แสดงรายการชิ้นงานแบบง่าย

การพัฒนาตัวชี้วัดธรรมาภิบาลการบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด

dc.contributor.authorวลัยภรณ์ อัตตะนันทน์th_TH
dc.contributor.authorมานวิภา อินทรทัตth_TH
dc.contributor.authorพิสิฐ ศุกรียพงศ์th_TH
dc.contributor.authorอุ่นกัง แซ่ลิ้มth_TH
dc.contributor.authorพัชรนันท์ กลั่นแก้วth_TH
dc.coverage.spatialไทยen_US
dc.date.accessioned2009-05-15T07:48:15Zen_US
dc.date.accessioned2557-04-17T00:15:49Z
dc.date.available2009-05-15T07:48:15Zen_US
dc.date.available2557-04-17T00:15:49Z
dc.date.issued2551-12en_US
dc.identifier.otherhs1511en_US
dc.identifier.urihttp://hdl.handle.net/11228/2489en_US
dc.description.abstractงานวิจัยเรื่อง “การพัฒนาตัวชี้วัดธรรมาภิบาลการบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด” ซึ่งสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ได้มอบให้ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทําการศึกษาวิจัยนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากรอบแนวคิดทฤษฎี เกี่ยวกับธรรมาภิบาลของหน่วยบริหารจัดการระบบสุขภาพระดับพื้นที่พัฒนาตัวชี้วัดธรรมาภิบาล การบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือประเมินและพัฒนา ธรรมาภิบาลขององค์กรและประเมินระดับธรรมาภิบาลการบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดในจังหวัดนําร่อง 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ กระบี่ ชลบุรี และนครปฐม ในการจัดทํากรอบแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับธรรมาภิบาลของหน่วยบริหารจัดการระบบสุขภาพระดับพื้นที่นั้น คณะผู้วิจัยได้ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวกับธรรมาภิบาลและจัดประชุมผู้บริหารนักวิชาการ บุคลากรของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อระดมความคิดเห็นและทําความเข้าใจในการสร้างกรอบแนวคิดของธรรมาภิบาลของหน่วยบริหารจัดการระบบสุขภาพระดับพื้นที่และสรุปกรอบตัวชี้วัดธรรมาภิบาลการบริหารจัดการระบบสุขภาพระดับพื้นที่ซึ่งประกอบด้วย 10 หลัก คือ หลักนิติธรรม (L) หลักคุณธรรม (E) หลักความโปร่งใส (T) หลักการมีส่วนร่วม (P) หลักความสํานึกรับผิดชอบ (A) หลักความคุ้มค่า (V) หลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (H) หลักการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (KM) หลักการบริหารจัดการ (M) และหลักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (IT) ส่วนการพัฒนาตัวชี้วัดธรรมาภิบาลการบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้น คณะผู้วิจัยได้แปลงหลักธรรมาภิบาล 10 หลักดังกล่าวโดยการสร้างเครื่องมือ (แบบสอบถาม) ซึ่งประกอบด้วยแบบสอบถาม ชุด “จ” (ประเมินโดยเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานซึ่งมี 50 ตัวชี้วัด) ชุด “ฉ” (ประเมินโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะซึ่งมี 11 ตัวชี้วัด) และชุด “น” (ประเมินโดยหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งมี 37 ตัวชี้วัด) โดยกําหนดคะแนนเกณฑ์การประเมินระดับธรรมาภิบาลเป็น 5 ระดับ ตั้งแต่ระดับต่ำมาก ต่ำ ปานกลาง สูง และสูงมาก ผลการประเมินระดับธรรมาภิบาลการบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ประเมินโดยเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั้ง 4 แห่ง คือ เชียงใหม่ กระบี่ ชลบุรี และนครปฐม พบว่ามีธรรมาภิบาลการบริหารจัดการอยู่ในระดับสูง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 3.72, 3.43, 3.54 และ 3.70 ตามลําดับ ทั้งนี้พบว่ามีจุดเด่นในหลักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยหน่วยงานมีการจัดทําระบบฐานข้อมูลและเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่ช่วยลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมทั้งเป็นโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ ความคุ้มค่า พบว่ามีการจัดทํางบประมาณที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การตรวจสอบประเมินผลการใช้งบประมาณและนําผลประเมินมาปรับปรุงการบริหารจัดการภายใน รวมทั้งมีแหล่งเงินทุนจากภายนอกให้การสนับสนุนและหลักนิติธรรม พบว่ามีการกระจายอํานาจการตัดสินใจสู้ผู้ใต้บังคับบัญชาและคํานึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้รับบริการ 2. ข้อเสนอแนะจากผลการประเมิน จากผลการประเมินระดับธรรมาภิบาลการบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยเจ้าหน้าที่ภายในสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า มีจุดที่ควรพัฒนาในหลักของการบริหารจัดการหลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และหลักการมีส่วนร่วมเป็นสําคัญ ดังนั้นสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดแต่ละแห่งควรพิจารณาปรับปรุงการดําเนินงานที่เกี่ยวกับทั้ง 3 หลัก เช่น ควรมีระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหาร มีการชี้แจงทําความเข้าใจถึงผลการพิจารณาความดีความชอบ เปิดโอกาสให้หัวหน้ากลุ่มงานและเจ้าหน้าที่ได้มีโอกาสชี้แจงถึงเหตุผลในการปฏิบัติงาน จัดการฝึกโดยมีระบบจูงใจในการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาบุคลากรและเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้อย่างทั่วถึงข้อมูลย้อนกลับจากผู้ที่เกี่ยวข้องภายนอกและภาคประชาชนเพื่อนําไปปรับปรุงการดําเนินงาน 3. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ควรเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขกําหนดให้มีการประเมินระดับธรรมาภิบาลการบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดต่างๆ เป็นประจําทุกปี ทั้งนี้เพื่อทราบสถานภาพขององค์กรอันเป็นแนวทางในการปรับปรุงตนเองตลอดจนหาแนวทางการพัฒนาระบบธรรมาภิบาลขององค์กรth_TH
dc.description.sponsorshipสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขen_US
dc.format.extent5689649 bytesen_US
dc.format.mimetypeapplication/octet-streamen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขen_US
dc.rightsสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขen_US
dc.subjectการบริหารสาธารณสุขen_US
dc.subjectHealth Administrationen_US
dc.subjectตัวชี้วัดen_US
dc.subjectIndicatorsen_US
dc.subjectภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance)th_TH
dc.subjectระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems)th_TH
dc.titleการพัฒนาตัวชี้วัดธรรมาภิบาลการบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดth_TH
dc.title.alternativeThe Development of indicators of good governance management of the provincial public health officeen_US
dc.typeTechnical Reporten_US
dc.description.abstractalternativeThe research for “The Development of Indicators of Good Governance Management of the Provincial Public Health Office" was commissioned to The Center for Applied Economics Research, Kasetsart University by The Health Systems Research Institute. The objective of this research are to study a conceptual framework for a theory concerning good governance of the health system management in local areas, to develop good governance indicators regarding the provincial public health office management which can then be implemented as a tool to evaluate and further develop the organization’s effective governance and also evaluate the level of good governance management of the provincial public health offices in the four pilot provinces: Chiangmai, Krabi, Cholburi, and Nakorn Pathom. In the process of working on a conceptual framework and a theory concerning good governance of the units handling health systems in the local areas, the research team has looked at extensive literature on good governance. They also arranged meetings with administrators, academics, and health personnel from the provincial public health offices. The meetings were designed to brainstorm opinions and come up with an understanding for setting up the conceptual framework on good governance of the administrative agencies handling health systems in the local area. The conclusions for an indicator framework of good governance management are comprised from the following ten principles: The Principles of Rule of Law (L), Ethics (E), Transparency (T), Participation (P), Accountability (A), Value for Money (V), Human Resources Development (H), Knowledge Management (KM), Management (M), and Information Technology and Communication (IT). In the development of indicators measuring good governance management of the provincial public health offices, the research team designed three sets of questionnaires based upon these principles. The first set of questionnaires was evaluated by internal officials within the agencies and consisted of fifty indicators. The second set was evaluated by officials with specific functions and contained eleven indicators. Finally, the third set was evaluated by related agencies and consisted of thirty-seven indicators. A range of scores were numerically assigned from 1 to 5 to evaluate good governance: 1 being the lowest, 2 low, 3 moderate, 4 high, and 5 being very high. The findings based on the evaluations concerning management of the provincial public health office, as evaluated by the internal officials of the four provincial public health offices, revealed high levels of good governance management. The scores were 3.72, 3.43, 3.54 and 3.70 respectively. There was an especially remarkable score shown in the Principle of Information Technology and Communication. This may be due to the agencies having a data based system and connecting the databases which helps