บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อศึกษาระบบบริการของกรุงเทพหานครในการควบคุมโรคอ้วนและภาวะแทรกซ้อน เพื่อศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยต่างๆ ในการควบคุมภาวะโรคอ้วนและโรคเรื้อรังในเขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อหาแนวทางการขยายผลการจัดการภาวะโรคอ้วนและภาวะแทรกซ้อนแบบบูรณาการในเขตกรุงเทพมหานคร โดยอาศัยการวิจัยเอกสารเพื่อรวบรวมนโยบายและระบบการบริหารของกรุงเทพมหานครในการป้องกันโรคอ้วนและภาวะอ้วนลงพุง รวมทั้งระบบบริการของกรุงเทพมหานครในการ ควบคุมโรคอ้วนและภาวะแทรกซ้อน และอาศัยการวิจัยภาคสนามด้วยการสัมภาษณ์ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ทั้งผู้บริหารส่วนกลางของกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารหน่วยงานที่กำกับดูแลพื้นที่ชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก เป็นจำนวน 11 คน นอกจากนี้ยังได้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามการพัฒนารูปแบบการจัดการปัญหา อ้วนลงพุงและภาวะแทรกซ้อนอย่างยั่งยืนของประชากรในเขตกรุงเทพมหานครจากกลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งสิ้น 399 คน และดำเนินการวิเคราะห์และพรรณนาข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาสำคัญชี้ให้เห็นว่า นโยบายและระบบการให้บริการสุขภาพส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ไม่ได้เอื้อต่อการจัดการปัญหาภาวะอ้วนลงพุง อีกทั้งนโยบายดังกล่าวไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ จึงทำให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขาดศักยภาพในการดำเนินงานและการวางแผนนโยบายในระดับปฏิบัติการอย่างชัดเจน นอกจากนี้วิธีการดำเนินงานในการลดปัญหาโรคอ้วนลงพุงครอบคลุมเพียงกลุ่มประชากรที่ใช้บริการของโรงพยาบาลเท่านั้น มากไปกว่านั้นบุคลากรที่ดำเนินงานในการดูแลผู้ที่มีปัญหาอ้วนลงพุงยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพอันเนื่องมาจากขาดความรู้ และทักษะเฉพาะในการแนะนำด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย ในขณะที่ผลจากการสำรวจพบว่า ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีน้ำหนักอยู่ในระดับปกติ คิดเป็นร้อยละ 41.9 รองลงมาได้แก่ ระดับเกินเกณฑ์มาตรฐาน และต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน คิดเป็นร้อยละ 38.2 และ 19.9 ตามลำดับ และค่าดัชนีวัดความอ้วนโดยประเมินจากรอบเอวและรอบสะโพก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานครมีความเสี่ยงภาวะเป็นโรคอ้วนลงพุง คิดเป็นร้อยละ 44.1 รองลงมามีภาวะโรคอ้วน 33.7 และมีเกณฑ์ปกติ 24.1 และประชาชนเริ่มมีความเสี่ยงการเป็นโรคอ้วนลงพุงเพิ่มขึ้นและมีผลต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง การเป็นโรคเบาหวาน โรคไขมันอุดตัน โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย ดังนั้นการเกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารประเภทต่างๆ ได้แก่ อาหารที่ให้น้ำตาลสูง อาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ อาหารที่มีไขมันสูง อาหารเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน อาหารจานด่วน เป็นต้น และพฤติกรรมการกินที่หลากหลายและกินแบบจุกจิก มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา ไม่รับประทานอาหารมื้อเช้าหรือมื้อกลางวัน แต่ไปเน้นในการรับประมาณมื้อเย็นตลอดจนมื้อดึก มีพฤติกรรมการสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ่อยครั้งหรือรับประทานอาหารมากๆ ในช่วงวันหยุดหรือเทศกาลต่างๆ มีการบริโภคอาหารโดยที่ไม่รู้สึกหิวโดนบังคับเพราะอาหารมีสีสันและอยากกิน บวกกับการมีพฤติกรรมเกี่ยวกับกิจกรรมทางกายน้อยลง ไม่มีการออกกำลังกายหรือออกกำลังกายแต่ไม่เพียงพอ มีสมดุลพลังงานรับเข้ามากกว่าพลังงานที่ใช้ไป จึงเป็นผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชนและทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คณะผู้วิจัยจะได้นำผลการศึกษาเพื่อเป็นแนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อภาวะอ้วนลงพุงไปใช้ในการแก้ปัญหาภาวะอ้วนลงพุงในประชากรเขตกรุงเทพมหานคร โดยมุ่งเน้นการฝึกการอบรมบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง และเผยแพร่องค์ความรู้สู่ชุมชนโดยวิธีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสู่ประชาชน และชุมชนในเขตกรุงเทพมหานครในงานโครงการฯ ปีที่ 2 ต่อไป