บทคัดย่อ
การมีส่วนร่วมของฝ่ายต่างๆ (Stakeholders) ในการกำหนดนโยบายสาธารณสุขของประเทศ มีความสำคัญเป็นอันมาก เพื่อให้นโยบายที่ถูกกำหนดนั้นได้มีการยอมรับและดำเนินการอย่างแท้จริงเพื่อให้เกิดการพัฒนา การมีส่วนร่วมนี้หากเป็นไปบนพื้นฐานขององค์ความรู้ที่แท้จริง (knowledge – based) จะยิ่งทำให้การมีส่วนร่วมนั้นสามารถกำหนดทิศทางนโยบายการพัฒนาที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น การวิจัยเชิงนโยบายเป็นหนทางหนึ่งที่ได้มาซึ่งองค์ความรู้สำหรับฝ่ายต่างๆ อย่างใดก็ตามผู้มีส่วนร่วมฝ่ายต่างๆนั้น มีจุดอ่อนและจุดแข็งที่แตกต่างกัน ดังนั้น การที่จะทำให้การวิจัยสามารถประสานในกระบวนการ (Process) ที่เป็นประโยชน์มากที่สุดต่อการกำหนดนโยบายแล้ว ทุกๆฝ่ายจะต้องมีการพัฒนาวิธีการมีส่วนร่วมของทุกๆฝ่าย เช่น การส่งเสริมให้นักวิจัยมีการทำวิจัยเชิงนโยบายในลักษณะที่เกี่ยวโยงกับการตัดสินใจ (Decision-linked research) มากขึ้น การส่งเสริมวัฒนธรรมของการใช้ข้อมูลวิชาการหรือหลักฐานที่ได้จากการศึกษาเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเชิงนโยบาย (Evidence – based decision) ในหมู่นักบริหารมากขึ้น การส่งเสริมการวิจัยเชิงนโยบายให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ และการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วม (Participatory process) ของผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายผ่านเวทีการแลกเปลี่ยน (Forum) หรือประชาพิจารณ์ (Public hearing) จึงทำให้การวิจัยและการมีส่วนร่วมเป็นไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายสาธารณสุขที่ตอบสนองต่อประชาชนมากที่สุด