บทคัดย่อ
ในวันที่ 22-24 พฤษภาคม 2549 ได้เกิดภัยธรรมชาติฝนตกหนักที่อำเภอลับแล อำเภอเมือง อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดใกล้เคียง เกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ประชาชนเกือบทั้งอำเภอลับแลได้รับความเดือดร้อนรุนแรง ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน บ้านเรือนในบริเวณน้ำท่วมและดินถล่มเสียหายเกือบทั้งหมด คณะวิจัยจึงไปทำการวิจัยเชิงคุณภาพแบบศึกษาปรากฏการณ์ (phenomenological approach qualitative research) เพื่อศึกษาการบรรเทาภัยพิบัติสถานการณ์ภัยพิบัติอำเภอลับแล หาแนวทางการพัฒนาแผนบรรเทาภัยพิบัติของทีมสาธารณสุขอำเภอลับแล โดยวิธีถอดบทเรียนในกลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือและผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 69 ราย ทำการสัมภาษณ์เชิงลึกรายบุคคลจำนวน 32 ราย และสนทนากลุ่มจำนวน 47 ราย ทำการสังเกตแบบมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม วิเคราะห์ฉากทัศน์ จัดทำแผนบรรเทาภัยพิบัติทีมสาธารณสุขจากฉากทัศน์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 90 ราย แล้ววิเคราะห์ข้อมูลโดยตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า ใช้โปรแกรม excel ช่วยในการจัดเรียงข้อมูล และวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยภัยพิบัติในวันที่ 22-24 พฤษภาคม 2549 ที่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกือบทั้งอำเภอลับแลได้รับความเดือดร้อนรุนแรง บ้านเรือนเรือกสวนที่อยู่ในบริเวณน้ำท่วมรุนแรงและดินถล่มเสียหายเกือบทั้งหมด ระบบไฟฟ้า การสื่อสารและการคมนาคมถูกตัดขาด ไม่สามารถประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ได้ การช่วยเหลือเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ล่าช้าและไม่ทั่วถึง แผนการบรรเทาภัยพิบัติของทุกหน่วยงานไม่มีประสิทธิภาพ ทีมเคลื่อนที่เร็วไม่สามารถออกให้ความช่วยเหลือในขณะเกิดเหตุ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นดำเนินการโดยการจัดหาพื้นที่ปลอดภัย คัดกรองผู้ป่วยและจัดหาเวชภัณฑ์ในพื้นที่ช่วยเหลือ ภายหลังเกิดเหตุมีหน่วยงานและอาสาสมัครมากมายเข้าให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ แต่ขาดการดำเนินงานตามแผนภัยพิบัติที่ถูกต้อง ได้ส่งผลให้เกิดความผิดพลาด ในการจัดเก็บข้อมูลและการให้ความช่วยเหลือในสวัสดิการต่างๆ การจัดทำแผนบรรเทาสาธารณภัยของทีมสาธารณสุขในระยะก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ควรเป็นการดำเนินงานในลักษณะของการประสานงานระหว่างทีมสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับอำเภอ และจังหวัด กำหนดบทบาทผู้รับผิดชอบในการสั่งการขณะเกิดเหตุ และอาสาสมัครด้านต่างๆ พัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน การรักษาพยาบาล วิทยาการระบาด จิตวิทยา รวมกำหนดระบบการประสานงานและการจัดเก็บข้อมูลในระยะก่อนเกิดเหตุ การเตรียมความพร้อมของทีมงาน การเตรียมทีมเตือนภัยในพื้นที่ ข้อมูลจุดเสี่ยงภัยในพื้นที่ และการฝึกซ้อมแผนภัยพิบัติแบบบูรณาการร่วมกับเครือข่ายบรรเทาภัยพิบัติต่างๆ ให้ครอบคลุมในทุกภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่
บทคัดย่อ
The study took a phenomenological approach to qualitative research, aimed at
studying disaster management following the destructive flooding and landslides in Lablae
district of Uttaradit Privince, and the development planning for disaster relief conducted
by the Lablae Public Health Team. Specific data were collected from 69 persons who
experienced the disaster, members of the rescue team and persons on whom the flooding
and landslides in Lablae district had an impact, 32 persons from an in-depth interview
and 47 persons from a focus group discussion as well as participants and non-participants, observers during the disaster, development of a disaster scenario for disaster relief
by the Lablae Public Health Team based on 90 participants, and analysis by data triangulation, using the Excel software program for category and data content analysis.
We was found that the flooding and landslide disaster that occurred during the
period May 22-24, 2006 adversely impacted the people of Lablae, Mange, and Thapla
districts and the surrounding province. Most people in Lablae suffered severe effects on
their lives and property. Many houses in the area of heavy flooding and landslides were
destroyed. Electricity, communication and transport systems were cuts making evaluation of the affected area impossible. The rescues were made only during the first stage;
they were delayed and not comprehensive. Also, the disaster relief plan of every office
involved was ineffective. The emergency team was unable to operate during the crisis.
The primary response was only to provide a safe area for the surveyed patients and medical
supplies. After the incident, although many organizations and volunteers rushed to the
area, they could not implement the relief plan, which resulted in incomplete data collection and the inefficient provision of security welfare.
The relief disaster plan of the health team must be operated in coordination with
public health and other relevant offices at all times: before, during and after such incidents, both at the district and provincial levels. The defined roles of the command post
and volunteers during the incident, together with the development of an emergency medical system, care-giving, epidemic prevention, psychotherapy, the readiness of the rescue
team, data on risky areas, rehearsal of integrated relief plans in all areas at risk of natural
disasters, and relief networks as well as the coordinating system and data collection must
be seriously considered before such incidents occur.