บทคัดย่อ
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสซิกาจากระบบเฝ้าระวังโรค ประมาณ 1-5 รายต่อปี โดยพบผู้ป่วยประปรายในทุกภาคของประเทศ แต่ไม่พบผู้ป่วยอาการรุนแรงในประเทศไทย และยังมีข้อบ่งชี้ทางน้ำเหลืองวิทยาว่ามีการติดเชื้อไวรัสซิกาในผู้ที่เป็นไข้ไม่ทราบสาเหตุ แต่ยังมีรายงานของทารกที่มีศีรษะเล็กมาแต่กำเนิดที่มีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสซิกาในประเทศไทยจำนวนไม่มากนัก การศึกษานี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของความผิดปกติของระบบประสาทและไขสันหลังทารกในครรภ์กับการติดเชื้อไวรัสซิกาในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งอาจจะทำให้พบความสัมพันธ์ของภาวะดังกล่าวในประเทศไทยซึ่งเป็นพื้นที่ตรวจพบการระบาดของไวรัสซิกาได้ ดังนั้นการศึกษานี้ได้ทำการประเมินหญิงตั้งครรภ์ที่ตรวจพบความผิดปกติจากการตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงในส่วนสมองและไขสันหลังของทารกในครรภ์และประเมินการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อไวรัสซิกาอันจะทำให้ทราบร่องรอยการติดเชื้อไวรัสซิกาและรูปแบบการสนองของระบบภูมิคุ้มกันและอาจเข้าใจพยาธิกำเนิดในหญิงตั้งครรภ์ ผลการศึกษาในปีที่สองมีอาสาสมัครหญิงตั้งครรภ์ ทั้ง 50 ราย ที่พบความผิดปกติในระบบประสาทและไขสันหลังในทารก สามารถพบสารพันธุกรรมของไวรัสซิกาในน้ำคร่ำ 1 ราย (ร้อยละ 2.00) และในชิ้นส่วนของทารกที่ทำการยุติการตั้งครรภ์ 3 ราย (ร้อยละ 6.00) ซึ่งทั้งสามรายมีผลการตรวจแอนติบอดีที่จำเพาะต่อซิกา ชนิด IgG เป็นบวก มีเพียงรายเดียวที่มีระดับแอนติบอดีที่สามารถยับยั้งการติดเชื้อไวรัสซิกา สูงมากกว่า 1,280 จากผลการศึกษาพบว่า ความผิดปกติของระบบประสาทและไขสันหลังในทารกมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อซิกาไวรัสในมารดา ถึงร้อยละ 6 และระดับแอนติบอดีที่พบในมารดาไม่มีความสัมพันธ์กับบ่งชี้การติดเชื้อ แต่การตรวจวัดระดับแอนติบอดียังคงมีความสำคัญเพื่อบ่งชี้ความสามารถในการป้องกันการติดเชื้อในมารดา การศึกษานี้ชี้ว่าการติดเชื้อไวรัสซิกา อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติในทารก ซึ่งต้องการการคัดกรองที่หลากหลายจะทำให้การวินิจฉัยได้แม่นยำขึ้น และแพทย์สามารถนำไปวางแผนดูแลการตั้งครรภ์ และการตรวจรักษาหลังคลอดได้ การคัดกรองการติดเชื้อที่รวดเร็วยังเป็นประโยชน์ให้แพทย์ใช้ประกอบการให้คำแนะนำและตัดสินใจในการยุติการตั้งครรภ์ในกรณีที่ทารกในครรภ์มีความพิการที่รุนแรง ซึ่งข้อมูลนี้สามารถรองรับการวิจัยวัคซีนทางคลินิกในอนาคตต่อไป