บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการสื่อสารการรณรงค์ขององค์กรภาครัฐ เอกชน ธุรกิจ และท้องถิ่นหรือชุมชน ผู้นำหรือผู้ปฏิบัติงานรณรงค์และกลุ่มเป้าหมายในการรณรงค์ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยเฉพาะเจาะจง โดยมีเกณฑ์ในการเลือกเพื่อศึกษาเชิงปริมาณ 106 โครงการ และเชิงคุณภาพ 20 โครงการที่รณรงค์เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพตามนโยบาย 5 อ. คือ อาหาร การออกกำลังกาย อารมณ์ อโรคยา และอนามัย เก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบสำรวจ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรม SPSS และจัดทำฐานข้อมูลโดยใช้ Microsoft Access เพื่อสะดวกในการเรียกใช้ ส่วนการเสนอข้อมูลการวิจัยนำเสนอเป็นอัตราส่วนร้อยละ ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีการสัมภาษณ์เจาะลึก สนทนากลุ่ม และการสังเกตการณ์อย่างไม่มีส่วนร่วม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและตีความหมาย นำเสนอผล โดยการพรรณา สรุปผลการวิจัยพบว่า 1. กระบวนการสื่อสารการรณรงค์ด้านสุขภาพ ขององค์กรต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารสองทางเนื้อหาเป็นเรื่อง การออกกำลังกาย การเผยแพร่ความรู้และจิตสำนึกเรื่องสุขภาพและเรื่องอาหาร สื่อที่ใช้คือสื่อบุคคล สื่อเฉพาะกิจและสื่อมวลชน ผลของการรณรงค์คือกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่รับรู้สนใจตระหนัก แต่ยังขาดจิตสำนึกและการปฏิบัติตนด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง 2. การสร้างพลังการรณรงค์ให้มีประสิทธิภาพประสิทธิผลได้นั้น ผู้ส่งสารต้องมีความรับผิดชอบสูง มีจิตสาธารณะ สารควรจะเป็นเรื่องสุขภาพองค์รวม สื่อ เป็นสื่อบุคคล และสื่อผสม ผู้รับสารต้องเป็นผู้มีส่วนร่วมในการสื่อสารการรณรงค์ 3. ปัจจัยที่มีผลต่อการรณรงค์ด้านสุขภาพ คือผู้นำ แรงสนับสนุนทางสังคม งบประมาณ การส่วนร่วม และการสื่อสารแบบมีส่วนร่วม การสร้างเครือข่ายและการสื่อสารเครือข่าย การสร้างสุขภาพองค์รวมและการรณรงค์สู่ชุมชน โดยชุมชนเป็นศูนย์กลางหรือเป็นสำคัญ
บทคัดย่อ
The purpose of research is to study the communication process on health campaign among government, non-government, private and community organizations, by the leader or those who send messages in the organizations, and target groups for the campaign. Sample groups were purposefully selected, with 106 campaigns for quantitative study and 20 campaigns for qualitative study. All of these were campaigns for health promotion projects related to nutrition, exercise emotions. Disease-fee condition, and general good health. Data collection was done by using questionnaire and interview for quantitative data. In-depth interview, group discussion and observation are employed for qualitative data. Results of this study can be summarized as follow.Majority of health campign process were two-way communication, using individual messenger, event specific message, and mass media. Majority of the target group had the awareness but lacking consciousness and sustainability in health practices.In order to have effective health campaign, messenger had to have high level of trustworthiness and public concerns, while the message should be on holistic health. Message was communicated by individual messenger and mixed media. Receivers should be involved individuals in health campaign.Influential factors in health campaign were leaders, social support, budget, involvement, participatory communication, networking and network communication, holistic health promotion, and community-center campaign. Recommendations for health campaign are as follow.Empower, promote and support potentials of leadership, and core group to have capabilities in knowledge management, learning process, and skills in having good health and communication.Support networking in health campaign, by organizing activities and having regular network communication.Support for budget and other resources should be collective effort by every members in the alliance, groups, or network. This support should be consistent and completely covered all the necessities.Policy on strategic campaign should emphasize on participation of everyone involved, in every steps of campaign, by government, non-government, private and community organizations.Health campaign should be community-centered campaign, in order for the public to be aware of, interested in, and consciously driven, to have appropriate and sustainable health behaviour changes.