บทคัดย่อ
โครงการศึกษาวิจัย “การศึกษาสรุปบทเรียนและติดตามผลการพัฒนาระบบการถ่ายโอนสถานีอนามัยไปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : กรณีศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่ อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี” นี้ ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 ถึง ตุลาคม 2551 มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเก็บรับบทเรียนกระบวนการดำเนินการถ่ายโอนฯ เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ มาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงงานของสถานีอนามัยที่ได้ดำเนินการถ่ายโอนไปแล้วและที่ยังไมได้ดำเนินการ
การวิจัยในส่วนของรายงานนี้ เป็นการนำเสนอประสบการณ์จากพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลนาพู่ อ. เพ็ญ จ. อุดรธานี วิธีการศึกษาวิจัยใช้การศึกษาภาคสนามโดยเก็บข้อมูลวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณจากพื้นที่
ผลของการศึกษาวิจัย พบว่า ภาพรวมของบริบทชุมชนนี้ มีลักษณะเป็นสังคมชาวนาที่คนส่วนใหญ่ทำนา และประกอบอาชีพรองด้วยการรับจ้างนอกหมู่บ้าน ยามเจ็บไข้ได้ป่วยเล็ก ๆ น้อย ก็อาศัยสถานีอนามัยในพื้นที่ซึ่งมีอยู่ 2 สถานี และถ้าจำเป็นก็สามารถที่จะเข้าไปรักษาตัวในโรง พยาบาลจังหวัดได้ไม่ยากนัก เพราะระยะทางห่างจากจังหวัดประมาณ 30 กิโลเมตรโดยประมาณ
ในส่วนของการถ่ายโอนฯ มีเพียงสถานีอนามัยเดียวที่สมัครใจ แต่อีกสถานีอนามัยหนึ่ง ยังไม่ตัดสินใจร่วมในขณะนี้ เพราะเกรงว่างานดูแลด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนที่ทำมาได้ดีจะมีปัญหาอุปสรรค เนื่องจากหัวหน้าสถานีอนามัยยังไม่มีความเชื่อมั่นการบริหารงานของอบต. ว่าจะสามารถดูแลชาวบ้านได้เต็มที่เหมือนที่ผ่านมา ส่วนสถานีอนามัยที่พร้อมและได้ดำเนินการถ่ายโอนแล้ว เนื่องจากหัวหน้าสถานีมีความคิดว่าการร่วมงานกับอบต. จะทำให้เกิดประโยชน์กับชุมชนได้เต็มที่ยิ่งขึ้น มีงบประมาณที่จะดูแลงานด้านสาธารณสุขให้ชาวบ้านและสามารถดำเนินงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยากแบบเก่า รวมทั้งบุคลากรของสถานีอนามัยก็สามารถจะขยายบทบาทและลักษณะสำคัญของการถ่ายโอนฯ ของพื้นที่นี้ ค่อนข้างจะมีลักษณะพิเศษหรือเป็นลักษณะเฉพาะของที่นี่ คือ ผู้บริหารในท้องถิ่นจากสถานีอนามัย อบต. และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอมีความเป็นหมู่พวกเดียวกัน ทำให้สามารถช่วยกันและร่วมกันทำงานรวมทั้งแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม แม้กระบวนการถ่ายโอนจะประสบผลสำเร็จ แต่ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ก็มีอยู่บ้าง ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ร่วมมือร่วมใจเดินหน้าการทำงานไปได้ดี ทาง อบต. นาพู่ก็มีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและสนับสนุนงานด้านสาธารณสุขอยู่แล้ว ประกอบกับเป็นนักบริหารที่มีประสบการณ์ทำให้สามารถดูแลและรับผิดชอบการถ่ายโอนของสถานีอนามัยมาอยู่ในการดูแลได้เรียบร้อยด้วยดี