บทคัดย่อ
การศึกษาข้อมูลเชิงคุณภาพของพืชและสัตว์มีพิษในชุมชนเกี่ยวกับความชุก แหล่งที่พบ ความเชื่อ ทัศนคติการนำไปใช้ประโยชน์ โดยวิธีอภิปรายกลุ่มและการประเมินประสิทธิผลของการถ่ายทอดความรู้ด้วยการนำรูปแบบการทำประชาคมมาประยุกต์ใช้ โดยวิธีวิจัยกึ่งทดลองในหมู่บ้าน 11 แห่ง ในอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ใช้กลุ่มตัวอย่าง 120 ตัวอย่าง ซึ่งคัดเลือกด้วยวิธี Stratified Random Sampling วิเคราะห์ข้อมูลแสดงค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยวิธีสถิติ pair t-test การศึกษาความชุกของพืชและสัตว์มีพิษจำนวน 23 ชนิดที่นำมาศึกษาพบว่าสบู่ดำ มันสำปะหลัง คางคก, เห็ดขี้วัว เห็ดแดงน้ำหมาก และเห็ดน้ำผึ้ง พบในทุกหมู่บ้าน พบกระจายอยู่ทั่วไปในทุ่งนา บริเวณวัด บ้าน โรงเรียนฯ ซึ่งเป็นความเสี่ยงของชุมชน ประกอบกับชาวบ้านยังมีความเชื่อและทัศนคติเดิมที่ถ่ายทอดกันมาเกี่ยวกับพืชและสัตว์มีพิษ รวมถึงการนำไปใช้ประโยชน์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพได้ ด้านการศึกษาถึงประสิทธิผลของการถ่ายทอดความรู้พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีระดับความรู้หลังการทำประชาคมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แม้คะแนนที่เพิ่มขึ้นอาจไม่แตกต่างมากนัก เนื่องจากปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนรู้ เช่น ภาษา ความเชื่อและทัศนคติเดิมของชาวบ้าน แต่การถ่ายทอดความรู้ด้วยการประชาคมอย่างง่ายก็เป็นกลวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับชุมชนโดยคนในชุมชนเอง ซึ่งอาจนำไปประยุกต์ใช้ในงานสาธารณสุขอื่นต่อไป
บทคัดย่อ
This study was undertaken to determine qualitative data pertaining to the availability, beliefs, attitudes,
and utilization of poisonous plants and animals in a community using group discussion, followed
by an assessment of the efficiency of conveying the knowledge by civil society. The format was a quasiexperimental
research approach in 11 villages in Khukhan district, Sisaket Province. The experiment was
conducted by means of a stratified random sampling procedure; 120 samples were retrieved. The data
obtained were statistically assessed in respect of frequency, percentage, means plus or minute the standard
deviation, and paired t-test for comparison.
The results showed that, among the 23 kinds of poisonous plants and animals studied, jatropha,
tapioca, toad, Copelandia cyaneseens, Russula emetica, and Phaeogyroporus portentosus were present in
every village in the fields, around temples and residences, etc. This finding, together with the traditional
beliefs and attitudes of the villagers regarding poisonous plants and animals, could possibly lead to a
health risk for the community. After utilizing simple civil society communication, the study group had
shown significantly increased knowledge (p <0.05). The factors affecting the result of the learning process
included language and the villagers’ traditional beliefs and attitudes. Although the statistical increase
was not distinctive, the propagation of knowledge on poisonous plants and animals among the community
through a simple civil society was a learning strategy that was related to some extent to the educational
level in the community with regard to the local villagers in their own community. Furthermore, this
type of learning strategy may also be adapted for utilization in other public health-related work.