บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินต้นทุนเศรษฐศาสตร์ในการดูแลรักษาเด็กติดเชื้อเอชไอวีทั้งด้านผู้ให้บริการ และครอบครัวผู้ป่วย รวมทั้งศึกษาผลกระทบต่อครอบครัวผู้ป่วย ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยสำรวจครอบครัวเด็กอายุระหว่าง ๓๗ – ๑๕๔ เดือนที่ติดเชื้อเอชไอวี จำนวน ๓๕ คน ใน ๔ อำเภอและ ๑ กิ่งอำเภอของจังหวัดน่านที่มีความชุกของการติดเชื้อเอชไอวีสูง ในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ สัมภาษณ์เชิงลึกผู้ดูแลเด็กเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ผลกระทบต่อครอบครัว การสนทนากลุ่มผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิ ต้นทุนการรักษาเด็กติดเชื้อเอชไอวีในโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และสถานีอนามัยที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติเชิงพรรณนา
พบว่า ต้นทุนของสถานพยาบาลเฉลี่ย ๒,๗๗๐ บาทต่อเด็กติดเชื้อเอชไอวีต่อไป ต้นทุนของครอบครัวผู้ป่วยเฉลี่ย ๘๐๕ บาทต่อคนต่อปี รวมทั้งสิ้น ๓,๕๗๕ บาทต่อคนต่อปี อัตราการใช้บริการผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยในของเด็กติดเชื้อเอชไอวี สูงกว่าประชากรเด็กทั่วไป (อายุ ๕-๙ ปี) อยู่ ๑.๖ เท่า และ ๕ เท่าตามลำดับโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติช่วยบรรเทาภาระรายจ่ายด้านสุขภาพของครอบครัวเรือนเหล่านี้ลงได้มากครัวเรือนไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐ ค่าเดินทางและค่าเสียโอกาสจึงเป็นสัดส่วนรายจ่ายสำคัญของครัวเรือนตัวอย่าง
ในกรณีที่บิดาของเด็กเสียชีวิตจะส่งผลกระทบให้รายได้ครอบครัวลดลงมาก ถ้ามารดาเสียชีวิตด้วยคุณภาพชีวิตเด็กด้านอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพเด็กจะยิ่งเลวลง การได้รับการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพและทุนการศึกษาจากภาครัฐหรือองค์กรเอกชนภาพนอก มีบทบาทสำคัญ ในการช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพและพยุงให้ครอบครัวอยู่รอดได้เป็นการเฉพาะหน้า แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวได้
ผู้วิจัยได้รายงานผลการศึกษานี้แก่คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการติดเชื้อเอชไอวีระดับจังหวัดเพื่อกำหนดนโยบายและแผนปฏิบัติการระดับจังหวัด และให้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นระบบมากขึ้น