• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

กลไกและปัจจัยในการจัดการให้เกิดการใช้ยาอย่างสมเหตุผลโดยภาคประชาชน

พักตร์วิภา สุวรรณพรหม; หทัยกาญจน์ เชาวนพูนผล; ศิริตรี สุทธจิตต์; รัตนาภรณ์ อาวิพันธ์; ภูริดา เวียนทอง; ท้ัชชัย เรือนแปง;
วันที่: 2555
บทคัดย่อ
การศึกษานี้ใช้การทบทวนวรรณกรรมตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 - 2012 และการสัมภาษณ์เชิงลึกบุคลากรทางการแพทย์ ผู้นำชุมชน และประชาชนผู้ใช้ยา ในชุมชนที่มีประสบการณ์การสร้างเสริมศักยภาพของประชาชนร่วมกับการสนทนากลุ่ม เพื่อทบทวนรูปแบบ กลไก หรือ วิธีการพัฒนาศักยภาพการใช้ยาอย่างสมเหตุผลของประชาชน จากโจทย์ตั้งต้นที่ว่า จะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดการใช้ยาอย่างสมเหตุผลของประชาชน ผลการศึกษาพบว่าสำหรับประชาชนทั่วไปนั้นการใช้ยาอย่างเหมาะสมหมายถึงการกินยาเมื่อมีอาการและหยุดเมื่อหมดอาการ และคือการใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง ในการพัฒนาศักยภาพของประชาชนในการดูแลสุขภาพของตนเองเรื่องโรคและยานั้นต้องประกอบด้วย 3 องค์ประกอบคือ ความรู้ทักษะในการปฏิบัติและแก้ไขปัญหา และแรงจูงใจในการทำพฤติกรรมสุขภาพนั้นๆแต่อย่างไรก็ตาม ศักยภาพของประชาชนไม่ได้เกิดขึ้นได้ด้วยแรงผลักดันภายในของประชาชนแต่เพียงอย่างเดียว เนื่องจาก ในสภาวะปัจจุบันประชาชนยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องยาและสุขภาพ หากเปรียบเทียบกับการทำมาหากินเพื่อให้ได้เงินในการดูแลครอบครัวของตนเอง ดังนั้นแล้วหากจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาศักยภาพในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลบุคลากรทางการแพทย์จะเป็นกลไกหลักที่สำคัญในการดำเนินการ และต้องการการสนับสนุนจากปัจจัยเสริมอีกหลายประการ ดังต่อไปนี้ 1. การสร้างเสริมศักยภาพของประชาชนผู้ใช้ยา 1.1 จัดระบบข้อมูลเรื่องสุขภาพและการใช้ยาสำหรับประชาชน ที่น่าเชื่อถือ และเข้าถึงได้ง่าย 1.2 ขยายบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเอง 1.3 มีหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบจัดทำสื่อและการสื่อสารเรื่องสุขภาพและการใช้ยาอย่างสมเหตุผลที่เข้าถึงได้ง่ายและเหมาะสมกับผู้รับที่มีความหลากหลายทางบริบท และระดับความฉลาดทางสุขภาพ(health literacy) 1.4 สนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มกันของผู้ป่วย หรือประชาชนที่มีความสนใจเรื่องสุขภาพในโรงพยาบาล ศูนย์เรียนรู้ชุมชน หรือ จุดอื่นๆ ในชุมชน 2. การสร้างเสริมศักยภาพในการทำงานเชิงรุกของบุคลากรทางการแพทย์ 2.1 สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ทำงานแบบสหสาขาวิชาชีพในการสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องยาและบริบทการดำเนินชีวิตกับผู้ใช้ยา เพื่อที่จะได้ให้ข้อมูลในการดูแลตนเองเรื่องโรคและยาที่สอดคล้องกับประสบการณ์ และการดำเนินชีวิตประจำวันกับผู้ป่วยเฉพาะราย 2.2 ระบบการศึกษาเพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์ต้องทำให้เกิดการพัฒนาทัศนคติที่ดีในการดูแลผู้ป่วยเข้าใจเข้าถึงบริบทความเป็นจริงของคนไข้ 2.3 จัดการอบรมหรือฝึกปฏิบัติทักษะการทำงานเชิงรุกโดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางของทีมสหสาขาวิชาชีพ 2.4 สนับสนุนให้บุคลากรทางการแพทย์ ให้ได้มีโอกาสได้เรียนรู้ถึงปัญหา และบริบทการใช้ยาในชุมชนครัวเรือนของผู้ใช้ยา อย่างแท้จริง 2.5 จัดเวทีที่ให้บุคลากรทางการแพทย์ได้มาพบปะกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดประสบการณ์การทำงาน และแนวทางการแก้ไขปัญหา 3. ระบบที่การให้บริการสุขภาพที่สนับสนุนการทำงานเชิงรุกให้บริการแบบเป็นองค์รวม 3.1 การผลักดันนโยบายการดูแลแบบผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางอย่างองค์รวมการให้การบริการแบบปฐมภูมิอย่างแท้จริง 3.2 ผู้กำหนดนโยบายควรให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของประชาชนผู้บริโภค 3.3 มีการกำหนดนโยบายด้านระบบบริการสุขภาพที่สนับสนุนการทำงานเชิงรุกอย่างเป็นรูปธรรม 3.4 สนับสนุนนโยบายการดำเนินงานเชิงรุกที่ยืดหยุ่น และเหมาะสมกับบริบทแต่ละพื้นที่ 3.5 สนับสนุนการมีส่วนร่วมของระบบประกันสุขภาพ ให้การตอบแทนการดำเนินงานเชิงรุก 4. การสร้างบรรทัดฐานของสังคมเรื่องการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนทั้งระบบ ซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงต้องดำเนินงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ การดำเนินการผ่านกลไกสนับสนุนดังกล่าวข้างต้นควรจะเป็นการทำงานแบบผสมผสานบูรณาการเข้าด้วยกันแบบไม่แยกส่วน ด้วยการให้หน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องมีโอกาสที่จะมีปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์กันแบบสองทาง เนื่องจากเรื่องของชีวิตคนในสังคมเป็นสิ่งที่ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ไม่ได้แยกส่วนกัน
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2125.pdf
ขนาด: 19.80Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 1
ปีงบประมาณนี้: 11
ปีพุทธศักราชนี้: 2
รวมทั้งหมด: 674
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2478]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [620]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [100]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [126]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1288]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [229]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [21]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV