ความครอบคลุมและการยอมรับของประชาชนในการพ่นสารเคมีและการใช้มุ้งชุบน้ำยาควบคุมไข้มาลาเรีย จังหวัดกระบี่

Abstract

ความครอบคลุมและการยอมรับของประชาชนในการพ่นสารเคมี และการใช้มุ้งชุบน้ำยาควบคุมไข้มาลาเรีย จังหวัดกระบี่ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดความครอบคลุมและการยอมรับของประชาชนต่อกิจกรรมควบคุมไข้มาลาเรียเรื่องการพ่นเคมีและการใช้มุ้งชุบน้ำยา ในปีงบประมาณ 2542 ด้วยการสำรวจแบบภาคตัดขวางร่วมกับการศึกษาเชิงคุณภาพด้วยการสนทนากลุ่ม พบว่ามีการพ่นเคมีครอบคลุมหลังคาเรือนเป้าหมายร้อยละ 92.8 แต่มีคุณภาพการพ่นทั่วทั้งบ้านเพียงร้อยละ 58.6 ส่วนใหญ่ไม่มีการพ่นบริเวณห้องนอนและในตัวบ้าน เพราะเจ้าของบ้านเก็บของไม่ทันหรือมีของจำนวนมากไม่อยากเคลื่อนย้าย และกลัวเป็นอันตรายต่อคนและ สัตว์ ส่วนการยอมรับของประชาชน พบว่ามีการรับรู้เรื่องไข้มาลาเรียดีและกลัวเป็นไข้มาลาเรีย พึงพอใจที่มีการพ่นเคมีเพื่อป้องกันโรคและอยากให้มีการพ่นทุก 6 เดือน การปฏิบัติงานของพนักงานพ่นมีกิริยาท่าทางสุภาพไว้ใจได้ ไม่น่ากลัวของหายระหว่างการปฏิบัติงาน แต่การลงรายงานและทำเครื่องหมายมีความถูกต้องเพียงร้อยละ 68.3 ส่วนใหญ่ไม่มีการแนะนำตัวเอง ไม่มีการแนะนำประโยชน์ของการพ่นและไม่มีการนัดล่วงหน้า ส่วนสารเคมีที่ใช้คิดว่ามีกลิ่นแต่ไม่ทำให้สกปรกและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เด็กและผู้สูงอายุ และคิดว่าการพ่นเคมีดีกว่าการใช้มุ้งเพราะครอบคลุมบริเวณกว้างกว่าและอยู่นอกมุ้งได้โดยยุงไม่กัด ทำให้ปริมาณยุงและแมลงต่างๆลดลง สำหรับการใช้มุ้งชุบน้ำยาส่วนใหญ่มีการแจกมุ้งชุบน้ำยาหลังคาเรือนละ 1 หลังร้อยละ 85.9 มีการใช้มุ้งชุบน้ำยาที่แจกร้อยละ 90.8 โดยมีการใช้มุ้งกางนอนเป็นประจำทุกคืนถึงร้อยละ 89.3 การยอมรับของประชาชนต่อการใช้มุ้งชุบน้ำยา พบว่าพึงพอใจที่มีการแจกมุ้งและอยากได้รับแจกอีก แต่ไม่มีการแนะนำเรื่องการซักมุ้งและการชุบน้ำยาซ้ำใหม่ มีการใช้มุ้งชุบน้ำยาเพราะมีพฤติกรรมใช้มุ้งกันยุงอยู่แล้วและกลัวเป็นไข้มาลาเรียเพราะมีการรับรู้เรื่องโรคนี้ดีคิดว่านอนในมุ้งชุบน้ำยาดีกว่านอนในมุ้งธรรมดาร้อยละ 78.1 คิดว่าสารเคมีที่ใช้ชุบมุ้งมีกลิ่นเหม็นหลังจากชุบมุ้งใหม่ๆหรือมุ้งยังไม่แห้งเท่านั้น ซึ่งยอมรับกลิ่นได้และคิดว่าไม่เป็นอันตราย พอใจกับการใช้มุ้งชุบน้ำยาป้องกันไข้มาลาเรียมากกว่าการพ่นเคมีเพราะป้องกันยุงได้ทุกคืน แต่การพ่นเคมีป้องกันได้ในระยะเวลาสั้นกว่าเท่านั้น