บทคัดย่อ
ขบวนการ R2R ประเทศไทยเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ INN
(Individual, Node, Network) เป็นกลไกขับเคลื่อน และใช้การจัดการความรู้
(Knowledge Management) หรือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ
(Interactive Learning Through Action) เป็นเครื่องมือของการขับเคลื่อน
ท่านที่ยังไม่คุ้นเคยกับหนังสือ เคล็ดไม่ลับคุณอำนวย ฟันเฟือง
ขับเคลื่อน R2R เล่ม 1 โปรดหาหนังสือเล่มนั้นมาอ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
คำนิยมที่ผมได้เขียนไว้ เป็นถ้อยคำที่ยังไม่ล้าสมัย อ่านได้ที่ http://
dspace.hsri.or.th/dspace/bitstream/123456789/3012/1/
hs1713-1.pdf
R2R (Routine to Research) เป็นสิ่งที่ก่อตัวขึ้นภายในประเทศไทย
ไม่ได้ลอกเลียนมาจากที่ใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการก่อเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ด้วยพลังของความเป็นมนุษย์ที่มีความปรารถนา (หรือจินตนาการ) ที่
จะสร้างสรรค์สิ่งที่มีคุณค่าให้แก่องค์กร (เริ่มจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราช
พยาบาล) แก่สังคมไทย และแก่เพื่อนมนุษย์ และด้วยคุณสมบัติของ
ความเป็นมนุษย์ที่มีความริเริ่มสร้างสรรค์ การเอื้ออำนวยให้เกิดพลัง
สร้างสรรค์รวมหมู่ (Collective Creativity) ของผู้ทำงานประจำ R2R
จึงอุบัติขึ้น และเมื่อมีการสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนาจ (Empower)
แก่ผู้ทำงานประจำ ให้ได้แสดงความสร้างสรรค์ของตนออกมาในลักษณะ
ของการสร้างสรรค์รวมหมู่ที่กว้างออกไป จากเพียงองค์กรเดียวสู่เครือข่าย
ทั้งประเทศ ปรากฏการณ์ R2R ประเทศไทยจึงเกิดขึ้นปรากฏการณ์เช่นนี้ต้องการการสร้างสรรค์ต่อเนื่อง ต้องการ
การเรียนรู้ต่อเนื่อง และต้องการการกระตุ้นส่งเสริมเอื้ออำนวย (Facilitate)
ต่อเนื่อง เพื่อยกระดับแรงบันดาลใจรวมหมู่ของคนหน้างาน หรือ
คนทำงานประจำ ยกระดับขีดความรู้ความสามารถในการตั้งคำถาม เพื่อ
นำไปสู่การดำเนินการเพิ่มคุณภาพของผลงานอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีข้อมูล
หลักฐานที่แม่นยำเชื่อถือได้ นำมาวิเคราะห์สังเคราะห์ให้เป็นความรู้ปฏิบัติ
ที่มีทฤษฎีหนุนได้
กล่าวง่ายๆ ว่า ขบวนการ R2R ต้องการกลไกขับเคลื่อนการเรียนรู้
ต่อเนื่อง
บุคคลสำคัญที่สุดที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน อำนวยความสะดวกของ
การเรียนรู้คือ “คุณอำนวย” (Knowledge Facilitator) คำกล่าวนี้พิสูจน์
แล้วด้วยผลการดำเนินงานของเครือข่าย R2R ประเทศไทย
การเสริมเพิ่มพลังให้แก่ “คุณอำนวย” จึงเป็นมาตรการเชิง
ยุทธศาสตร์สำคัญของขบวนการ R2R ประเทศไทย โดยที่วิธีการส่งเสริม
เพิ่มพลังก็ง่าย ใช้เครื่องมือเดียวกันกับเครื่องมือทำงานของ “คุณอำนวย”
นั่นเอง เครื่องมือนั้นคือ การจัดการความรู้ หรือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ประสบการณ์จากการปฏิบัติในหมู่ “คุณอำนวย” และสังเคราะห์ออกมา
เป็นหนังสือเผยแพร่ ดังหนังสือ เคล็ดไม่ลับคุณอำนวย ฟันเฟืองขับเคลื่อน
R2R เล่ม 1 ที่ตีพิมพ์ในปี 2553 และจนบัดนี้ก็ยังไม่ล้าสมัย
หนังสือ เคล็ดไม่ลับคุณอำนวย ฟันเฟืองขับเคลื่อน R2R เล่ม 2 นี้
เข้มข้นขึ้นในการใช้เครื่องมือจัดการความรู้ ถอดความรู้ออกมาจาก
ประสบการณ์ของคุณอำนวย R2R ทั้งประเทศ ทำให้ได้ความรู้ปฏิบัติที่
หาอ่านจากแหล่งใดๆ ไม่ได้เลย หนังสือ เคล็ดไม่ลับคุณอำนวย
ฟันเฟืองขับเคลื่อน R2R เล่ม 2 นี้ จึงเป็นการนำเอา “ความรู้มือหนึ่ง”เกี่ยวกับการทำหน้าที่คุณอำนวย R2R ออกเผยแพร่เป็นหนังสือที่จัดทำ
โดยคุณอำนวย จากความรู้ที่กลั่นออกมาจากการทำหน้าที่คุณอำนวย
เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้คุณอำนวย R2R ทั้งหลายนำไปปรับใช้ให้เหมาะสม
กับแต่ละสถานการณ์
หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือของคุณอำนวย โดยคุณอำนวย
และเพื่อคุณอำนวย R2R
แต่เป้าหมายของการจัดทำหนังสือเล่มนี้ยิ่งใหญ่กว่านั้น เพราะ
เราหวังให้หนังสือเล่มนี้เอื้ออำนาจ (Empower) คุณอำนวย R2R
ให้ “ทำหน้าที่รับใช้ผู้อื่น” ซึ่ง “ผู้อื่น” ในที่นี้ก็คือเพื่อนร่วมงานที่เป็น
คนหน้างานที่มีจริตและความเชื่อในการทำงานประจำให้เป็นงานพัฒนา
พัฒนาคุณภาพของผลงานของตนอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ ที่ในภาษา KM
เรียกว่า “คุณกิจ R2R”
หนังสือ เคล็ดไม่ลับคุณอำนวย ฟันเฟืองขับเคลื่อน R2R เล่ม 2
จึงมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้สังคมไทยมีการขับเคลื่อนขบวนการ R2R
อย่างมีพลัง ด้วยการลงมือทำของ “คุณกิจ” ที่เป็นคนหน้างาน หนุนด้วย
พลังของ “คุณอำนวย” ที่มี ฉันทะ วิริยะ และปัญญา ในการทำหน้าที่
“คุณอำนวย” โดยที่ปัญญาในที่นี้เน้น “ปัญญาปฏิบัติ” (Phronesis)
หนังสือ เคล็ดไม่ลับคุณอำนวย ฟันเฟืองขับเคลื่อน R2R เล่ม 2
บรรจุ “ปัญญาปฏิบัติ” (Phronesis) สำหรับ “คุณอำนวย R2R”
ไว้ตลอดเล่ม ในรูปแบบที่อ่านสบายๆ