บทคัดย่อ
โรงพยาบาลบ้านแพ้วเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่จะเป็นโรงพยาบาลในกำกับของรัฐตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน โรงพยาบาลไม่มุ่งค้ากำไรและจะยังได้รับงบประมาณอุดหนุจากรัฐบาล บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นความเป็นมา วิธีคิด และปรัชญาของการจัดทำงบประมาณอุดหนุนให้โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ในปีงบประมาณ 2543 หลักการคิดงบประมาณอยู่บนฐานของพันธกิจที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วกำหนดจะจัดบริการสุขภาพให้ประชากรในอำเภอทุกคนอย่างถ้วนหน้า (Universal coverage) สำหรับชุดบริการพื้นฐาน (Basic package) ซึ่งประกอบด้วย บริการส่งเสริมสุขภาพ บริการป้องกันโรค การสาธารณสุขมูลฐาน การฟื้นฟูสมรรถภาพ และบริการรักษาพยาบาล ซึ่งจะมีสิทธิ์เท่ากับสมาชิกผู้ถือบัตรสุขภาพ ทั้งนี้ไม่รวมห้องพิเศษ และมีข้อยกเว้นเหมือนบัตรสุขภาพ
การจัดสรรงบอุดหนุนให้โรงพยาบาลบ้านแพ้ว กรณีนี้จึงเป็นการจัดสรรตามจำนวนประชากร เมื่อมีการส่งต่อไปสถานบริการระดับตติยภูมิ โรงพยาบาลบ้านแพ้วต้องตามจ่ายในอัตราที่ตกลงไว้กับกระทรวงสาธารณสุข การจัดสรรเงินแบบใหม่นี้จะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของสถานพยาบาลให้ยึดสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก ไม่มุ่งเน้นปริมาณผลงานด้านการรักษาพยาบาล อย่างไรก็ตามการจัดสรรวิธีนี้ควรเป็นเฉพาะงบดำเนินการ ส่วนงบครุภัณฑ์ราคาแพงและสิ่งก่อสร้างให้มีการเสนอขอเป็นโครงการไป
การคำนวณงบประมาณอุดหนุน อาศัยข้อมูล 2 ชุด คือ อัตราป่วย และต้นทุนดำเนินการ งบประมาณรายหัวจะประกอบด้วยค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายด้านส่งเสริมสุขภาพ ค่าใช้จ่ายด้านรักษาพยาบาลคิดจากค่ารักษาผู้ป่วยนอก (อัตราผู้ป่วยที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลและไปใช้บริการที่สถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน คูณกับ ต้นทุนผู้ป่วยนอก) บวกกับค่ารักษาผู้ป่วยใน (อัตราป่วยผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลและไปใช้บริการที่สถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน คูณกับ ต้นทุนผู้ป่วยใน) ส่วนค่าใช้จ่ายด้านส่งเสริมสุขภาพให้เป็น 20% ของงบอุดหนุนทั้งหมดต่อคน
จากการคำนวณด้วยวิธีข้างต้น โรงพยาบาลบ้านแพ้วซึ่งอยู่ในเขตภาคกลาง ชนบท จะได้รับงบอุดหนุนด้านการรักษาพยาบาล 562 บาทต่อคนต่อปี และงบอุดหนุนด้านส่งเสริมสุขภาพ 149 บาทต่อคนต่อปี รวมเป็น 712 บาทต่อคนต่อปี ในการเปลี่ยนสถานภาพเป็นโรงพยาบาลในกำกับของรัฐ โรงพยาบาลจะมีค่าใช้จ่ายเงินเดือนสูงขึ้นไม่เกิน 1.5 เท่าของเงินเดือนข้าราชการเดิมจึงปรับค่ารักษาพยาบาลเป็น 633 บาท เมื่อรวมกับงบอุดหนุนด้านส่งเสริมสุขภาพ 149 บาท รวมเป็น 782 บาทต่อคนต่อปี
การประมาณความเป็นไปได้ทางการเงิน พบว่ารายจ่ายดำเนินการที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจะเป็น 100.4 ล้านบาท โรงพยาบาลบ้านแพ้ว จะได้งบอุดหนุน ในอัตรา 782 บาทต่อประชากรหนึ่งคนในอำเภอ หักลบด้วยผู้ประกันตน และข้าราชการ ประมาณร้อยละ 10 ของประชากร 91,000 เท่ากับงบอุดหนุน (ยกเว้นการลงทุน) 64 ล้านบาท
ต่อปี และจะมีรายได้ นอกงบประมาณจากแหล่งอื่นๆอีกประมาณ 39 ล้านบาท จึงเป็นไปได้ที่จะจัดให้เกิดบริการพื้นฐานอย่างถ้วนหน้าในอำเภอบ้านแพ้วได้ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะจัดสรรงบประมาณในลักษณะนี้ในขอบข่ายทั่วประเทศ
บทคัดย่อ
Banphaeo hospital is going to be the first autonomous hospital in Thailand: non-profit and government subsidiary hospital. This paper aims to show the background, methodology and philosophy of the hospital subsidiary budgeting for the year 2000 ehich their rational is based on the Banphaeo hospital's mission. It's mission is to provide universal coverage of basic health service package in Banohaeo district. The basic health service package consists of health promotion, prevention, primary health care, rehabilitation, and curative service for the health cardholder.
Thus, the Banphaeo hospital subsidiary budgeting is based on capitation. It will pay to the tertiary care hospital for referred patients and to subcontractors for gatekeeper services too. The new budgeting method will change the service concept by aiming at holistic care not the quantity of curative care.
However, this budget should be only for the operating cost, not including with capital cost, which should be proposed by each item project.
The subsidiary budgeting use the data from morbidity rate and admission rate from Health and Welfare survey of National Statistics Office and average operating cost from several costing studies. Per capita budget is consisted of curative expenses and health promotion expenses. For the curative expense, this study uses outpatient department care (OP) cost (morbidity rate X OP cost per visit) plus Inpatient department care (IP) cost (admission rate X IP cost per case). For the health promotion expenses, this study estimate 20% of per-capita subsidiary budget.
From the calculation above, Banphaeo which is located in the rural of central Thailand will receive per-capita subsidiary health budget about 562 baht per year and per capita subsidiary health promotion about 149 baht per year, all together 712 baht per year. Yet, changing from a public hospital to an autonomous hospital will increase salary up to 150% thus the curative cost will rise to 633 baht. Ultimately, summing up with 149 baht of health promotion, the per capita budget will be 782 baht per year.
The researchers analyze the financial feasibility and found the operating expense is about 100.4 millions. Banphaeo population is 91,000, less Civil Servants Medical Benefit Scheme and health insurance 10% the hospital will receive 64 millions per year (91,000*0.9*782) from government and 39 millions from other revenue. Finally, the researchers do believe that it is possible for Banphaeo hospital to provide the universal health care coverage to the Banphaeo population. Moreover, this study can apply this method of budgeting to the whole kingdom.