หลักประกันสุขภาพในสายตาประชาชน
| dc.contributor.author | สำนักวิจัยเอแบค-เคเอสซีอินเตอร์เนตโพลล์(เอแบคโพลล์) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ | en_US |
| dc.contributor.author | ABAC-KSC Internet Poll(ABAC POLL) Assumption University | en_US |
| dc.coverage.spatial | th | en_US |
| dc.date.accessioned | 2008-12-04T05:23:44Z | en_US |
| dc.date.accessioned | 2557-04-17T00:40:22Z | |
| dc.date.available | 2008-12-04T05:23:44Z | en_US |
| dc.date.available | 2557-04-17T00:40:22Z | |
| dc.date.issued | 2543 | en_US |
| dc.identifier.other | hs0706 | en_US |
| dc.identifier.uri | http://hdl.handle.net/11228/1987 | en_US |
| dc.description.abstract | หลักประกันสุขภาพในสายตาประชาชนการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์สำรวจรูปแบบหลักประกันสุขภาพของกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศเพื่อสำรวจความเห็น ความเข้าใจและความคาดหวังของกลุ่มตัวอย่างประชาชนต่อนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อสำรวจข้อเสนอแนะของประชาชนต่อนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ขอบเขตการศึกษานี้ครอบคลุมเนื้อหาสำคัญได้แก่ ประสบการณ์ของประชาชนในการมีหรือไม่มีหลักประกันสุขภาพความเห็น ความเข้าใจ และความคาดหวังของประชาชนต่อนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมทั้งข้อเสนอแนะต่างๆจากประชาชนเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ ซึ่งมีระเบียบวิธีเชิงปริมาณในการวัดและประเมินผล กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัยผลการศึกษาแบ่งเป็น 3 ตอนดังนี้คุณลักษณะทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง แบบแผนการเจ็บป่วย/พฤติกรรม และปัญหาในการรักษาพยาบาลพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีสมาชิกในครัวเรือนเจ็บป่วยครั้งล่าสุดจนต้องไปหาหมอระบุร้อยละ 44.8 ในปี 2543 และร้อยละ 29.3 ในปี 2542 และร้อยละ 22.0 ไม่เคยมีสมาชิกในครัวเรือนไปหาหมอเลย สัดส่วนของสมาชิกต่อสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลพบว่า ร้อยละ 31.2 ไม่มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลเลย ร้อยละ 30.6 มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลบางคน ร้อยละ 38.2 มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ทุกคนความคิดเห็นต่อหลักประกันสุขภาพพบว่า กลุ่มตัวอย่างครัวเรือนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.7 ระบุเห็นด้วยต่อการที่รัฐบาลควรมีหลักประกันสุขภาพให้ประชาชนทุกคนทั่วประเทศ ในขณะที่ร้อยละ 4.3 ระบุไม่เห็นด้วย และร้อยละ 2.0 ไม่มีความเห็น | en_US |
| dc.description.sponsorship | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | en_US |
| dc.format.extent | 1327053 bytes | en_US |
| dc.format.mimetype | application/octet-stream | en_US |
| dc.language | tha | en_US |
| dc.language.iso | en_US | en_US |
| dc.publisher | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | en_US |
| dc.subject | Insurance -- Insurance, Health | en_US |
| dc.subject | เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข | en_US |
| dc.subject | ระบบประกันสุขภาพ | en_US |
| dc.title | หลักประกันสุขภาพในสายตาประชาชน | en_US |
| dc.title.alternative | Health security survey 2000 | en_US |
| dc.description.abstractalternative | Health Security Survey 2000The objectives of the surveyTo survey the type of universal coverage of the sample group of Thai populationTo survey an opinion, understanding and expectation of the sample population to the Universal Coverage PolicyTo survey the recommendation of the sample population for the Universal Coverage PolicyThe survey mainly included the experiences of the sample population with and without health security; the opinion, understanding, and expectation of the sample population to the universal coverage policy; as well as the recommendation for the universal coverage policy. The survey was carried out using an explorative research to determine sample size, collect data, synthesize and analyze the results in order to achieve the objectives.The survey results were divided into 3 parts as follows.General description of the sample groupPattern of illness/behavior and problems associated with health care.The survey showed that 29.3% and 44.8% of the sample group had family members who sought health care services in 1999 and 2000 respectively while 22.0% had no family member who sought health care services. The ratio of the family members of the sample group to the right for healthcare cover indicated that 31.2% had no right, 30.6% had the right for for only some family members, and 38.2% had the right for for all family members.Opinion to the universal coverage policy. The survey indicated that the majority or 93.7% agreed that the government should provide universal coverage of healthcare and services to the public, while 4.3% disagreed and 2.0% had no comment. | en_US |
| dc.identifier.callno | W160 ส221ห 2543 | en_US |
| dc.subject.keyword | Health Security | en_US |
| dc.subject.keyword | ประกันสุขภาพ | en_US |
| .custom.citation | สำนักวิจัยเอแบค-เคเอสซีอินเตอร์เนตโพลล์(เอแบคโพลล์) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ and ABAC-KSC Internet Poll(ABAC POLL) Assumption University. "หลักประกันสุขภาพในสายตาประชาชน." 2543. <a href="http://hdl.handle.net/11228/1987">http://hdl.handle.net/11228/1987</a>. | |
| .custom.total_download | 87 | |
| .custom.downloaded_today | 0 | |
| .custom.downloaded_this_month | 0 | |
| .custom.downloaded_this_year | 3 | |
| .custom.downloaded_fiscal_year | 0 |
 | ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ |
ฉบับเต็ม
ชื่อ: hs0706.PDF
ขนาด: 1.335Mb
รูปแบบ: PDF
ชิ้นงานนี้ปรากฎในคอลเล็คชั่นต่อไปนี้
-
Research Reports [2432]
งานวิจัย