• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Articles
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Articles
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การจัดการระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิในเขตเมือง กรณีศึกษาจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดบุรีรัมย์

วริศา พานิชเกรียงไกร; Warisa Panichkriangkrai; เอนก มุ่งอ้อมกลาง; Anek Mungaomklang; อังคณา สมนัสทวีชัย; Angkana Sommanustweechai; เยาวลักษณ์ แหวนวงษ์; Yaowaluk Wanwong; วลัยพร พัชรนฤมล; Walaiporn Patcharanarumol; วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร; Viroj Tangcharoensathien;
วันที่: 2560-06-30
บทคัดย่อ
จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีโรงพยาบาลศูนย์อยู่ในอำเภอเมืองโรงพยาบาลศูนย์นี้ต้องให้บริการทั้งผู้ป่วยในเขตอำเภอเมือง ในเขตจังหวัด และเขตพื้นที่ของจังหวัดอื่นที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้มีภาระมาก ผู้บริหารระดับจังหวัดจึงมีแนวคิดที่มุ่งลดความแออัดในการให้บริการผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลศูนย์ทำให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของหน่วยบริการปฐมภูมิ เพื่อให้สามารถเป็นหน่วยบริการคู่สัญญา (contracting unit for primary care, CUP) กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ หน่วยบริการคู่สัญญาที่ทำหน้าที่ให้บริการประจำเหล่านี้ มีศักยภาพในการให้บริการแบบผู้ป่วยนอกและการส่งเสริมสุขภาพแก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ และสามารถบริหารจัดการงบประมาณของพื้นที่รับผิดชอบเองได้ (autonomous CUP) การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการการจัดตั้ง autonomous CUP การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล เงิน และการบริการ ผลการดำเนินงานทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ และปัจจัยสำคัญในการจัดตั้งautonomous CUP เพื่อเป็นบทเรียนในการพัฒนาการจัดระบบบริการในเขตอำเภอเมืองสำหรับพื้นที่อื่นๆ ต่อไป ผลการศึกษาพบว่า autonomous CUP เป็นการผลักดันนโยบายจากผู้ปฏิบัติงานที่มุ่งหวังการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานและผลักดันให้ผู้บริหารดำเนินการ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ ตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ แพทย์ รองลงมาคือผู้ช่วยแพทย์แผนไทยและเจ้าหน้าที่สนับสนุน จำนวนประชากรขั้นต่ำต่อพื้นที่ให้บริการ คือ 21,000 ราย จึงจะสามารถบริหารจัดการเงินโดยไม่ขาดทุนได้ ปัจจัยสำคัญในการดำเนินงาน คือ นโยบายที่มุ่งมั่นของผู้บริหารในพื้นที่ที่ต้องมีความเข้าใจและดำเนินนโยบายในทิศทางเดียวกัน และการมีแพทย์เกษียณร่วมให้บริการ ความท้าทายคือ การเพิ่มบทบาทของคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขระดับอำเภอ (คปสอ.) และการใช้ระบบบริการสุขภาพระดับอำเภอ (district health system) เพื่อการติดตามประเมินผล ทั้งนี้ ควรมีผู้รับผิดชอบหลักเพื่อจัดการปัญหาการขาดความเชื่อมโยงของระบบ

บทคัดย่อ
Health service provision in urban area is a key challenge in Thailand as there is only tertiary care hospital and a network of health center provides curative and health prevention services. As a result, primary care services seem to be neglected. Recently, there are interventions to upgrade health health promotion services in Mueang districts of Nakhon Ratchasima and Burirum provinces. Capitation budget for out-patient care is now transferred to CUP instead of provincial hospital. This study aims to explore process in setting up those autonomous CUPs as well as key success factors and remaining challenges in these provinces to be lessons learned for other provinces. We reviewed documents and interviewed key informants who involved in setting up autonomous CUPs or were working in those CUPs. Results showed that main purposes of autonomous CUPs were to reduce crowdedness of provincial hospitals and to improve quality and access of health services at health centers. One major change after the implementation was the increased numbers of staff especially those of medical doctors and supporting staff. Key success factors are consistent with policy direction at provincial and district levels as well as availability of retired medical doctors who were key human resources. The remaining challenges were to increase active role of District Health Coordinating Committee, integrate district health system principle and appoint responsible persons to coordinate health service system within the district.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hsri_journal_v11n ...
ขนาด: 655.6Kb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 1
เดือนนี้: 56
ปีงบประมาณนี้: 697
ปีพุทธศักราชนี้: 408
รวมทั้งหมด: 3,926
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Articles [1366]

    บทความวิชาการ


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [620]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [100]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [126]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1288]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [229]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [21]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV