บทคัดย่อ
อุบัติเหตุเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะอุบัติเหตุจากการจราจรทางบก ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดองค์กรร่วมสร้างกระบวนการดำเนินการป้องกันอุบัติเหตุในชุมชน ต่อปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้ออำนวย ปัจจัยเสริม และพฤติกรรมป้องกันอุบัติเหตุจากการจราจรของผู้เดินถนน ผู้ขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์และผู้ขับเคลื่อนรถยนต์ โดยมีกลุ่มดำเนินการ 101 หมู่บ้าน ที่จัดองค์กรร่วมแก้ปัญหาในหมู่บ้านระหว่างเดือนพฤษภาคม 2540 - พฤษภาคม 2541 และกลุ่มควบคุมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน 101 หมู่บ้าน เก็บข้อมูลก่อนและหลังดำเนินการโดยการสัมภาษณ์ผู้เดินถนน กลุ่มละ 330 คน รวม 660 คน ผู้ขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์และรถยนต์กลุ่มละ 300 คน รวม 1,200 คน สุ่มสังเกตพฤติกรรมในชุมชนเดือนเว้นเดือนเดือนๆ ละ 4 ครั้ง ในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เสาร์ รวม 5 เดือน และสอบถามเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานขององค์กรชุมชนที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน นำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์โปรแกรม SPSS/pc+ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม การศึกษาสูงสุดระดับประถมศึกษา โดยผู้เดินถนนส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีรายได้ต่อครอบครัวเฉลี่ย < 5,000 บาท ต่อปี ส่วนผู้ขับเคลื่อนจักรยานยนต์และรถยนต์เป็นเพศชาย มีรายได้เฉลี่ยต่อครอบครัว > 30,000 บาท ต่อปี ผลการศึกษาปัจจัยนำ พบว่า หลังดำเนินการจัดตั้งองค์กรฯ ผู้เดินถนน ผู้ขับเคลื่อนจักรยานยนต์และผู้ขับเคลื่อนรถยนต์ มีความรู้เรื่องกฎและเครื่องหมายจราจรและมีการรับรู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุถูกต้องเพิ่มขึ้น ยกเว้นในกลุ่มผู้ขับเคลื่อนจักรยานยนต์มีการรับรู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุถูกต้องลดลง การศึกษาปัจจัยเอื้ออำนวยพบว่า หลังดำเนินการ ทั้งในกลุ่มผู้ขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์และผู้ขับเคลื่อนรถยนต์ มีอุปกรณ์นิรภัย ได้แก่ หมวกกันน็อค และเข็มขัดนิรภัยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) อย่างไรก็ตามในอุปกรณ์อื่นๆ นั้นไม่พบความแตกต่างกันเมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังดําเนินการ ส่วนการศึกษาปัจจัยเสริม พบว่า กลุ่มผู้เดินถนนและกลุ่มผู้ขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์ กลุ่มดําเนินการ ทั้งก่อนและหลังดําเนินการ พบว่า ส่วนมากแหล่งที่ได้รับความรู้เรื่องกฎและเครื่องหมายจราจร และแหล่งที่ได้รับคําแนะนําเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุ คือ ทีวี ส่วนในกลุ่มผู้ขับเคลื่อนรถยนต์พบว่า ส่วนมากได้รับความรู้เรื่องกฎและเครื่องหมายจราจรจากการสอบใบขับขี่และแหล่งที่ได้รับคําแนะนําเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุคือจากการดูทีวี จากการศึกษาพฤติกรรมป้องกันอุบัติเหตุเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มดําเนินการและ กลุ่มควบคุม พบว่า พฤติกรรมผู้เดินถนนรายบุคคลเกี่ยวกับการเดินถนนชิดขอบทางด้านของทิศทางสวนกับรถ การข้ามถนนโดยมองขวา มองซ้าย และมองขวาอีกครั้งก่อนข้าม การสวมเสื้อโทนสีสว่างขณะเดินถนนเวลากลางคืนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p – value < 0.01) โดยกลุ่มดําเนินการมีพฤติกรรมถูกต้องมากกว่ากลุ่มควบคุม ส่วนพฤติกรรมผู้ขับเคลื่อนในการเปิดไฟเลี้ยวขวาเมื่อต้องการเลี้ยวขวา การเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเมื่อต้องการเลี้ยวซ้าย สวมหมวกกันน็อคขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ขับขี่ของผู้ซ้อนท้าย ชะลอความเร็วเมื่อถึงทางแยก มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p – value < 0.01) โดยกลุ่มดําเนินการปฏิบัติถูกต้องมากกว่ากลุ่มควบคุม ส่วนพฤติกรรมในผู้ขับเคลื่อนรถยนต์ในการเปิดไฟเลี้ยวขวาเมื่อต้องการเลี้ยวขวา การเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเมื่อต้องการเลี้ยวซ้าย การคาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับรถยนต์ของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร การชะลอความเร็วเมื่อถึงทางแยก มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p – value < 0.01) โดยทุกพฤติกรรมกลุ่มดําเนินการปฏิบัติถูกต้องมากกว่ากลุ่มควบคุม