นให้ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยได้กลับมามีบทบาทที่สำคัญ ในการดูแลสุขภาพของคนไทย ภายหลังจากการถูกทอดทิ้ง ละเลย ลดทอนบทบาทความสำคัญมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า ๑๐๐ ปี นั้น เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายที่เข้มแข็ง ต้องการการสนับสนุนทรัพยากร และการสนับสนุนทางวิชาการ เพื่อรวบรวมรื้อฟื้นองค์ความรู้ ภูมิปัญญาที่กระจัดกระจาย คลาดเคลื่อน ถูกบิดเบือน และสูญหายไปเป็นจำนวนมาก การผสมผสานการบริการแพทย์แผนไทยเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพของประเทศจึงจำเป็นต้องประยุกต์ใช้ องค์ความรู้ ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยที่มีอยู่เดิม ร่วมกับภูมิปัญญาแพทย์ตะวันตก ตลอดจนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้ปรากฎผลเชิงประจักษ์ของการบริบาลสุขภาพโดยแพทย์แผนไทยว่าได้คุณภาพ มาตรฐาน มีประสิทธิผล มีความปลอดภัย การนำองค์ความรู้ภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นกลับมาผสมผสาน ประยุกต์ใช้ในระบบบริการสุขภาพนั้น จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็ง มีการพัฒนาหน่วยบริการที่เป็นรูปธรรม สามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ภูมิปัญญาของตนร่วมกับการแพทย์ตะวันตกขึ้นอย่างเป็นระบบ มีการสร้างความรู้ด้วยการศึกษาวิจัย การสร้างคนโดยจัดการศึกษาฝึกอบรม และมีการจัดบริการให้การดูแลบริบาลสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม ดังปรากฎเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดแจ้งในประเทศจีนและประเทศอินเดีย ซึ่งถือเป็นตัวอย่างรูปธรรมของความสำเร็จในการพลิกฟื้นองค์ความรู้ ภูมิปัญญาแพทย์ของตนให้มีบทบาทสำคัญอย่างทัดเทียม หรือเหนือกว่า ระบบบริการทางแพทย์ที่แอบอิงอยู่กับการแพทย์ตะวันตก โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลแพทย์แผนจีน และแบบอายุรเวท ได้มีบทบาทอย่างสำคัญในการให้บริการดูแลรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ และบริบาลสุขภาพ ให้แก่ประชาชนของตนอย่างชัดเจน และกำลังทวีความนิยมเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในระดับนานาชาติด้วยรายงานการศึกษาวิจัยเชิงนโยบายฉบับนี้ ได้ทำการศึกษา รวบรวมแนวคิด แนวทาง ตัวอย่างรูปธรรมของการจัดตั้งโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยต้นแบบ ที่สามารถสร้างคน สร้างความรู้ และมีบทบาทในการจัดการบริบาลสุขภาพแบบพอเพียงให้แก่ชาวไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม และสามารถนำไปสู่การขยายผลได้ในระยะยาว โดยทำการทบทวนเอกสาร สัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รวบรวมแนวคิด หลักการสำคัญ แนวทางการพัฒนารูปธรรมต้นแบบ ทั้งของต่างประเทศที่ประสบผลสำเร็จแล้ว และความริเริ่มพยายามภายในประเทศ ของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ทั้งนี้ปรากฎผลของการศึกษาที่สำคัญ เกี่ยวกับคุณลักษณะของโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลแพทย์แผนไทยต้นแบบ ๕ ประการ พอสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้บทบาทและภารกิจที่สำคัญเพื่อให้โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลแพทย์แผนไทยต้นแบบ มีกระบวนการพัฒนาโดยมีการสร้างและใช้ความรู้ เกิดกิจกรรมการพัฒนาอย่างต่อเนื่องครบวงจร จึงควรกำหนดบทบาทภารกิจหลักของโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลแพทย์แผนไทยต้นแบบ ใน ๓ ด้านหลัก คือ ๑) ด้านบริการ ๒) ด้านวิชาการและการวิจัย ๓) ด้านการเรียนการสอน ทั้งนี้ควรใช้บทบาทภารกิจทั้งสามประการนี้ให้ครบเป็นวงจรของการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง โครงสร้างพื้นฐานอาคารสถานที่ ควรมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย และการบริหารจัดการมีลักษณะโครงสร้างองค์กรและการบริหารจัดการได้หลายรูปแบบ ตามลักษณะความสัมพันธ์กับระบบบริการการแพทย์แผนตะวันตก และระดับของการบริการ กำลังคนและบุคลากร ควรมีกำลังคนและบุคลากร ในสาขาวิชาชีพต่างๆ ที่เหมาะสม จำนวนเพียงพอ สัดส่วนเหมาะสม มีความสอดคล้องกับภารกิจหลัก ๓ ด้านที่กล่าวมาแล้ว มีระบบค่าตอบแทนแรงจูงใจที่เพียงพอ และระบบความก้าวหน้าทางวิชาชีพที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถธำรงรักษาบุคลากรไว้ในระบบ โดยมีการผสมผสานรูปแบบการจ้างงานที่ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายทางงบประมาณในระยะยาว งบประมาณ และทรัพยากรที่จำเป็น ควรมีแนวทางการสนับสนุนและแหล่งที่มาของงบประมาณ และทรัพยากรที่จำเป็นต่อการจัดตั้งโรงพยาบาล และสถานพยาบาลแพทย์แผนไทยต้นแบบ อาจกำหนดตามประเภทของการใช้จ่าย คือ งบลงทุน ควรได้รับการอุดหนุนจากเงินงบประมาณแผ่นดิน งบดำเนินการ แบ่งออกเป็น งบบริการ ได้รับจากเงินค่าบริการผู้ป่วยกลุ่มต่างๆ เช่น สวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ ผู้ป่วยจ่ายเอง งบอุดหนุนการเรียนการสอนได้จากเงินอุดหนุนจากรัฐ หรือ เรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษาจากผู้เรียนจ่ายเอง สำหรับงบวิจัยในด้านต่างๆ ควรมีแหล่งที่มาจาก เงินอุดหนุนของรัฐ หรือจากการแบ่งปันผลประโยชน์จากภาคเอกชนที่ใช้ประโยชน์จากงานวิจัยการผลักดันขับเคลื่อนเชิงนโยบายข้อเสนอการจัดตั้งโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลแพทย์แผนไทยต้นแบบ ควรได้รับการผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์พัฒนาแพทย์แผนไทย ซึ่งได้รับการอนุมัติจากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยจัดทำเป็นแผนงานโครงการจัดตั้งเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรที่จำเป็นต่อไป ทั้งนี้ควรมีกลไกกระบวนการสร้างความตระหนัก เพื่อให้เห็นความสำคัญ สร้างฉันทามติร่วมกันให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจ