Show simple item record

Efficacy and Safety of an Andrographis Capsule Compared with Standard Therapy for the Treatment of Asymptomatic or Mild COVID-19 without Pneumonia: A Double-Blinded Randomized-Control Trial

dc.contributor.authorสุเบญจา พิณสายth_TH
dc.contributor.authorSubencha Pinsaith_TH
dc.contributor.authorโศรยา ธรรมรักษ์th_TH
dc.contributor.authorSoraya Dhamarakth_TH
dc.contributor.authorชลาลัย คล้ายพิมพ์th_TH
dc.contributor.authorChalalai Klaipimth_TH
dc.contributor.authorวรรณพร เอี่ยมวรวุฒิกุลth_TH
dc.contributor.authorWannaporn Eaimworawuthikulth_TH
dc.contributor.authorมยุรี ตั้งเกียรติกำจายth_TH
dc.contributor.authorMayuree Tangkiatkumjaith_TH
dc.contributor.authorอาสาฬา เชาวน์เจริญth_TH
dc.contributor.authorArsala Chaocharoenth_TH
dc.contributor.authorผกากรอง ขวัญข้าวth_TH
dc.contributor.authorPakakrong Kwankhaoth_TH
dc.contributor.authorอาณัฐชัย ม้ายอุเทศth_TH
dc.contributor.authorArnatchai Maiuthedth_TH
dc.date.accessioned2024-01-29T07:32:44Z
dc.date.available2024-01-29T07:32:44Z
dc.date.issued2566-12
dc.identifier.otherhs3056
dc.identifier.urihttp://hdl.handle.net/11228/6003
dc.description.abstractผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ซึ่งได้รับการยืนยันผลการติดเชื้อ Severe Acute Respiratory Syndrome Coronavirus-2 (SARS-CoV-2) ด้วยวิธี Reverse Transcription Polymerase Chain Reaction (RT-PCR) ภายใน 72 ชั่วโมง ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเข้าและได้รับการรักษาครบถ้วนตามโครงร่างวิจัย จำนวน 257 ราย ได้รับการสุ่มและแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทดลอง (Andrographis Paniculata Powder Capsules, AP) ได้ยาบรรเทาอาการมาตรฐาน ร่วมกับยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรที่มีแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน จำนวน 132 ราย และกลุ่มควบคุม (Placebo Capsules, PB) ได้รับยาบรรเทาอาการมาตรฐาน ร่วมกับยาแคปซูลหลอก จำนวน 125 ราย เป็นเวลา 5 วัน โดยผู้ป่วยทุกรายได้รับการดูแลและติดตามผลการรักษาและความปลอดภัยในหอผู้ป่วยของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี เป็นเวลา 10 วัน วัตถุประสงค์หลักของการวิจัย คือ ศึกษาอุบัติการณ์การเกิดปอดอักเสบในทั้งสองกลุ่ม ส่วนวัตถุประสงค์รอง คือ ศึกษาความรุนแรงของโรคหลังการรักษา จาก 1) ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด (O2sat), 2) อัตราการหายใจ (Respiratory Rate, RR), 3) ค่าบ่งชี้การอักเสบในเลือด (C-Reactive Protein, CRP), 4) ปริมาณเชื้อไวรัส 5) ความปลอดภัย จากอาการไม่พึงประสงค์จากการรักษา, การทำงานของตับและไต, ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ และระดับโพแทสเซียมในเลือด และ 6) โปรไฟล์พลาสมาของผู้ป่วยที่หายจากโรคโควิด-19 ด้วยวิธีโปรติโอมิกส์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ Independent T-Test หรือ Wilcoxon Rank Sum Test ตามความเหมาะสม สำหรับข้อมูลต่อเนื่อง (Continuous Variables) และ Chisquare Tests สำหรับข้อมูลที่ไม่ต่อเนื่อง (Categorical Variables) ในส่วนของโปรติโอมิกส์ของพลาสมาผู้ป่วยโควิด-19 ถูกแสดงในรูปแบบของ Venn Diagram และ Volcano Plot โดยสารที่มีความแตกต่างกันของทั้งสองกลุ่มตั้งแต่ 2 Log ขึ้นไปถูกนำไปวิเคราะห์ KEGG Pathway เพื่อค้นหากลไกที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกของโปรตีนหรือสารเมตาบอไลท์ชนิดนั้นๆ ผลการศึกษาพบว่า มีจำนวนผู้ป่วยที่เกิดปอดอักเสบในกลุ่ม AP และ PB กลุ่มละจำนวน 4 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.03 และ 3.20 ตามลำดับ (p>0.05) ผลการศึกษารองที่แสดงถึงความรุนแรงของโรคหลังการรักษา ได้แก่ 1) ค่า Oxygen Saturation (O2sat) 2) Respiratory Rate (RR) 3) ปริมาณเชื้อ Droplet Digital PCR Viral Load ในกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 131 ราย พบว่าไม่มีความแตกต่างกันในทั้งสองกลุ่ม 4) ระดับ CRP ในเลือด พบว่า กลุ่ม AP มีจำนวนผู้ป่วยที่มีค่าการอักเสบ CRP น้อยกว่า 10 mg/L มากกว่ากลุ่ม PB อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในวันที่ 5 (p=0.038) 5) อาการไม่พึงประสงค์จากการรักษา และการทำงานของไต ความดันโลหิต ไม่พบความแตกต่างกันทั้งสองกลุ่ม (p>0.05) 5) การทำงานของตับ พบว่า ผู้ป่วยในกลุ่ม AP มีค่า AST และ ALT เพิ่มสูงกว่าค่าปกติ แต่ไม่เกิน 3 เท่า จำนวน 13 ราย มากกว่ากลุ่ม PB ที่มี 7 ราย (p=0.248) นอกจากนี้ ผู้ป่วยในกลุ่ม AP มีค่ามัธยฐานของ ALT (Alanine Aminotransferase) วันที่ 5 และ 10 มีค่าสูงกว่ากลุ่ม PB ในช่วงเวลาเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ค่ามัธยฐาน ALT ยังอยู่ในช่วงค่าปกติ อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบจำนวนผู้ป่วยค่า ALT ที่สูงกว่า 3 เท่าของค่าขอบบนปกติ พบผู้ป่วยในกลุ่ม AP และ PB จำนวน 2 และ 1 ราย ตามลำดับ ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้ป่วยทุกรายไม่มีอาการแสดงออกของภาวะตับอักเสบและค่า ALT กลับมาเป็นปกติในวันที่ 28 ของการรักษา ผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มมีอุบัติการณ์การเกิดภาวะความดันโลหิตสูงและอัตราการเต้นของหัวใจน้อยกว่า 60 ครั้งต่อนาทีไม่แตกต่างกันและไม่พบผู้ป่วยรายใดที่เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ (BP<90/60 มิลลิเมตรปรอท) และค่ามัธยฐานของระดับโพแทสเซียมที่ติดตามในทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน ในส่วนของการวิเคราะห์ผลโปรติโอมิกส์ในพลาสมาของผู้ป่วย พบโปรตีนที่แตกต่างกันของกลุ่มผู้ป่วยในทั้งสองกลุ่ม โดยในกลุ่ม AP พบโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวโมเลกุล 3 ลำดับแรก ได้แก่ 1) Complement and Coagulation Cascades 2) Staphylococcus Aureus Infection 3) Coronavirus Disease โดยโปรตีนที่อยู่ภายใต้วิถีชีวโมเลกุล Complement and Coagulation Cascades เป็นโปรตีนที่มีหลักฐานทางวิชาการในการลดการเกิดลิ่มเลือด มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจนมากที่สุด กล่าวโดยสรุป คือ การได้รับฟ้าทะลายโจรที่มีแอนโดรกราโฟไลด์ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน มีผลในการป้องกันปอดอักเสบในผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการและอาการน้อยได้ไม่แตกต่างจากการได้รับยามาตรฐาน ซึ่งผลการศึกษาที่พบนี้แตกต่างจากงานวิจัยก่อนหน้านี้ อาจจะเนื่องมาจากปัจจัยสำคัญ 2 ข้อ คือ การที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 และความรุนแรงของสายพันธุ์ไวรัสที่ลดลง ในด้านความปลอดภัยนั้น พบว่า การได้รับฟ้าทะลายโจรอาจส่งผลให้ค่าเอนไซม์ตับ Alanine Transaminase (ALT) เพิ่มขึ้น การศึกษานี้ พบผู้ป่วยจำนวน 2 และ 1 รายในกลุ่ม AP และ PB ตามลำดับ ที่มีค่า ALT สูงเกินกว่า 3 เท่าของค่าปกติบน แต่ผู้ป่วยทุกรายมีค่า ALT กลับมาเป็นปกติภายใน 28 วันและทุกรายไม่พบอาการแสดงของตับอักเสบ การศึกษานี้ยังมีข้อค้นพบที่น่าสนใจ คือ ผู้ป่วยที่ได้รับ AP มีค่า C-Reactive Protein (CRP) น้อยกว่า 10 mg/L มากกว่าในกลุ่ม PB อย่างมีนัยสำคัญth_TH
dc.description.sponsorshipสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.rightsสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.subjectฟ้าทะลายโจรth_TH
dc.subjectฟ้าทะลายโจร--การใช้รักษาth_TH
dc.subjectความปลอดภัยในการใช้ยาth_TH
dc.subjectAndrographolideth_TH
dc.subjectAndrographis Paniculatath_TH
dc.subjectยาสมุนไพรth_TH
dc.subjectHerbal Medicineth_TH
dc.subjectHerbal Medicine--Thailandth_TH
dc.subjectSARS-CoV-2th_TH
dc.subjectCOVID-19 (Disease)th_TH
dc.subjectโควิด-19 (โรค)th_TH
dc.subjectCoronavirusesth_TH
dc.subjectไวรัสโคโรนาth_TH
dc.subjectCoronavirus Infectionsth_TH
dc.subjectการติดเชื้อไวรัสโคโรนาth_TH
dc.subjectการบริการสุขภาพ (Health Service Delivery)th_TH
dc.titleประสิทธิศักย์และความปลอดภัยของการใช้ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรเปรียบเทียบกับยาบรรเทาอาการมาตรฐานในผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย (ยังไม่มีปอดอักเสบแรกรับ) : การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมth_TH
dc.title.alternativeEfficacy and Safety of an Andrographis Capsule Compared with Standard Therapy for the Treatment of Asymptomatic or Mild COVID-19 without Pneumonia: A Double-Blinded Randomized-Control Trialth_TH
dc.typeTechnical Reportth_TH
dc.description.abstractalternativeTwo hundred and fifty-seven patients presenting mild to moderate symptoms of COVID-19, confirmed through Reverse Transcription Polymerase Chain Reaction (RT-PCR) within 72 hours, were enrolled in this randomized controlled trial. The patients were divided into two groups: the first group received standard treatment in addition to standardized Andrographis paniculata powder capsules (AP), containing an equivalent of andrographolide at a dosage of 180 mg/day. The second group received standard treatment along with placebo capsules (PB). The treatment course spanned a duration of 5 days. Safety and efficacy assessments were conducted within the hospital ward over a 10-day period. The primary objective of this study was to assess the incidence of pneumonia. Secondary outcomes aimed to ascertain the severity of symptoms through the evaluation of various parameters, including: 1) Oxygen saturation 2) Respiratory rate 3) C-reactive protein levels 4) Viral load quantification 5) Adverse events, specifically assessed through blood tests for liver and renal function, as well as monitoring blood pressure, heart rate, and potassium levels. 6) Plasma profiling utilizing proteomic methodologies. Statistical analyses were conducted utilizing either the Independent t-test or the Wilcoxon Rank Sum Test for continuous data, depending on the nature of the variables. Categorical variables underwent analysis through the Chi-square test. Representation of the plasma profile involved the utilization of a Venn diagram and a Volcano plot. A difference value exceeding 2 log units was employed for the subsequent analysis of KEGG pathways, facilitating an exploration of the pathway interactions among genes, proteins, and enzymes. This meticulous approach allowed for a nuanced understanding of the underlying mechanisms and interactions within the biological systems under investigation. The investigation unveiled four cases within the study of 132 cases afflicted with pneumonia in the AP group. Conversely, the placebo group exhibited four cases out of 125 cases, representing proportions of 3.03% and 3.20%, respectively. Regarding secondary outcomes, there was no discernible difference between the groups in terms of oxygen saturation, respiratory rate, and viral load quantification among the 131 cases. The AP group exhibited a markedly higher proportion of patients with C-reactive protein (CRP) levels below 10 mg/ml, demonstrating statistical significance (p = 0.038). No serious adverse effects were identified in the study, and both renal function and blood pressure were observed to be within normal ranges in both groups. In the AP group, elevations in Aspartate Aminotransferase (AST) and Alanine Aminotransferase (ALT) were noted, albeit not exceeding three times the normal values in 13 cases. Conversely, in the placebo group, such elevations were observed in 7 cases. However, no statistically significant difference was observed between the two groups (p = 0.248). On days 5 and 10, the median ALT level in the AP was significantly higher than that in the PB. Notwithstanding, the ALT levels remained within the normal range. Furthermore, the number of patients with ALT values exceeding three times the normal range was 2 in the AP group and 1 in the PB group, respectively. Importantly, in all cases where ALT levels rose, there were no clinical symptoms indicative of hepatitis. By day 28, all cases demonstrated a return of ALT levels to the normal range. No significant difference was observed in the incidence of hypertension between both groups. Additionally, no instances were found of a heart rate lower than 60 times per minute. There were no discernible differences in the incidence of hypotension between the two groups. Furthermore, there were no significant disparities in median potassium levels between the AP and PB groups. Upon conducting plasma profiling using proteomic analysis, our investigation identified distinct disparities between the two groups in terms of 1) Complement and coagulation cascades, 2) Staphylococcus aureus infection, and 3) Coronavirus disease, with these alterations being evident in the AP group. Proteins expressed in the Complement and coagulation cascades were found to potentially mitigate blood coagulation. In conclusion, the administration of AP at a dosage of 180 mg/day may serve as a preventive measure against pneumonia in individuals exhibiting mild to moderate symptoms of COVID-19, not different from comparable to standard treatment protocols. These findings may diverge from prior research due to the inclusion of a vaccinated population and the overall lower severity of viral infections in our study cohort. Notably, the AP group demonstrated a higher proportion of patients with C-reactive protein (CRP) levels below 10 mg/mlth_TH
dc.identifier.callnoQV766 ส823ป 2566
dc.identifier.contactno64-201
.custom.citationสุเบญจา พิณสาย, Subencha Pinsai, โศรยา ธรรมรักษ์, Soraya Dhamarak, ชลาลัย คล้ายพิมพ์, Chalalai Klaipim, วรรณพร เอี่ยมวรวุฒิกุล, Wannaporn Eaimworawuthikul, มยุรี ตั้งเกียรติกำจาย, Mayuree Tangkiatkumjai, อาสาฬา เชาวน์เจริญ, Arsala Chaocharoen, ผกากรอง ขวัญข้าว, Pakakrong Kwankhao, อาณัฐชัย ม้ายอุเทศ and Arnatchai Maiuthed. "ประสิทธิศักย์และความปลอดภัยของการใช้ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรเปรียบเทียบกับยาบรรเทาอาการมาตรฐานในผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย (ยังไม่มีปอดอักเสบแรกรับ) : การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม." 2566. <a href="http://hdl.handle.net/11228/6003">http://hdl.handle.net/11228/6003</a>.
.custom.total_download36
.custom.downloaded_today0
.custom.downloaded_this_month2
.custom.downloaded_this_year36
.custom.downloaded_fiscal_year8

Fulltext
Icon
Name: hs3056.pdf
Size: 5.597Mb
Format: PDF
 

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record