Show simple item record

Economic Evaluation of Screening for Chronic Kidney Disease in Elderly

dc.contributor.authorกฤษณี สระมุณีth_TH
dc.contributor.authorKritsanee Saramuneeth_TH
dc.contributor.authorสุรัชดา ชนโสภณth_TH
dc.contributor.authorSuratchada Chanasoponth_TH
dc.contributor.authorพรชนก ศรีมงคลth_TH
dc.contributor.authorPornchanok Srimongkonth_TH
dc.contributor.authorภาณุมาศ ภูมาศth_TH
dc.contributor.authorPanumart Phumartth_TH
dc.contributor.authorอารีรัตน์ ลีละธนาฤกษ์th_TH
dc.contributor.authorAreerut Leelathanalerkth_TH
dc.contributor.authorวิระพล ภิมาลย์th_TH
dc.contributor.authorWiraphol Phimarnth_TH
dc.date.accessioned2023-10-26T06:32:50Z
dc.date.available2023-10-26T06:32:50Z
dc.date.issued2566-07
dc.identifier.otherhs3006
dc.identifier.urihttp://hdl.handle.net/11228/5954
dc.description.abstractภูมิหลังและเหตุผล: ไตเรื้อรัง (Chronic kidney disease, CKD) มีความชุกสูงในประเทศไทยและมีภาระค่าใช้จ่ายในการรักษามาก มีคำแนะนำว่าการคัดกรองความเสี่ยงของภาวะ CKD จะมีประโยชน์ อายุที่มากขึ้นถือเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งของการเกิด CKD แต่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ายังไม่ได้กำหนดให้มีการคัดกรองไตให้แก่คนกลุ่มนี้อย่างสม่ำเสมอ วัตถุประสงค์: เพื่อพัฒนาข้อเสนอชุดสิทธิประโยชน์ของการตรวจคัดกรองโรคไตเรื้อรังในผู้สูงอายุในบริบทประเทศไทย โดยการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ประเมินผลกระทบด้านงบประมาณและการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดบริการคัดกรองโรคไตเรื้อรังในผู้สูงอายุ วิธีการศึกษา: ศึกษาต้นทุนประสิทธิผลของวิธีการคัดกรองไต 6 วิธีในมุมมองทางสังคมและมุมมองผู้ให้บริการ โดยใช้แบบจำลอง decision tree และ markov model ร่วมกัน วิธีการคัดกรอง ได้แก่ Serum creatinine (Scr), Proteinuria dipstick (Pro), Microalbuminuria dipstick (Micro), Albumin-to-creatinine ratio (ACR) dipstick (ACRdip) และการใช้ 2 วิธีร่วมกัน คือ Pro+Scr และ Micro+Scr รวบรวมค่าพารามิเตอร์ด้วยการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบและวิเคราะห์อภิมาน วิเคราะห์ความไม่แน่นอนและวิเคราะห์ขีดจำกัดของความคุ้มค่า จากนั้นวิเคราะห์ผลกระทบด้านงบประมาณจากมุมมองของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยทำนายผลกระทบสำหรับ 5 ปี และศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดบริการจากมุมมองของผู้ปฏิบัติงานในระดับปฐมภูมิ ด้วยวิธีการเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ผลการศึกษา: ภายใต้ความยินดีที่จะจ่ายของประเทศไทยที่ 160,000 บาทต่อ QALY ทำให้การคัดกรองทั้ง 6 วิธีนั้นมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ โดยถือเป็นการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นที่ทำให้เกิดประโยชน์เพิ่มขึ้น ผลการวิเคราะห์มีค่า ICER อยู่ระหว่าง 16,878.73-24,245.37 บาทต่อ QALY ส่วนผลการวิเคราะห์ในมุมมองผู้ให้บริการมีค่า ICER อยู่ระหว่าง 13,844.74-20,503.14 บาทต่อ QALY วิธีการ Protienuria dipstick มี ICER ต่ำสุด โดยงบประมาณรวมของการคัดกรองและการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังสำหรับ 5 ปีเท่ากับ 5,653 ล้านบาท งบประมาณสำหรับการรักษาคิดเป็นร้อยละ 97-99 ของงบประมาณรวม ผู้ปฏิบัติงานในระดับปฐมภูมิเห็นว่าการคัดกรองไตในผู้สูงอายุมีประโยชน์ แต่ควรเลือกวิธีการที่ทำได้ง่ายและเสนอแนะว่าควรมีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ก่อนประกาศนโยบาย ได้แก่ ความพร้อมด้านอัตรากำลัง การฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่มีความสามารถที่จะคัดกรองได้ การเตรียมระบบการดูแลผู้ป่วยและระบบส่งต่อหลังจากที่คัดกรองแล้วพบว่าเป็นโรค และการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคไตให้ผู้ป่วยรับทราบ เพื่อเพิ่มความร่วมมือในการคัดกรองและเข้ารับการรักษา สรุปผล: การคัดกรองไตในผู้สูงอายุปีละ 1 ครั้ง มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ โดยเสนอให้เลือกวิธี Protienuria dipstick เนื่องจากมีความคุ้มค่ามากที่สุดและมีผลกระทบด้านงบประมาณน้อยที่สุด การจัดบริการนี้มีความเป็นไปได้ในระดับปฐมภูมิแต่ควรมีการเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรและระบบการดูแลผู้ป่วยและระบบส่งต่อหลังจากที่คัดกรองแล้วพบว่าเป็นโรค จึงควรบรรจุบริการนี้เป็นชุดสิทธิประโยชน์ภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าth_TH
dc.description.sponsorshipสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.rightsสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.subjectElderlyth_TH
dc.subjectAgingth_TH
dc.subjectOlder Peopleth_TH
dc.subjectผู้สูงอายุth_TH
dc.subjectโรคไตth_TH
dc.subjectKidney Diseasesth_TH
dc.subjectChronic Kidney Diseaseth_TH
dc.subjectโรคไตเรื้อรังth_TH
dc.subjectการตรวจคัดกรองth_TH
dc.subjectการประเมินผลth_TH
dc.subjectEvaluationth_TH
dc.subjectMeasurementth_TH
dc.subjectเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขth_TH
dc.subjectHealth Economicsth_TH
dc.subjectต้นทุนต่อหน่วยth_TH
dc.subjectCost--Analysisth_TH
dc.subjectCost-Benefit Analysisth_TH
dc.subjectการวิเคราะห์ความคุ้มทุนth_TH
dc.subjectค่ารักษาพยาบาล--การวิเคราะห์ต้นทุนth_TH
dc.subjectระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing)th_TH
dc.titleการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของการตรวจคัดกรองโรคไตเรื้อรังในผู้สูงอายุth_TH
dc.title.alternativeEconomic Evaluation of Screening for Chronic Kidney Disease in Elderlyth_TH
dc.typeTechnical Reportth_TH
dc.description.abstractalternativeBackground: Chronic kidney disease (CKD) is prevalent in Thialand that incure high healthcare expenditure. Screening for high risk CKD is recommended to contribute benefit. Aging is one of a CKD risk factor, though this service is yet excluded from the Universal Coveragre Benefit Package (UCBP). Objective: To propose a recommendation for elderly CKD screening to be included in the UCBP by performing economic evaluation, budget impact analysis, and feasibility of delivery such a service. Methods: A cost-effectiveness analysis (CEA) of six screening methods was carried from societal and provider perspective. Decision-tree and markov model were used to simulate screening and CKD health states. Screening methods included Serum creatinine (Scr), Proteinuria dipstick (Pro), Microalbuminuria dipstick (Micro), Albumin-to-creatinine ratio (ACR) dipstick (ACRdip), combined Pro+Scr, and combined Micro+Scr. Parameters were reviewed and analysed by meta-analysis. Sensitivity and threshold analysis were performed to identify uncertaintity of the CEA results. Budget impact analysis was conducted to estimate 5-year budget for NHSO. Feasibility of service delivery was explored by qualitative approach using telephone interview. Results: Under Thailand’s willingness to pay of 160,000 baht/QALY, the six screening methods were cost-effective. CKD screening incurred additional cost and effectiveness. ICER of the six methods were between 16,878.73 - 24,245.37 and 13,844.74-20,503.14 baht/QALY for societal and provider perspective, respectively. Protienuria dipstick had the lowest ICER and exhibited a 5-years-budget of 5,653 million baht for screening and treatment, however treatment budget was the major proportion of the budget (97-99%). Primary care practitioners agreed the benefit of CKD screening and suggest to implement a screening method that ease to use. Preparing for CKD screening before implementation should concern: human resources, training about screening, CKD related services and referral system, educate elderly about CKD to increase compliance to screening and treatment. Conclusion: Annual CKD screening for elderly is cost-effective. Although protienuria dipstick incures the lowest budget to NHSO for screening and treatment. However microalbuminuria dipstick should be selected because of its highest cost-effectiveness. Elderly CKD screening is feasible for primary care but need some prepations regarding healthcare resources: human resources, CKD related services and referral system. This study recommends that CKD Annual CKD screening for elderly should be included in the UCBP.th_TH
dc.identifier.callnoW74 ก283ก 2566
dc.identifier.contactno64-182
.custom.citationกฤษณี สระมุณี, Kritsanee Saramunee, สุรัชดา ชนโสภณ, Suratchada Chanasopon, พรชนก ศรีมงคล, Pornchanok Srimongkon, ภาณุมาศ ภูมาศ, Panumart Phumart, อารีรัตน์ ลีละธนาฤกษ์, Areerut Leelathanalerk, วิระพล ภิมาลย์ and Wiraphol Phimarn. "การประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของการตรวจคัดกรองโรคไตเรื้อรังในผู้สูงอายุ." 2566. <a href="http://hdl.handle.net/11228/5954">http://hdl.handle.net/11228/5954</a>.
.custom.total_download71
.custom.downloaded_today0
.custom.downloaded_this_month6
.custom.downloaded_this_year47
.custom.downloaded_fiscal_year10

Fulltext
Icon
Name: hs3006.pdf
Size: 12.64Mb
Format: PDF
 

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record