บทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นจัดกิจกรรม 7 ครั้ง เวลา 16 สัปดาห์ โดยทีมพี่เลี้ยงและบุคลากรสาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เนื้อหาประกอบด้วยความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน การรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม การควบคุมกายและใจเพื่อสุขอนามัยที่ดี การประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ และการตั้งเป้าหมายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างคือ กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์คัดเลือก ดำเนินการที่ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี โดยกลุ่มทดลองจะให้จับคู่แบบเพื่อนช่วยเพื่อน กระตุ้นเตือนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ ประเมินประสิทธิผลของโปรแกรม โดยใช้การศึกษาแบบกึ่งทดลองมีกลุ่มเปรียบเทียบวัดผลก่อนและหลังจัดโปรแกรม ตัววัดหลักที่สำคัญได้แก่ พฤติกรรมสุขภาพ (การรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย) ระดับน้ำตาลในเลือด ดัชนีมวลกาย เส้นรอบเอว และความพึงพอใจของกลุ่มเสี่ยงต่อการเข้าร่วมโปรแกรม ประชากรกลุ่มตัวอย่างจำนวน 60 คน (กลุ่มทดลอง 30 คน และกลุ่มเปรียบเทียบ 30 คน) หลังสิ้นสุดโปรแกรม วิเคราะห์ผลลัพธ์โดยการควบคุมด้วยค่าก่อนจัดโปรแกรมของตัวแปรนั้น พบว่า ระดับน้ำตาลในเลือด (กลุ่มทดลอง 90.1 มก./ดล. และกลุ่มเปรียบเทียบ 95.3 มก./ดล.) ดัชนีมวลกาย (กลุ่มทดลอง 25.7 กก./ม2 กลุ่มเปรียบเทียบ 29.1 กก./ม2) ทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนตัวแปรที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติคือ เส้นรอบเอวของกลุ่มทดลองลดลงมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ (ความต่างเฉลี่ย 5.9 ซม.; 95%CI = 2.4, 9.4) พฤติกรรมสุขภาพ (ความต่างเฉลี่ย 3.6 คะแนน; 95%CI = 0.3, 6.9) และความรู้ (ความต่างเฉลี่ย 2.0 คะแนน; 95%CI = 0.6, 3.4) เพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มทดลองร้อยละ 96.7 มีความพึงพอใจต่อโปรแกรมระดับมากและมากที่สุด โปรแกรมนี้ช่วยลดเส้นรอบเอวและทำให้มีพฤติกรรมสุขภาพและความรู้ดีขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชุมชน
บทคัดย่อ
The aim of this research and development study was to develop model of lifestyle intervention for
preventing type 2 diabetes mellitus (DM) among the high-risk population. The Diabetes Prevention Program
(DPP) was designed to modify the lifestyle through seven meetings (in 16 weeks) organized by the
researcher team and the public health nurses of the Sub-district Health Promoting Hospitals. The education
and the empowerment program consisted of healthy diet, physical activity, stress management, DM
risk assessment, and goal setting of health behaviors. The participants were selected from the diabetes high-risk group in the local community, Kudjub district, Udonthani province, Thailand. The intervention
participants were encouraged to match a buddy for coaching each other for 16 weeks of the applied DPP.
Quasi-experimental study was used to evaluate the effectiveness of the model. The outcome measures
were the body mass index (BMI), waist circumference (WC), fasting blood sugar (FBS), health behaviors,
and the satisfaction of the applied DPP. Sixty participants that consisted of 30 intervention participants
and 30 controls were included. After 16 weeks of the intervention, the adjusted mean difference of the FBS
(90.1 mg/dl for the intervention group vs 95.3 mg/dl for the controls) and the BMI (25.7 kg/m2 vs 29.1
kg/m2) were not statistically significant between the two groups. The WC was significantly decreased
among the intervention group compared to the controls (mean difference = 5.9 cm; 95% CI = 2.4-9.4).
Health behaviors (mean difference = 3.6 score; 95% CI = 0.3-6.9 ) and the knowledge (mean difference = 2.0
score; 95% CI = 0.6-3.4) were significantly increased among the intervention group compared to the controls.
Collectively, 96.7% of the intervention group was satisfied with the applied DPP at the high to the
highest levels. The lifestyle program indicated significant improvement of the WC and the health behaviors
and could contribute to prevent the type 2 DM in the local community.