• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การสำรวจการเข้าถึงสถานพยาบาลและรายจ่ายด้านสุขภาพของผู้ป่วยที่เสียชีวิต พ.ศ. 2548-2549

ชุติมา อรรคลีพันธุ์; Chutima Akaleephan; วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร; ภูษิต ประคองสาย; จิตปราณี วาศวิท; อรศรี ฮินท่าไม้; อาทิตยา เทียมไพรวัลย์; Viroj Tangcharoensathien; Phusit Prakongsai; Chitpranee Vasavid; Onsri Hinthamai; Artitaya Tiampriwan;
วันที่: 2550
บทคัดย่อ
การสำรวจครั้งนี้เป็นการศึกษาการเข้าถึงบริการสาธารณสุข อัตราและแบบแผนการใช้บริการ และภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือนทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของผู้เสียชีวิต โดยใช้แบบสอบถามเพิ่มเติมนอกเหนือจากการสอบถามการเปลี่ยนแปลงของประชากรครั้งที่ 7 เมื่อพบว่ามีผู้เสียชีวิตในครัวเรือนตัวอย่าง 82,000 ครัวเรือนทั่วประเทศไทย การสำรวจมีคาบเวลาระหว่างเดือนกรกฎาคม 2548 ถึง กรกฎาคม 2549 เป็นเวลา 1 ปี พบว่ามีผู้ตายทั้งสิ้น 387,970 คนอัตราตายของประชากรลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจเมื่อ 10 – 20 ปีก่อน เพศชายตายมากกว่าเพศหญิง กลุ่มครัวเรือนยากจนตายมากกว่าครัวเรือนที่รวยกว่า ผู้ตายครึ่งหนึ่งเป็นผู้สูงอายุ (มากกว่า 60 ปี) กลุ่มโรคไม่ติดต่อเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่ง (ร้อยละ 51.4) ได้แก่ โรคมะเร็ง และโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้เป็นการตายด้วยโรคชรา ครึ่งหนึ่งของผู้ที่เสียชีวิตตายที่บ้าน รองลงมาคือ โรงพยาบาลรัฐ และมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตร้อยละ 4.1 ที่ยังไม่มีสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลใด ๆการวิเคราะห์ข้อมูลเรื่องพฤติกรรมการรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่าย ได้ใช้วิธีการแบบ two part model กล่าวคือ วิเคราะห์ว่า มีหรือไม่มีการรักษา และ ถ้ารักษาเป็นจำนวนกี่ครั้ง สำหรับผู้จ่ายเงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ โดยค่าใช้จ่ายนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก และด้วยวิธีการวิเคราะห์ความถดถอยโลจิสติค และความถดถอยเชิงพหุ จะพบว่าปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก และ แบบผู้ป่วยใน คือ สิทธิสวัสดิการ กลุ่มโรค และประเภทของสถานพยาบาลที่ใช้บริการ เป็นสำคัญ มีผู้ป่วยร้อยละ 58.6 รักษาแบบผู้ป่วยนอก จ่ายเงินร้อยละ 65.2 ของผู้ที่รักษาทั้งหมด โดยเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 6,557 – 58,753 บาทใน 1 ปีก่อนเสียชีวิต ขึ้นกับสิทธิสวัสดิการที่มี โดยค่ารักษาที่สถานพยาบาลเอกชนจะมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด มีผู้ป่วยร้อยละ 57 ที่รักษาแบบผู้ป่วยใน ในจำนวนนี้ร้อยละ 41.8 ต้องจ่ายเงินค่ารักษาเพิ่มเติมจากสิทธิสวัสดิการที่มี โดยเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 10,646 – 231,167 บาทใน 1 ปีก่อนเสียชีวิต และการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนจะมีรายจ่ายสูงที่สุด จำนวนผู้ที่รักษารักษาแบบผู้ป่วยนอกและ/หรือผู้ป่วยในคิดเป็นร้อยละ 76.6 ร้อยละ 63.8 ของผู้ใช้บริการต้องเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 15,357 – 206,912 บาทภายใน 1 ปีก่อนเสียชีวิต ค่าเดินทางคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 31 – 86 และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 3 – 18 ของการรักษาแบบผู้ป่วยนอก และสำหรับการรักษาแบบผู้ป่วยใน ซึ่งมีวันนอนเฉลี่ยตั้งแต่ 10 – 15 วัน ค่าเดินทางคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 5 – 100 และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 4 – 11 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด จะมีครัวเรือนร้อยละ 29.2 ที่อาจจัดได้ว่าอยู่ในสภาวะล้มละลายโดยที่มีค่าใช้จ่ายภายใน 1 ปีก่อนเสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 10 ของรายได้ตลอดทั้งปี โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 64 จัดเป็นครัวเรือนที่มีฐานะยากจนที่สุดการศึกษาครั้งนี้สรุปได้ว่า รายได้ครัวเรือน และเขตการปกครองไม่ได้เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการรักษาหรือไม่รักษาพยาบาลในผู้ป่วยระยะสุดท้าย (3 เดือนแบบผู้ป่วยนอก และ 6 เดือนแบบผู้ป่วยใน) แสดงว่า ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้ สอดคล้องกับผู้ดูแลผู้ป่วยก่อนเสียชีวิตให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ไม่รักษาในโรงพยาบาลเนื่องจาก เป็นการตายฉุกเฉิน (ร้อยละ 61) ไม่ต้องการรักษาในโรงพยาบาล (ร้อยละ 15) และต้องการตายที่บ้าน (ร้อยละ 14) และเนื่องจากกลุ่มผู้ตายโดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ (ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) ซึ่งส่วนใหญ่ที่ระบุว่าโรคชราจะตายที่บ้าน หรือเมื่อผู้ป่วยรู้ว่าป่วยระยะสุดท้ายก็จะตายที่บ้าน น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการจัดบริการสาธารณสุขต่อไปในอนาคต เมื่อประชากรมีอายุยืนมากขึ้นและส่วนใหญ่ตายเมื่ออายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs1355.pdf
ขนาด: 333.6Kb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 5
ปีพุทธศักราชนี้: 5
รวมทั้งหมด: 159
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV