บทคัดย่อ
ผู้ป่วยตาต้อกระจกด้อยโอกาสในเขตอำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร มีส่วนหนึ่งไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดในระบบบริการปรกติได้ จนมีระดับสายตาเลือนรางมาก หรือตาบอดตามนิยามขององค์การอนามัยโลก จึงนำแนวคิดนำจักษุแพทย์พร้อมทีมผ่าตัดมาให้บริการฟรีที่โรงพยาบาลชุมชน โดยส่งผู้ป่วยไปวัดค่าแก้วตาเทียมก่อนผ่าตัด (ค่า A-scan) ที่โรงพยาบาลพิจิตร รับการผ่าตัดตาต้อกระจกด้วยวิธีไม่ต้องเย็บแผล และใส่แก้วตาเทียมที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน 161 ตา มาตรวจติดตามการรักษา 159 ตา ผู้ป่วยอายุ 42-82 ปี เฉลี่ย 68.9 ปี เกือบทั้งหมดเป็นโรคต้อกระจกตามอายุ ก่อนผ่าตัดมีระดับสายตา (VA) < 3/60 76 ตา (ร้อยละ 47.8) หลังผ่าตัด 1 เดือน 153 ตา (ร้อยละ 96) มีระดับสายตาดีขึ้น 3 ตา (ร้อยละ 1.9) มีระดับสายตาลดลง VA มากกว่าหรือเท่ากับ 6/18 67 ตา (ร้อยละ 42.1) และ VA 6/24-6/60 91 ตา (ร้อยละ 57.2) เมื่อวัดระดับสายตาผ่านแผงรูเข็ม VA มากกว่าหรือเท่ากับ 6/18 125 ตา (ร้อยละ 78.6) ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดไม่รุนแรงรักษาแล้วกลับเป็นปรกติ 10 ตา (ร้อยละ 6.3) ระยะเวลาในการผ่าตัดเฉลี่ยรายละ 42 นาที การดำเนินการครั้งนี้ช่วยแก้ปัญหาผู้ป่วยตาต้อกระจกตกค้างในชนบทที่ไม่มีโอกาสได้รับการผ่าตัด ให้พ้นจากภาวะตาบอด และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการปรับใช้กับโรงพยาบาลชุมชนอื่น หรือการออกหน่วยผ่าตัดต้อกระจก
บทคัดย่อ
This is a report of the results of a prospective series of manual sutureless extracapsular
cataract extraction on 161 eyes, performed at Taphanhin Crown Prince Hospital,
Phichit Province, in the period May 2006 - November 2007. The patients, aged 42 to 82
years (mean 68.9 years), had a preoperative visual acuity of less than 3/60 in 47.8 percent
of the cases (76 eyes). Of the 159 patients who returned for follow up, the visual acuity at
one month postoperatively was improved in 153 eyes (96.2 %), i.e., VA 6/18 or better in
42.1 percent, and 6/24 - 6/60 in 57.2 percent. When measured by pinhole, visual acuity
was 6/18 or better in 78.6 percent of the eyes. There was no major sight-threatening
complication; only minor surgical complications were encountered in 10 eyes (6.3%). In
conclusion, this intervention is cost-effective, appropriate and provides accessibility for
underserved cataract-blind patients in community hospitals. It also empowers health
personnel and should be implemented in other community hospitals or eye camps in
order to eliminate the backlog of such patients and improve the quality of life of the Thai
elderly in rural areas.