• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การศึกษาระบบบริการด้านสุขภาพช่องปากในหญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพช่องปาก ในแง่ของกองทุนประกันสุขภาพ กรณีศึกษาในกรุงเทพมหานคร

ปิยะดา ประเสริฐสม; Piyada Prasertsom; วรุต ชลิทธิกุล; Warut Chalittikul; วรมน อัครสุต; Voramon Agrasuta; วรางคณา จิรรัตนโสภา; Varangkanar Jirarattanasopha;
วันที่: 2568-08
บทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวางด้วยวิธีแบบผสมผสาน (crosssectional mixed method descriptive study) มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์ข้อเสนอเชิงนโยบายในการพัฒนาทางเลือกการจัดบริการด้านสุขภาพช่องปากสำหรับหญิงตั้งครรภ์ในกรุงเทพมหานคร และการดำเนินงานตามหลักประกันสุขภาพและกองทุนที่เกี่ยวข้อง มีกลุ่มตัวอย่างเป็นตัวแทนผู้กำหนดนโยบาย ตัวแทนผู้ให้บริการทั้งบริการฝากครรภ์และบริการทันตกรรม และตัวแทนหญิงตั้งครรภ์ในฐานะผู้รับบริการ โดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก สนทนากลุ่ม รวม 46 คน ในประเด็นแนวคิดของนโยบายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพช่องปาก การจัดบริการรับฝากครรภ์และบริการทันตกรรมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ และประสบการณ์การได้รับบริการฝากครรภ์และทันตกรรมที่ผ่านมา รวมถึงความคาดหวังของการให้บริการทันตกรรม นอกจากนี้ยังเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามในหญิงตั้งครรภ์คนไทยเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 388 คน ประกอบด้วยข้อมูลทั่วไป สภาวะสุขภาพช่องปาก พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก การเข้ารับบริการทันตกรรม และข้อคิดเห็นต่อทางเลือกการจัดบริการด้านสุขภาพช่องปาก ผลการศึกษาพบว่า ผู้กำหนดนโยบายมีแนวคิดในการลดความเหลื่อมล้ำบริการด้านสุขภาพช่องปาก ทั้งการขยายหน่วยบริการให้มีสิทธิเข้าใช้บริการที่หน่วยบริการเอกชน ขยายสิทธิประโยชน์ เพิ่มค่าชดเชยบริการ ผู้ให้บริการได้มีการจัดให้บริการทันตกรรมเฉพาะแก่หญิงตั้งครรภ์ แต่อย่างไรก็ตามหญิงตั้งครรภ์ในกรุงเทพมหานครได้มีความคิดเห็นต่อนโยบายและการจัดบริการทันตกรรมในปัจจุบันว่า หน่วยบริการค่อนข้างน้อย การประชาสัมพันธ์ยังไม่ทั่วถึง ไม่ทราบสิทธิประโยชน์ระหว่างการตั้งครรภ์ แม้จะทราบแต่ก็ไม่สามารถเข้ารับบริการได้เนื่องจากข้อจำกัดทั้งเวลา ความสะดวกในการเข้ารับบริการ และสิทธิประโยชน์ที่ไม่ครอบคลุม นอกจากนี้การติดตามผลการให้บริการหญิงตั้งครรภ์ในเขตกรุงเทพมหานครยังไม่สมบูรณ์ ขาดการเชื่อมต่อข้อมูล จากการสำรวจด้วยแบบสอบถาม พบว่า หญิงตั้งครรภ์ร้อยละ 61.3 ได้เข้ารับบริการตรวจสุขภาพช่องปาก ร้อยละ 24.2 ได้รับบริการขัดและทำความสะอาดฟัน มีฟันผุร้อยละ 61.0 มีหินน้ำลายร้อยละ 75.2 ซึ่งมีเพียงร้อยละ 59.8 ที่ทราบสิทธิทันตกรรมระหว่างการตั้งครรภ์ ดังนั้น ผู้กำหนดนโยบายควรมีการกำหนดนโยบายให้หญิงตั้งครรภ์รับทราบสิทธิทันตกรรม และสามารถเข้ารับบริการทันตกรรมได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยอาศัยความคิดเห็นของผู้ให้บริการและผู้รับบริการเป็นพื้นฐานร่วมกับแนวคิดทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง

บทคัดย่อ
This study was a cross-sectional mixed-method descriptive study aimed at synthesizing policy recommendations for developing alternative oral health service delivery options for pregnant women in Bangkok, with implementation based on health security schemes and related funds. The sample comprised 46 representatives of policymakers, service providers for both antenatal care and dental services, and pregnant women through in-depth interviews and focus group discussions, exploring policies to reduce oral health inequalities, service organization, past experiences, and service expectations. Additionally, questionnaire data were collected from 388 Thai pregnant women in Bangkok, encompassing general information, oral health status, behaviors, service utilization, and opinions on alternative service delivery options. Findings revealed that policymakers conceptualized reducing oral health service inequalities through expanding service units to provide private healthcare access, extending benefit coverage, and increasing service compensation. Service providers had established specific dental services for pregnant women. However, pregnant women reported that current policies and services were characterized by limited-service units, insufficient public awareness, lack of knowledge about pregnancy benefits, and access barriers due to time constraints, inconvenient access, and inadequate benefit coverage. Furthermore, service monitoring for pregnant women in Bangkok remained incomplete with lack of data integration. The questionnaire survey revealed that 61.3% of pregnant women received oral health examinations, 24.2% received dental cleaning services, 61.0% had dental caries, and 75.2% had dental calculus. Only 59.8% were aware of dental benefits during pregnancy. Therefore, policymakers should establish policies ensuring pregnant women are informed about dental benefits and can access dental services more conveniently, based on service provider and recipient opinions combined with relevant academic concepts.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs3302.pdf
ขนาด: 3.465Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 1
เดือนนี้: 3
ปีงบประมาณนี้: 3
ปีพุทธศักราชนี้: 3
รวมทั้งหมด: 3
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2502]

    งานวิจัย

ชิ้นงานที่เกี่ยวข้อง

แสดงชิ้นที่เกี่ยวข้องโดย ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง ผู้สร้าง และหัวเรื่อง

  • การสังเคราะห์องค์ความรู้เพื่อจัดทำข้อเสนอ การปฎิรูประบบบริการสุขภาพ และการสร้างหลักประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุไทย 

    วรรณภา ศรีธัญรัตน์; Wannapa Srithanyarat; ผ่องพรรณ อรุณแสง; อัมพร เจริญชัย; สุจิตรา ลิ้มอำนวยลาภ; กัลยา พัฒนศรี (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2545)
    เอกสารนี้นำเสนอผลการสังเคราะห์องค์ความรู้ เพื่อจัดทำข้อเสนอการปฏิรูประบบบริการสุขภาพและการสร้างหลักประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุไทย ในกระบวนการสังเคราะห์ได้มีการศึกษาวิเคราะห์การดำเนินงานด้านระบบบริการสุขภาพและหลักประกันส ...
  • การประเมินผลกระทบทางสุขภาพจากโยบายหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ต่อกลุ่มทอผ้าพื้นบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

    เกษราวัลณ์ นิลวรางกูร; Ketsarawan Nlilwarangkul; จรัญญา วงษ์พรหม; ชลิดา ธนัฐธีรกุล; สุมน ปิ่นเจริญ; Charunnya Wongphom; Chalida Tanutteerakul; Sumon Pincharoen (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2547)
    นโยบายหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นนโยบายที่ถูกกำหนดเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจของประชาชนในท้องถิ่น การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาขอบเขตของนโยบายและการกระตุ้นการพัฒนาของนโยบายต่อกลุ่มทอผ้าพื้นบ้าน ...
  • เคล็ดไม่ลับ R2R : บริบทโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป/ชุมชน 

    วิจารณ์ พานิช; พงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข; จรวยพร ศรีศศลักษณ์; สรชัย จำเนียรดำรงการ; สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (แผนงานพัฒนาเครือข่ายวิจัยในรูปแบบงานวิจัยจากงานประจำสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2552-07)
    ภายในเวลา 5 ปี ที่ R2R งอกงามขึ้นที่ศิริราช บัดนี้ R2R ได้แพร่ขยายออกไปทั่วประเทศไทย ในหน่วยงานด้านสุขภาพ ภายใต้การจัดการของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่หลากหลาย กระบวนการขับเคลื่อนไปสู่วงการสา ...

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [624]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [100]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [287]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [126]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [160]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1304]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [233]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [21]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV