• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

คลินิกพัฒนาการเด็กต้นแบบ และการศึกษาผลการส่งเสริมเด็กพัฒนาการล่าช้า เด็กออทิสติกด้วยโปรแกรมไทย

แก้วตา นพมณีจำรัสเลิศ; Kaewta Nopmaneejumruslers; เพลิน ประทุมมาศ; Plern Pratoommas; กันนิกา เพิ่มพูนพัฒนา; Kannika Permpoonputtana; ประพา หมายสุข; Prapa Maisook; ฒามรา สุมาลย์โรจน์; Tamara Sumalrot; กุณฑลีพร อมรชัยยาพิทักษ์; Koonthaleeporn Amornchaiyapitak; ธนยศ สุมาลย์โรจน์; Thanayot Sumalrot; ตติมา กล่อมจันทร์; Tatima Klomchan; กันย์ญาดา เอี่ยมสุนทร; Kanyada Iamsoontorn; จิตตินันท์ ชิ้นปิ่นเกลียว; Jittinan Chinpinkyo;
วันที่: 2564
บทคัดย่อ
ออทิสติกมีสาเหตุจากพันธุกรรมที่ส่งผลให้เกิดความบกพร่องของสมองและระบบประสาท การแก้ไขความบกพร่องต้องอาศัยหลักการทางสมองและระบบประสาท Neuroplasticity หรือ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนของสมอง มีองค์ประกอบที่เป็นหลักสำคัญ คือ การเริ่มกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่อายุยังน้อย รูปแบบวิธีการที่ตรง มุ่งเป้าไปที่ความบกพร่องหลักของโรค และสมองตื่นตัวพร้อมเรียนรู้ คือ เด็กรู้สึกสนุก สนใจ ชอบ ร่วมกับความถี่ ความสม่ำเสมอในการส่งเสริมพัฒนาการ วัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการคัดกรองและส่งเสริมเด็กพัฒนาการล่าช้า เด็กออทิสติกด้วยโปรแกรมไทย โดยเปรียบเทียบจากการเปลี่ยนแปลงของพัฒนาการเด็กและเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของพ่อแม่ ก่อนและหลังใช้โปรแกรมไทย และเพื่อศึกษาจุดแข็งของชุมชนประเทศไทยในการดูแลเด็กพัฒนาการล่าช้า เด็กออทิสติก ระเบียบวิธีวิจัย เป็นแบบผสานวิธี โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้ดูแลหลัก รูปแบบการวิจัยกึ่งทดลอง ทดสอบก่อนและหลัง ผลลัพธ์หลัก คือ พัฒนาการอารมณ์สังคม (Functional Emotional Assessment Scale, FEAS) และทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับเด็ก (I-CARE) ผลลัพธ์รอง คือ พัฒนาการเด็กปฐมวัย 5 ด้าน (DSPM) และความเครียดของพ่อแม่ (PSI) วิธีการเก็บข้อมูล FEAS และ I-CARE โดยบันทึกภาพวีดิทัศน์ผู้ดูแลเล่นกับเด็กเวลา 15 นาที/คลิป ช่วงก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ ประเมินโดยวิธี Blinded Ratings แบบประเมิน DSPM และ PSI เก็บข้อมูลและประเมินผลโดยบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ THAI Model ประกอบด้วย 3 กระบวนการหลัก คือ 1) การ Coaching ผู้ดูแลในคลินิกพัฒนาการเด็ก 2 ครั้ง/เดือน หรือ เยี่ยมบ้าน 2) การส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่บ้านตามหลัก I-CARE อย่างน้อย 10 ชั่วโมง/สัปดาห์ (หรือ 1 1/2 ชั่วโมง/วัน) และ 3) กิจกรรมห้องเรียนพ่อแม่ทุก 2-3 เดือน พื้นที่ศึกษา โรงพยาบาลจาก 5 ภูมิภาคของประเทศไทย ผู้เข้าร่วมวิจัยเป็นเด็กอายุ 1-4 ปี จำนวน 46 คน ที่สงสัยภาวะออทิสติก (DSPM ล่าช้า + MCHAT-R พบความเสี่ยง) ผลการวิจัยพบว่า สัดส่วนของเด็กที่ผ่านการคัดกรอง (DSPM และ M-CHAT-R) จำนวน 46 คน ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะออทิสติก จำนวน 26 คน หรือ คิดเป็น 56% ผู้ดูแลเด็กทั้ง 46 ครอบครัว มีค่าเฉลี่ยทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับเด็ก (I-CARE) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Meandiff = 4.4, p = .000) และค่าเฉลี่ยความเครียดของผู้ดูแล (PSI) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Meandiff = 9.8, p =.000) พัฒนาการเด็กทั้ง 46 คน พบว่า ค่าเฉลี่ยพัฒนาการอารมณ์สังคมของเด็ก (FEAS) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Meandiff = 3.2, p = .004) และผลการประเมินพัฒนาการ (DSPM) พบว่า มีเด็กที่ผ่านการคัดกรองตามช่วงวัยจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (z = 6.12, p = .008) ผลการวิเคราะห์เฉพาะในกลุ่มเด็กออทิสติก 26 คน พบว่า ผู้ดูแลมีทักษะการมีปฏิสัมพันธ์ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ค่าเฉลี่ยพัฒนาการอารมณ์สังคมเด็กดีขึ้น แต่ไม่พบนัยสำคัญทางสถิติ โดยพบว่า มีผู้ดูแลเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น ที่สามารถให้เวลาอย่างสม่ำเสมอในการลงมาเล่นกับเด็กเพื่อส่งเสริมพัฒนาการ จุดแข็งของชุมชนประเทศไทยในการดูแลเด็กพัฒนาการล่าช้า เด็กออทิสติก พบว่า ครอบครัวส่วนใหญ่ในสังคมต่างจังหวัดยังคงอยู่กันแบบเป็นครอบครัวใหญ่ ทำให้มีเวลาช่วยกันดูแลเด็ก มีสัมพันธภาพที่ดีในชุมชน นอกจากนั้นการทำงานกับเครือข่ายในพื้นที่ สิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ มิตรภาพในชุมชน ยังเป็นส่วนสำคัญในการเสริมพลังพ่อแม่ สรุป โปรแกรมไทยแสดงให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนกระบวนการส่งเสริมพัฒนาการเด็กพัฒนาการล่าช้า เด็กออทิสติก งานวิจัยนี้พบว่า ทักษะผู้ดูแลและพัฒนาการเด็กดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในส่วนครอบครัวเด็กที่มีภาวะออทิสติก พบว่า ความถี่ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กยังไม่มากพอ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมองและระบบประสาท
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2695.pdf
ขนาด: 7.676Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 6
ปีพุทธศักราชนี้: 2
รวมทั้งหมด: 123
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2469]

    งานวิจัย

ชิ้นงานที่เกี่ยวข้อง

แสดงชิ้นที่เกี่ยวข้องโดย ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง ผู้สร้าง และหัวเรื่อง

  • การศึกษารูปแบบการนำเครื่องมือวินิจฉัยภาวะออทิสซึมในระยะเริ่มแรกสำหรับเด็กไทยไปสู่การปฏิบัติงานในบริบทจริงของเขตสุขภาพที่ 1 (ปีที่ 2) 

    สมัย ศิริทองถาวร; Samai Sirithongthaworn; ดวงกมล ตั้งวิริยะไพบูลย์; Duangkamol Tangviriyapaiboon; โชษิตา ภาวสุทธิไพศิฐ; Chosita Pavasuthipaisit; หทัยชนก อภิโกมลกร; Hathaichanok Apikomolkorn; ปริวัตร เขื่อนแก้ว; Pariwat Kuankaew; อมรา ธนศุภรัตนา; Amara Thanasuparatana; นพวรรณ บัวทอง; Noppawan Buathong; ชญานิษฐ์ อนันตวรวงศ์; Chayanit Anantavorawong; เสาวรส แก้วหิรัญ; Saowarod Kaewhiran; ชิดาวรรณ สุยะก๋อง; Chidawan Suyakong; มัลลิกา ปัญญาผาบ; Mallika Panyaphab; พลอยพิมพ์ พุทธปวน; Ploypim Puttapuan (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2564-03)
    การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยประยุกต์ (Applied research) มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการใช้เครื่องมือวินิจฉัยภาวะออทิสซึมในระยะเริ่มแรกสำหรับเด็กไทย และเพื่อศึกษาแนวทางในการนำเครื่องมือ Thai Diagnostic Autism ...
  • THAI Model คู่มือดูแลเด็กพิเศษด้วยหัวใจ-ความสุข 

    แก้วตา นพมณีจำรัสเลิศ; Kaewta Nopmaneejumruslers (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2563)
    คู่มือดูแลเด็กพิเศษด้วยหัวใจ-ความสุขนี้ เป็นโปรแกรมที่ออกแบบเพื่อพ่อแม่คนไทยตามบริบทสังคมไทยให้สามารถเข้าใจตัวตนของเด็กออทิสติก เด็กพิเศษ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก โดยเน้น 3 เรื่องหลัก พัฒนาการอารมณ์และสังคม, สัมพันธภาพในครอบครัว ...
  • ออทิสติก-คนพิเศษ ที่ต้องสังเกตและเข้าใจ 

    แก้วตา นพมณีจำรัสเลิศ; Kaewta Nopmaneejumruslers (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2563)
    'ออทิสติก' เป็นโรคที่มีความผิดปกติของพัฒนาการและระบบประสาท ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ควรจะต้องได้รับการแก้ไขและดูแลอย่างถูกวิธี ซึ่งในเด็กปฐมวัยถือเป็นช่วงวัยที่สมองกำลังมีการพัฒนา อีกทั้งยังรวมถึงพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจ ...

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [158]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1281]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV