บทคัดย่อ
การสูญเสียฟันอาจมีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตอย่างไม่ตรงไปตรงมานัก การสำรวจสุขภาพช่องปากแห่งชาติครั้งล่าสุดพบว่า ผู้สูงอายุที่ทันตแพทย์แนะนำให้ใส่ฟันทดแทน มีเพียงจำนวนครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่มารับบริการใส่ฟัน แม้จะมีการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐให้ใส่ฟันทดแทนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการรักษา งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการใส่ฟันทดแทนของผู้สูงอายุ โดยเจาะจงเลือกผู้สูงอายุในพื้นที่ตำบลด่านเกวียนซึ่งเคยได้รับการแนะนำให้ใส่ฟันจากทันตาภิบาล เป็นผู้ที่เคยใส่ฟันเทียมแต่ปัจจุบันไม่ได้ใส่ และผู้ไม่เคยไปรับบริการใส่ฟันเทียมเลย ทำการสัมภาษณ์เชิงลึก ซึ่งพบว่าข้อมูลอิ่มตัวเมื่อสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวน 29 คน จากการวิเคราะห์เนื้อหาแบบอุปนัยพบว่าความต้องการใส่ฟันของผู้สูงอายุมี 2 ประเด็นหลักที่น่าสนใจ ประเด็นแรกเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความต้องการใส่ฟัน 1.1) ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้สูงอายุอยากใส่ฟัน คือ การเล่าปากต่อปากของเพื่อนบ้าน และ การชักชวนโดยอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน 1.2) บทบาทของฟันต่อการเข้าสู่สังคมกระตุ้นให้อยากใส่ฟันไม่แพ้เรื่องอาหารและโภชนาการ และ 1.3) ค่าใช้จ่ายทางอ้อมในการมาใส่ฟันทำให้ความอยากใส่ฟันลดลง และประเด็นที่สองพบว่าความต้องการใส่ฟันสามารถเปลี่ยนแปลงลื่นไหลได้ตามกาลเวลา อันเนื่องมาจาก 2.1) วัฒนธรรมการปล่อยวางเมื่ออายุหรือมีการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น และ 2.2) เหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงเวลาต่างกันทำให้ความต้องการใส่ฟันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ การไม่ไปใส่ฟัน อาจไม่ได้แปลว่าไม่อยากใส่ โดยสรุปแล้วข้อมูลเชิงลึกจากงานวิจัยนี้อาจนำไปปรับใช้กับนโยบายเพื่อทำให้ความต้องการใส่ฟันทดแทนให้กับผู้สูงอายุจากมุมมองของทันตบุคลากรและมุมมองของผู้สูงอายุในพื้นที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น
บทคัดย่อ
Tooth loss holds a complex relationship with oral health-related quality of life. A recent national survey reported only half of Thai elderly population with fewer than 20 remaining teeth had their
dentures made, despite a policy promoting denture fabrication free of charge. The aim of this study was to explore the perspectives of older adults’ perceived needs for tooth replacement. We purposefully selected older adults living in Dan Kwian subdistrict who were identified with a denture needed by a dental nurse but not currently wearing the prosthesis, for a face-to-face in-depth semi-structure interview. Data saturation was reached with 29 older adults. Inductive content analysis of the interview transcripts yielded two main themes. First, the factors influencing the needs for denture were: 1.1) “the word of mouth from neighbors & the village health volunteer as the main influencer” inducing the needs; 1.2) the socialization stimulated the needs; and 1.3) indirect cost despite free denture hindering the needs. Second, the dynamic of conflicting priorities: 2.1) from attach to detach once getting old or being ill; 2.2) changing perceived needs over time in response to changes in life circumstance. In sum, insights from this study may help reduce the discrepancies between professionally defined needs and the patient perceived needs.