reduce their workload and gives people the opportunity to share their opinions via the website. The Principle of Value for Money found that their budget corresponded with the strategic plan that audited and evaluated evaluation results. It was found to improve internal management including financial support from external sources. As for the Principle of Rule of Law, the regulation was found to be disseminated to employees and freedom given to service recipients. The questionnaire results indicate three principles that need to be developed: the Principle of Management, the Principle of Knowledge Management, and the Principle of Human Resource Development. The Principle of Management could be defined as ‘incomplete’ in terms of people’s assessment. One possible cause was an institution research study that was conducted, but the results of which were not applied to their full potential, and there was no evaluation of administrative leadership. Based on the Principle of Knowledge Management, the culture of learning was shown to be lacking amongst working groups. Results indicated that continuity was deficient in the development of personnel ability. With the Principle of Human Resource Development, it was found that contingency plans for the rationing of the workforce in some working groups were lacking. The evaluation results for good governance management of the provincial public health offices by the agencies related to the provincial public health office of Chiangmai, Cholburi, and Nakorn Pathom revealed that good governance management was moderate. The scores were 3.36, 3.32, and 3.26 respectively. For the Krabi provincial public health office, good governance management was rated as high, with a score of 3.61. For all four provincial public health offices, the Principle of Transparency was found to have the most significant rating. This could be due to opportunities for those concerned to give their opinions and listen to feedback from external parties; including activities to promote people’s participation. The three principles that needed to be developed were: the Principle of Management, the Principle of Human Resource Development, and the Principle of Participation. For the Principle of Management it was found that the provincial public health offices did not make a survey suitable to meet the needs and satisfaction of concerned offices. The evaluation results were not used to improve the work process and be transparent. Based on the Principle of Human Resource Development, the officials were found to have unity only among the working groups; the survey results indicated that individuals performed their work independently rather than as a group. For the Principle of Participation, there was an indication of inadequate consideration for the opinions of outside agencies and the public sectors concerned. The comparative results of the evaluation of the level of good governance management of the provincial public health offices by internal officials and related offices indicated a very significant difference for the Chiangmai and Nakorn Pathom provincial public health offices. As for the evaluation of the offices in Krabi and Cholburi, there were no significant differences. However, the distinguished principles and those needing development based on the evaluation of both the internal offices in the provincial public health offices and those related offices, followed the same direction.en_US
dc.identifier.callnoWA541 ว345ก 2551en_US
dc.identifier.contactno51-023en_US
dc.subject.keywordตัวชี้วัดธรรมภิบาลen_US
dc.subject.keywordการบริหารจัดการen_US
dc.subject.keywordสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดen_US
dc.subject.keywordGood Governanceen_US
dc.subject.keywordProvincial Public Health Officeen_US
.custom.citationวลัยภรณ์ อัตตะนันทน์, มานวิภา อินทรทัต, พิสิฐ ศุกรียพงศ์, อุ่นกัง แซ่ลิ้ม and พัชรนันท์ กลั่นแก้ว. "การพัฒนาตัวชี้วัดธรรมาภิบาลการบริหารจัดการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด." 2551. <a href="http://hdl.handle.net/11228/2489">http://hdl.handle.net/11228/2489</a>.
.custom.total_download139
.custom.downloaded_today0
.custom.downloaded_this_month0
.custom.downloaded_this_year2
.custom.downloaded_fiscal_year0

ฉบับเต็ม
Icon
ชื่อ: hs1511.pdf
ขนาด: 5.822Mb
รูปแบบ: PDF
 

ชิ้นงานนี้ปรากฎในคอลเล็คชั่นต่อไปนี้

แสดงรายการชิ้นงานแบบง่าย