• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การสำรวจภาวะสุขภาพนักเรียนในประเทศไทย พ.ศ. 2564

กระทรวงสาธารณสุข. กลุ่มอนามัยเด็กวัยเรียนวัยรุ่น สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย;
วันที่: 2565-02
บทคัดย่อ
สำหรับในประเทศไทย โดยกรมอนามัยได้ดำเนินการสำรวจภาวะสุขภาพนักเรียน ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2551 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณและการสนับสนุนทางวิชาการจากองค์การอนามัยโลก ดำเนินการโดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและแบบสำรวจมาตรฐานที่ใช้ร่วมกันทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (US-CDC) ร่วมกับ องค์การอนามัยโลก การสำรวจกลุ่มตัวอย่าง เป็นกลุ่มนักเรียนอายุระหว่าง 13-15 ปี โดยศึกษาพฤติกรรมต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต การเจ็บป่วยในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ การสำรวจดังกล่าว ครอบคลุมองค์ประกอบทั้งหมด 10 ด้าน ที่มีส่วนสัมพันธ์กับปัจจัยและสาเหตุของการเสียชีวิตและการเจ็บป่วยในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ (1) การดื่มแอลกอฮอล์ (2) พฤติกรรมการบริโภค (3) การใช้สารเสพติด (4) พฤติกรรมด้านสุขอนามัย (5) สุขภาพจิต (6) กิจกรรมการออกกำลังกาย (7) ปัจจัยด้านการป้องกัน (8) พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ (9) การสูบบุหรี่ (10) ความรุนแรงและการบาดเจ็บโดยไม่เจตนา ซึ่งผลการสำรวจในครั้งแรก พบว่า พฤติกรรมเสี่ยงของนักเรียนที่สำคัญ ได้แก่ การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ รวมถึงด้านความรุนแรงและการบาดเจ็บ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบายและแนวทางในการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพเด็กวัยเรียนและเยาวชน และในปี พ.ศ. 2558 องค์การอนามัยโลกได้สนับสนุนให้ดำเนินการสำรวจภาวะสุขภาพในนักเรียนอายุระหว่าง 13-17 ปี เป็นครั้งที่ 2 ในประเทศไทย ซึ่งได้มีการดำเนินงานในลักษณะโครงการวิจัยโดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและแบบสำรวจเดียวกันกับการสำรวจครั้งแรก ผลการสำรวจครั้งที่สอง พบว่า ภาวะน้ำหนักเกินในเด็กมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับความชุกของพฤติกรรมเสี่ยงที่สำคัญ เช่น การดื่มเหล้า การสูบบุหรี่ความรุนแรงและการบาดเจ็บ พฤติกรรมทางเพศ รวมถึงภาวะสุขภาพจิต ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน และในการสำรวจภาวะสุขภาพนักเรียนในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ.2564 นี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจภาวะสุขภาพเด็กวัยเรียนและเยาวชนทั้งด้านพฤติกรรมสุขภาพและปัจจัยการป้องกันและนำข้อมูลที่ได้มาใช้เพื่อการจัดทำนโยบายและมาตรการที่เหมาะสม รวมทั้งติดตามทิศทาง หรือแนวโน้มความชุกของพฤติกรรมสุขภาพและปัจจัยการป้องกันในเด็กวัยเรียนและเยาวชนไทยโดยเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้า และเพื่อเปรียบเทียบข้อมูลภาวะสุขภาพเด็กวัยเรียนและเยาวชนของประเทศต่างๆ โดยการวิจัยในครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบตัดขวาง โดยเก็บข้อมูลพฤติกรรมนักเรียนในโรงเรียนสังกัดรัฐบาลและสังกัดเอกชน ที่มีนักเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 การสุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่าง ใช้เทคนิคการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเพื่อการสร้างกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ทั่วประเทศ เก็บข้อมูลภาคสนามในช่วงเดือน มกราคม ถึง มีนาคม พ.ศ. 2564 ผลการสำรวจประชากรกลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 รวมทั้งสิ้นจำนวน 5,661 คน จากจำนวน 59 โรงเรียน เป็นโรงเรียนสังกัดรัฐบาลและสังกัดเอกชนทั่วประเทศ แบ่งเป็นนักเรียนชาย จำนวน 2,504 คน (ร้อยละ 46.9) และนักเรียนหญิง จำนวน 3,135 คน (ร้อยละ 53.1) ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 13-17 ปี จำนวน 4,801 คน (ร้อยละ 86.5) รองลงมาอายุ 18 ปี หรือมากกว่า จำนวน 624 คน (ร้อยละ 10.6) และมีอายุ 12 ปี หรือน้อยกว่า จำนวน 232 คน (ร้อยละ 2.8) สรุปผลการสำรวจในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนของนักเรียนไทย เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี พ.ศ. 2551-2564 ซึ่งเด็กนักเรียนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วนและยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อเรื้อรัง นอกจากนั้น พฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กนักเรียนก็ยังน่ากังวล โดยพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ ดื่มน้ำอัดลมและรับประทานอาหารฟาสต์ฟูดเป็นประจำในขณะที่ระดับการบริโภคผักและผลไม้นั้นค่อนข้างตํ่า นอกจากนี้ พบว่า นักเรียนมีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพออยู่ในดับตํ่า ขณะที่พฤติกรรมเนือยนิ่งนั้นสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ด้านสุขอนามัยส่วนบุคคล ภาพรวมมีแนวโน้มดีขึ้น ยกเว้น ประเด็นไม่มีห้องส้วมสะอาดที่โรงเรียนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการระบาดใหญ่ครั้งล่าสุดได้เน้นยํ้าถึงความสำคัญของการสุขาภิบาลน้ำและสุขอนามัย (WASH) การเข้าถึงน้ำ การสุขาภิบาลและการปฏิบัติ ด้านสุขอนามัยที่ดี ผลการสำรวจ พบนักเรียนมีพฤติกรรมเสี่ยงในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้สารเสพติดและการสูบบุหรี่ ทั้งนี้พบว่าในกลุ่มนักเรียนเริ่มเสพครั้งแรกก่อนอายุ 14 ปี หรือน้อยกว่านั้น ความชุกของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การเสพสารเสพติดและการสูบบุหรี่ในกลุ่มนักเรียนลดลงเพียงเล็กน้อยตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักเรียนยังเสี่ยงต่อการบาดเจ็บโดยไม่เจตนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอุบัติเหตุรถยนต์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บรุนแรง ผลการสำรวจยังพบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ไม่เคยหรือนานๆ ครั้งที่จะใช้เข็มขัดนิรภัย เมื่อนั่งรถยนต์และสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่จักรยานยนต์ จึงเป็นประเด็นสำคัญเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในปัญหานี้ เพื่อลดความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ด้านพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ สัดส่วนของนักเรียนที่ระบุว่า เคยมีเพศสัมพันธ์นั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2551-2564 แต่พบว่า ในกลุ่มของนักเรียนที่เคยมีเพศสัมพันธ์เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกก่อนอายุ 14 ปี มีแนวโน้มลดลง และยังพบว่า นักเรียนใช้ถุงยางอนามัยเป็นประจำเสมอระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ยังมีสัดส่วนเพียงครึ่งเดียวของจำนวนนักเรียนในกลุ่มนี้ ผลการสำรวจพบว่า นักเรียนมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตในหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว มีความวิตกกังวลจนทำให้นอนไม่หลับบ่อยครั้งหรือเป็นประจำ และพบว่า นักเรียนเคยมีความคิดจริงจังในการพยายามฆ่าตัวตาย เคยวางแผนและพยายามฆ่าตัวตาย โดยพบว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นถึง ปัจจัยสนับสนุน รวมทั้งการเอาใจใส่ของผู้ปกครองและครอบครัวที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั้นไม่เพียงพอที่จะป้องกันนักเรียนจากความเสี่ยงด้านสุขภาพต่างๆ กายและจิตได้
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2920.pdf
ขนาด: 1.794Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 3
ปีงบประมาณนี้: 38
ปีพุทธศักราชนี้: 25
รวมทั้งหมด: 339
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2475]

    งานวิจัย

ชิ้นงานที่เกี่ยวข้อง

แสดงชิ้นที่เกี่ยวข้องโดย ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง ผู้สร้าง และหัวเรื่อง

  • การประเมินศักยภาพของระบบสุขภาพในความพร้อมรับมือการระบาดโรค COVID-19 ในพื้นที่ชายแดน จังหวัดเชียงราย 

    อนุสรณ์ อุดปล้อง; Anusorn Udplong; ธวัชชัย อภิเดชกุล; Tawatchai Apidechkul; ฟาติมา ยีหมาด; Fartima Yeemard (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2565-10)
    การวิจัยแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินศักยภาพของบุคลากรและระบบสุขภาพในการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรค COVID-19 ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่อำเภอชายแดนจังหวัดเชียงราย คือ ...
  • การเปรียบเทียบสัดส่วนการจัดสรรงบประมาณกองทุนประกันสุขภาพแห่งชาติระหว่างคู่สัญญาบริการสาธารณสุขระดับปฐมภูมิให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ่ายโอนและไม่ถ่ายโอนไปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย 

    นภชา สิงห์วีรธรรม; Noppcha Singweratham; ตวงรัตน์ โพธะ; Tuangrat Phodha; วิน เตชะเคหะกิจ; Win Techakehakij; ธีระศักดิ์ วงศ์ใหญ่; Dherasak Wongyai; อำพล บุญเพียร; Aumpol Bunpean; พัลลภ เซียวชัยสกุล; Pallop Siewchaisakul (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2565-12)
    การถ่ายโอนภารกิจด้านการให้บริการปฐมภูมิที่อยู่กับสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำให้เกิดความเป็นธรรม ความเสมอภาคและเท่าเทียม ...
  • การพัฒนาแบบจำลองทำนายความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประเทศไทยเพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อระบบหลักประกันสุขภาพและระบบสุขภาพ 

    ปิยะ หาญวรวงศ์ชัย; Piya Hanvoravongchai; เสกสรร เกียรติสุไพบูลย์; Seksan Kiatsupaibul; วิฐรา พึ่งพาพงศ์; Vitara Pungpapong; อรลักษณ์ พัฒนาประทีป; Oraluck Pattanaprateep; มนทรัตม์ ถาวรเจริญทรัพย์; Montarat Thavorncharoensap; วศิน เลาหวินิจ; Wasin Laohavinij; จิดาภา หาญวรวงศ์ชัย; Jidapa Hanvoravongchai (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2566-10)
    โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สร้างแบบจำลองทำนายความเสี่ยง 2 แบบจำลองหลัก คือ 1.1 แบบจำลองทำนายความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประชากรทั่วไป และ 1.2 แบบจำลองทำนายความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนและการเสีย ...

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [620]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [126]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1285]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [229]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV