แสดงรายการชิ้นงานแบบง่าย

การประเมินการดำเนินการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่บ้าน ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติระบบสุขภาพในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

dc.contributor.authorศิรินภา ศิริพร ณ ราชสีมาth_TH
dc.contributor.authorSirinapa Siriporn Na Ratchaseemath_TH
dc.contributor.authorสายรัตน์ นกน้อยth_TH
dc.contributor.authorSairat Noknoyth_TH
dc.contributor.authorอภินันท์ อร่ามรัตน์th_TH
dc.contributor.authorApinun Aramrattanath_TH
dc.contributor.authorสุพัตรา ศรีวณิชชากรth_TH
dc.contributor.authorSupattra Srivanichakornth_TH
dc.contributor.authorอนุวัตร แก้วเชียงหวางth_TH
dc.contributor.authorAnuwat Kaewchiangwangth_TH
dc.contributor.authorราม รังสินธุ์th_TH
dc.contributor.authorRam Rangsinth_TH
dc.contributor.authorสตางค์ ศุภผลth_TH
dc.contributor.authorSatang Supaponth_TH
dc.contributor.authorวิรุฬ ลิ้มสวาทth_TH
dc.contributor.authorWirun Limsawartth_TH
dc.contributor.authorนิตยา ภานุภาคth_TH
dc.contributor.authorNittaya Phanuphakth_TH
dc.contributor.authorปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศth_TH
dc.contributor.authorPiyawan Limpanyalertth_TH
dc.contributor.authorกิตติ วงศ์ถาวราวัฒน์th_TH
dc.contributor.authorKitti Wongthavarawatth_TH
dc.contributor.authorยุพดี ศิริสินสุขth_TH
dc.contributor.authorYupadee Sirisinsukth_TH
dc.contributor.authorนาถนภา คำลอยฟ้าth_TH
dc.contributor.authorNathnapha Khumloyfath_TH
dc.contributor.authorนิมิตร์ เทียนอุดมth_TH
dc.contributor.authorNimit Tienudomth_TH
dc.contributor.authorนพพรรณ พรหมศรีth_TH
dc.contributor.authorNopphan Promsrith_TH
dc.contributor.authorทัศนีย์ ญาณะth_TH
dc.contributor.authorTassanee Yanath_TH
dc.contributor.authorเกรียงไกร พึ่งเชื้อth_TH
dc.contributor.authorKriengkrai Peungchuerth_TH
dc.contributor.authorพลวัฒน์ ทศวิภาคth_TH
dc.contributor.authorPonrawat Thotwiphakth_TH
dc.contributor.authorธีระบูลย์ เลิศวณิชย์วัฒนาth_TH
dc.contributor.authorTeeraboon Lertwanichwattanath_TH
dc.date.accessioned2023-06-08T04:09:37Z
dc.date.available2023-06-08T04:09:37Z
dc.date.issued2566-03
dc.identifier.otherhs2984
dc.identifier.urihttp://hdl.handle.net/11228/5881
dc.description.abstractสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ ช่วงกลางปี พ.ศ. 2564 นำไปสู่ปัญหาวิกฤติระบบสุขภาพในกรุงเทพมหานครที่ผู้ป่วยหนักไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป/เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งประเทศไทย ได้มีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาวิกฤติระบบสุขภาพ ในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 โดยดำเนินงานเพื่อเพิ่มศักยภาพระบบสุขภาพปฐมภูมิ ซึ่งประกอบด้วย 1) การสนับสนุนทางด้านวิชาการ สนับสนุนกระบวนการเรียนรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วย พัฒนาแนวปฏิบัติและมาตรฐานการดูแลเป็นองค์รวมตามแนวคิดเวชศาสตร์ครอบครัว 2) การระดมทรัพยากร รับสมัครอาสาสมัครที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์เพื่อร่วมให้การดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครผ่านระบบการแพทย์ทางไกลและสนับสนุนคลินิกชุมชนอบอุ่นและคลินิกเอกชนอื่นๆ ร่วมให้การดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 3) ประสานและร่วมทำงานกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มูลนิธิสถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวีและเครือข่ายภาคประชาชน และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่ได้พัฒนาระบบ AMED-Telehealth เพื่อดำเนินงานผ่านเครือข่ายระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิเพื่อให้การดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่บ้าน (COVID-19 Primary Care Hub) การวิจัยนี้มีมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์หาปัจจัยสนับสนุนและอุปสรรคที่มีผลต่อการดำเนินงานได้สำเร็จ 2) ประเมินผลลัพธ์การดำเนินการและผลลัพธ์การจัดบริการ และ 3) สังเคราะห์ข้อเสนอเชิงนโยบายระบบบริการปฐมภูมิในการตอบสนองการแก้ปัญหาการระบาดของโรคอุบัติใหม่ ระเบียบวิธีวิจัย Consolidated Framework for Implementation ประเมินกระบวนการดำเนินงานโดยใช้ Research และประเมินผลลัพธ์โดยใช้ Conceptual Model of Implementation Research ใช้วิธีการศึกษาแบบผสมผสาน (Mixed-Method Study) เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ จากการทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์กลุ่มและการสัมภาษณ์เชิงลึก และข้อมูลจากการสำรวจประสบการณ์ในการรับบริการผ่านระบบการแยกกักตัวที่บ้าน โดยสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) (สรพ.) รวมทั้งข้อมูลการดูแลรักษาที่มีการบันทึกไว้ในระบบ AMED-Telehealth โดยทำการศึกษาระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 - มีนาคม พ.ศ. 2566 ผลการศึกษาพบว่า การดำเนินงานเพื่อเพิ่มศักยภาพระบบริการสุขภาพปฐมภูมิเพื่อให้การดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่บ้าน ทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาที่จำเป็นได้เพิ่มขึ้น โดยในระบบบันทึก AMED-Telehealth มีผู้รับบริการผ่านระบบการแยกกักตัวที่บ้านทั้งสิ้นจำนวน 90,816 ราย การระดมทรัพยากร พบว่า มีบุคลากรทางการแพทย์อาสามาร่วมทำงานกับเครือข่ายแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว (FammedCoCare) จำนวน 2,340 ราย ในจำนวนนี้มีแพทย์ จำนวน 1,544 ราย และให้บริการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่บ้านโดยใช้ระบบการแพทย์ทางไกลโดยการจัดบริการผ่านคลินิกพริบตา ซึ่งเป็นคลินิกภายใต้มูลนิธิสถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี จำนวน 18,952 ราย และคลินิกชุมชนอบอุ่น จำนวน 26 แห่ง ที่ร่วมดำเนินงานกับเครือข่าย COVID-19 Primary Care Hub ให้การดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 เป็นจำนวน 5,285 ราย รวมเป็นการบริการที่จัดโดย COVID-19 Primary Care Hub จำนวน 24,237 ราย ทั้งนี้มีคลินิกชุมชนอบอุ่นที่ร่วมในการจัดบริการตามที่บันทึกข้อมูลในระบบ AMED-Telehealth ทั้งสิ้นจำนวน 190 แห่ง ให้บริการผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 21,966 ราย และมีการจัดบริการในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 68 แห่ง ให้บริการผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 35,218 ราย ทั้งนี้การบริการสามารถเกิดขึ้นได้ในระดับหน่วยบริการปฐมภูมิ เป็นผลลัพธ์จากการประสานงานแก้ระเบียบต่างๆ ให้มีการรักษาและสามารถจ่ายยาต้านไวรัสโดยแพทย์ในหน่วยบริการในระดับปฐมภูมิ ระบบการดูแลนี้ช่วยลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทำให้กลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียม ทั้งนี้การระดมทรัพยากร ทำให้เกิดระบบการดูแลที่ปรับตัวได้เร็วและมีศักยภาพในการทำงานสูง สามารถช่วยเหลือให้ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมีความปลอดภัย ปัจจัยแห่งความสำเร็จประกอบด้วย การออกแบบการดำเนินการสอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานของระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิในกรุงเทพมหานคร ที่คลินิกชุมชนอบอุ่นเป็นองค์ประกอบสำคัญ แม้จะต้องใช้เวลาในการปรับตัวในช่วงแรก การเตรียมความพร้อมบุคลากร การสนับสนุนทางวิชาการและประสานสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ ทำให้เกิดความมั่นใจและเพิ่มความสามารถในรักษาผู้ป่วยที่ซับซ้อน การทำงานร่วมกับเครือข่ายชุมชนช่วยให้กลุ่มเปราะบางได้รับความช่วยเหลือในการเข้าถึงบริการได้เร็วขึ้น ทั้งนี้การจัดสรรงบประมาณนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำเกิดบริการได้สำเร็จ วิกฤติจำนวนเตียงในโรงพยาบาลไม่เพียงพอเป็นแรงผลักดันให้ภาคเอกชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา วัฒนธรรมการทำงานแบบบูรณาการที่มีผู้ป่วย ครอบครัวและชุมชนเป็นศูนย์กลาง มีเป้าหมายในการสร้างความเท่าเทียมของหน่วยงานที่ทำงานปฐมภูมิ ทำให้เกิดการทำงานที่ประสานสามัคคีมีประสิทธิภาพ เกิดการดูแลแบบองค์รวมอย่างเป็นรูปธรรม จากพื้นฐานกระบวนการดำเนินงานที่มีการประสานการทำงานในแนวราบ เกิดการทำงานอย่างมีส่วนร่วมและเท่าเทียมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาชน สรุปผลการศึกษา จำเป็นต้องมีการลงทุนและบริหารจัดการเพื่อให้มีทรัพยากรบุคคลการทางการแพทย์อย่างเพียงพอ สำหรับการจัดบริการปฐมภูมิและเสริมศักยภาพของทีมสุขภาพอย่างต่อเนื่องผ่านกระบวนการเรียนรู้จากการดูแลผู้ป่วย ซึ่งถือเป็นจุดคานงัดที่จะทำให้เกิดการให้การดูแลที่บูรณาการและเป็นองค์รวมอย่างเป็นรูปธรรม มีคุณภาพ โดยระบบการแพทย์ทางไกลมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการลดการแพร่กระจายของเชื้อ การเพิ่มการเข้าถึงบริการช่วยในการประสานงานให้มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยต้องมีการทำงานเชื่อมต่อประสานเครือข่ายในชุมชน ซึ่งมีความไวในการรตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือต่อการระบาดของโรคอุบัติใหม่และวิกฤติระบบสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตth_TH
dc.description.sponsorshipสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.rightsสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.subjectบริการปฐมภูมิ (การแพทย์)th_TH
dc.subjectPrimary Care (Medicine)th_TH
dc.subjectระบบบริการสุขภาพth_TH
dc.subjectHealth Service Systemth_TH
dc.subjectระบบบริการสาธารณสุขth_TH
dc.subjectHealth Care Systemth_TH
dc.subjectการจัดการด้านสุขภาพth_TH
dc.subjectHealth--Managementth_TH
dc.subjectการบริหารสาธารณสุขth_TH
dc.subjectPublic Health Administrationth_TH
dc.subjectTelehealthth_TH
dc.subjectTelemedicineth_TH
dc.subjectการแพทย์ทางไกลth_TH
dc.subjectผู้ป่วย--การดูแลth_TH
dc.subjectCOVID-19 (Disease)th_TH
dc.subjectโควิด-19 (โรค)th_TH
dc.subjectCoronavirusesth_TH
dc.subjectไวรัสโคโรนาth_TH
dc.subjectCoronavirus Infectionsth_TH
dc.subjectการติดเชื้อไวรัสโคโรนาth_TH
dc.subjectระบบสุขภาพth_TH
dc.subjectHealth Systemsth_TH
dc.subjectภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance)th_TH
dc.titleการประเมินการดำเนินการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่บ้าน ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติระบบสุขภาพในพื้นที่กรุงเทพมหานครth_TH
dc.title.alternativeEvaluation of COVID-19 Primary Care Hub Implementation During Health System Crisis in Bangkok Metropolitan Areath_TH
dc.typeTechnical Reportth_TH
dc.description.abstractalternativeBackground COVID-19 rapidly spread in the middle of 2021 lead to health system crisis in Bangkok, high occupancy of hospital beds; hence, Home Isolation (HI) policy was announced by the department of health, July 1st, 2021, although home isolation services provisions were limited to hospital facility. COVID-19 infection rate rapidly progresses with Delta strain and leading to health system crisis in Bangkok. The Royal College of Family Physicians of Thailand together with the GP/FP Association of Thailand agreed upon stepping in appointing a committee on July 7th, 2021, to help resolving the situation, building capacity for primary health care via three key strategies. The first strategy is to provide academic support, adjusting home isolation guideline to be more holistic, following family medicine principle, comprehensively covered all dimension of services need for the patient, family and community. Apart from this, continuous learning environment was developed via case study learning and sharing platform as well as providing relevant learning materials to build capacity of providers in primary care setting. The second strategy is to mobilize resources, recruiting health professionals for volunteering services, providing care for COVID-19 patients in Bangkok who need to get access to medical services under home isolation services package via telemedicine. To leverage maximal resource utilization, home isolation services provision via private primary care providers are essential. Hence, co-ordination was used as the third key strategy to enable services provision in primary care. In enabling primary care providers to provide services, co-ordination was used as the third key strategy. Coordinate with stake holders at various levels to enable service provision in primary care practice, including National Health Security Office, Institute of HIV Research and Innovation and Community Based Organizations, working in the community with increased number of case, and National Science and Technology Development Agency, the developer of AMED-Telehealth program, in order to establish COVID-19 Primary Care hub as one of key mechanism to solve health system crisis. This implementation research as objects to 1) analyze the key factors for success and barriers for the implementation 2) evaluate the result from the implementation and services outcome and 3) to synthesis policy recommendation in order to response to New Emerging diseases in the future. Methods This mixed-method study was conducted between February 2022 to March 2023. Consolidated Framework for Implementation Research was used to evaluate the implementation process and used Conceptual Model of Implementation Research was used to assess the implementation output and outcome. Both quantitative and qualitative information were collected from various sources of information including document used in the implementation process, focus group interview and in-depth interview, data from patient’s experience survey conducted by Health Accreditation Institute between 7-9 September 2021. Data recorded in AMED-telehealth was also used for the analysis of the implementation outcome and services outcome. Results The implementation of COVID-19 Primary Care Hub to strengthen the capacity of primary health care in Bangkok achieved to improve access to services. Two-thousand three hundred and forty health professionals recruited to Fammed-CoCare Volunteering network and work with Pribta-Tangerine clinic, by IHRI, of these 1,544 were physicians. From July 1st to December 31st. 2021, 90,816 patients with COVID-19 received home isolation in the record of AMED-Telehealth, of these, 18,592 received treatment from Fammed-CoCare-Tangerine Clinic. There were 26 private primary care clinics, under the brand wam community clinic, agreed upon working in collaboration with COVID-19 Primary Care Hub, to receive academic support, consultation with specialist and coordination to receive needed medical supply as well as referral coordination, and 5, 285 patients received home isolation care from these 26 clinics. Overall, there were 24,237 patients with COVID-19, received services under the support of COVID-19 Primary care hub. There were 190 warm community clinics joining the program to provide home isolation, and 21,966 patients received home isolation services from these clinics. There were 68 health centers by Bangkok Metropolitan Area (BMA), considered as pubic primary care services, providing home isolation services and 35,218 patients received from these public primary care facilities. Home isolation services were eventually provided by primary care providers since the coordination of the committee to work on Strengthening Primary health Care System in Bangkok. This committee achieved to communicate with NHSO, Department of Health and the Department of Services Support, enabling home isolation services being provided at primary care service facility, through the correction of regulations that were set as barrier. Home isolation services provided by primary care provider achieved to reduce the gap of inequity, with resource mobilization, strengthening the capacity of service provision in primary care, enable critical care services, and care for patients with severe illness who need hospitalization but could not get access to. Key factors for success include the characteristic of COVID-19 primary care hub that is relevant to the established primary care infrastructure in Bangkok, in which warm community clinics play important roles, although there was challenges in the beginning as the clinic staff needs preparation and there was shortage of medical supplies during that period. Academic Support and capacity building for staff in primary care settings as well as consultations and making needed medical supply available help in building confidence the capacity for service provision. Coordination with community-based organization, community leaders and volunteers in the community has key role in providing support and coordination for the vulnerable. Most importantly, financing and re-imbursement mechanism is the most important factors for the success in the implementation of home isolation services. Health System crisis has drive private sectors and people in the society to step in and provide support inorder to overcome the challenging situation, having insufficient human resources for home isolation in Bangkok. The working culture and value that prioritize integration, patient centered approach, putting patients, family and community at the central role of services enable harmonize collaboration, working towards a common goal to reduce inequity, of people working in the field of primary health care, achieved to have demonstrated model for integrated services delivery. Horizontal integration is the key function in the process of this implementation activity which allows public-private and people partnership. Conclusion Investment and resource management in order to have sufficient primary health care staff providing services at primary care level is essential. In addition to this, Continuous learning mechanisms to enable capacity building through routine workflow is important to strengthen primary care capacity, considered as leverage point to enable integrated high quality primary care services. Telehealth has a crucial role in primary health care strengthening, especially in the situation of an epidemic or pandemic, preventing the spreading of infection. Community leaders and community-based organizations are sensitive to changes or unusual situation that occurs in community and have crucial role in coordinating needed support to the vulnerable.th_TH
dc.identifier.callnoW84.6 ศ475ก 2566
dc.identifier.contactno65-026
dc.subject.keywordHome Isolationth_TH
dc.subject.keywordHIth_TH
dc.subject.keywordแยกกักตัวที่บ้านth_TH
dc.subject.keywordคลินิกพริบตาth_TH
dc.subject.keywordคลินิกชุมชนอบอุ่นth_TH
.custom.citationศิรินภา ศิริพร ณ ราชสีมา, Sirinapa Siriporn Na Ratchaseema, สายรัตน์ นกน้อย, Sairat Noknoy, อภินันท์ อร่ามรัตน์, Apinun Aramrattana, สุพัตรา ศรีวณิชชากร, Supattra Srivanichakorn, อนุวัตร แก้วเชียงหวาง, Anuwat Kaewchiangwang, ราม รังสินธุ์, Ram Rangsin, สตางค์ ศุภผล, Satang Supapon, วิรุฬ ลิ้มสวาท, Wirun Limsawart, นิตยา ภานุภาค, Nittaya Phanuphak, ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ, Piyawan Limpanyalert, กิตติ วงศ์ถาวราวัฒน์, Kitti Wongthavarawat, ยุพดี ศิริสินสุข, Yupadee Sirisinsuk, นาถนภา คำลอยฟ้า, Nathnapha Khumloyfa, นิมิตร์ เทียนอุดม, Nimit Tienudom, นพพรรณ พรหมศรี, Nopphan Promsri, ทัศนีย์ ญาณะ, Tassanee Yana, เกรียงไกร พึ่งเชื้อ, Kriengkrai Peungchuer, พลวัฒน์ ทศวิภาค, Ponrawat Thotwiphak, ธีระบูลย์ เลิศวณิชย์วัฒนา and Teeraboon Lertwanichwattana. "การประเมินการดำเนินการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่บ้าน ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติระบบสุขภาพในพื้นที่กรุงเทพมหานคร." 2566. <a href="http://hdl.handle.net/11228/5881">http://hdl.handle.net/11228/5881</a>.
.custom.total_download47
.custom.downloaded_today0
.custom.downloaded_this_month1
.custom.downloaded_this_year15
.custom.downloaded_fiscal_year3

ฉบับเต็ม
Icon
ชื่อ: hs2984.pdf
ขนาด: 17.04Mb
รูปแบบ: PDF
 

ชิ้นงานนี้ปรากฎในคอลเล็คชั่นต่อไปนี้

แสดงรายการชิ้นงานแบบง่าย