บทคัดย่อ
รายงานเบลมองต์เป็นส่วนหนึ่งของรายงานของคณะกรรมการชุดหนึ่งที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. 2517 ของสหรัฐอเมริกา ที่กำหนดให้ต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการคุ้มครองอาสาสมัครในการวิจัยทางชีวเวชศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ เพื่อทำหน้าที่คุ้มครองอาสาสมัครดังกล่าวอย่างเหมาะสม คณะกรรมการดังกล่าวใช้เวลาร่วม 4 ปี ทำงานอย่างต่อเนื่องจนได้ข้อสรุปเป็นรายงานเล่มโต ซึ่งส่วนหนึ่งคือข้อเสนอเรื่อง หลักจริยธรรมและแนวทางการคุ้มครองอาสาสมัครวิจัย ซึ่งเสนอเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2522 ข้อเสนอดังกล่าวนับว่าเป็นข้อเสนอที่ดีเยี่ยมเพราะเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการนำเสนอหลักการพื้นฐานสามประการด้านจริยธรรมของการวิจัยในมนุษย์ คือ หลักความเคารพในบุคคล หลักผลประโยชน์ และหลักความยุติธรรม หลักจริยธรรมพื้นฐานทั้งสามประการนี้ ไม่เคยปรากฏในหลักเกณฑ์จริยธรรมสากลการวิจัยในมนุษย์ที่เขียนขึ้นก่อนหน้านั้น รายงานเบลมองต์จึงได้สถานะเป็นหลักเกณฑ์จริยธรรมการวิจัยที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางไม่เฉพาะแต่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นต้นกำเนิดเท่านั้น ทั้งนี้ด้วยเหตุผลสำคัญนอกเหนือจากการเสนอหลักจริยธรรมพื้นฐานสามประการที่กล่าวแล้ว คือ ประการแรก มีการแยกแยะชัดระหว่างการปฏิบัติกับการวิจัย ประการที่สอง หลักจริยธรรมทั้ง 3 ข้อ สอดคล้องและเป็นหลักเดียวกันกับหลักจริยธรรมสากลในเวชปฏิบัติ เพียงแต่ระดับความลึก การประยุกต์ใช้และการเน้นแตกต่างกัน ประการที่สาม คำอธิบายหลักจริยธรรมทั้ง 3 ข้อครอบคลุมกว้างขวางทุกแง่ทุกมุม สอดคล้องกับปัญหาและความสำคัญของการส่งเสริมป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยในมนุษย์ ประการที่สี่ มีข้อเสนอการประยุกต์ใช้หลักจริยธรรมแต่ละข้ออย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจน ให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถศึกษา ทำความเข้าใจ และนำไปปฏิบัติได้ ประการที่ห้า เป็นข้อเสนอที่เขียนได้อย่างกระชับ ชัดเจน และทรงพลัง หลักจริยธรรมการวิจัยสามประการนี้ เมื่อมีการจัดทำหลักจริยธรรมสากลสำหรับสำหรับการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ของสภาองค์การสากลด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ (CIOMS) ก็ได้นำไปตอกย้ำไว้ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จนถือได้ว่าหลักดังกล่าวมีสถานะเป็นหลักจริยธรรมการวิจัยสากลโดยสมบูรณ์แล้ว สถาบันพัฒนาการคุ้มครองการวิจัยในมนุษย์ เห็นความสำคัญของรายงานเบลมองต์ดังกล่าวแล้วจึงได้แปลเป็นภาษาไทย เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกระดับตั้งแต่ นักวิจัย สถาบันวิจัย กรรมการจริยธรรมการวิจัย ผู้ให้ทุนสนับสนุนการวิจัย เจ้าหน้าที่รับผิดชอบอื่นๆ รวมทั้งอาสาสมัครวิจัย นักวิชาการ และประชาชนผู้สนใจ จะได้มีโอกาสศึกษาทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น