บทคัดย่อ
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในระดับโลก ภูมิภาค และประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและสถานะสุขภาพของคน ทำให้การกำหนดนโยบายสาธารณะที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและนโยบายด้านสุขภาพเอง จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องเพื่อแก้ไขปัญหาให้ทันการณ์และมีประสิทธิภาพ กระบวนการ กลไก และหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์สุขภาพของประเทศ ยังขาดระบบที่เป็นเอกภาพและมีศักยภาพเพียงพอในการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายที่ชัดเจนแม่นยำและสามารถนำไปขับเคลื่อนได้ มีองค์กรสุขภาพที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ตามกฎหมายจำนวนมาก ได้แสดงบทบาทในการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพของประเทศผ่านกลไกต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้ขาดการเชื่อมประสาน จนหลายครั้งเกิดการโต้แย้งและดำเนินการที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขแม้จะเป็นกระทรวงหลักที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาสุขภาพของประเทศ(Health Authority) และเป็นเจ้าของระบบบริการสุขภาพรายใหญ่ที่สุด กลับมีบทบาทลดลงและหลายกรณีไม่ได้แสดงบทบาทที่ชัดเจน และแม้แต่ภายในกระทรวงเองก็ไม่สามารถสร้างระบบที่เป็นเอกภาพได้ในทุกเรื่อง สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์(สนย.) ที่พัฒนามาจากสำนักนโยบายและแผนสาธารณสุข(สนผ.) ซึ่งเกิดจากการรวม กองแผนงานและกองสถิติสาธารณสุขเข้าด้วยกัน มีการบริหารงานและปรับโครงสร้างภายในหลายครั้ง ก็ไม่อาจทำหน้าที่เป็นหน่วยงานที่กำหนดยุทธศาสตร์หลักของกระทรวง และของประเทศได้อย่างสมบูรณ์ การวิเคราะห์ทบทวนบทบาทและปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงพัฒนาโครงสร้าง โดยการตั้งสำนัก(งาน)บริหารยุทธศาสตร์(OSM)ขึ้น เพื่อทำหน้าที่เชื่อมประสานและวางยุทธศาสตร์หลักด้านสุขภาพของประเทศ รวมถึงการบริหารจัดการระดับยุทธศาสตร์ที่จำเป็น โดยอาจตั้งขึ้นเป็นเอกเทศแล้วทำงานโดยการสนับสนุนของสำนักโยบายและยุทธศาสตร์เดิม ซึ่งก็ต้องปรับปรุงบทบาทและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรภายในสำนัก หรือยกระดับสำนักโยบายและยุทธศาสตร์ ให้มีการดำเนินการลักษณะของสำนัก(งาน)บริหารยุทธศาสตร์(OSM)ด้วย นอกจากการจัดวางโครงสร้างไม่ว่าจะเลือกทางที่ ๑ หรือ ๒ การพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อให้มีขีดสมรรถนะในการทำงานตามบทบาทใหม่ให้ประสบผลสำเร็จก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน การปรับโครงสร้างดังกล่าวต้องอาศัยความกล้าหาญของผู้บริหารที่จะดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาระยะยาวอย่างเป็นระบบ ทำให้กระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบายและวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาสุขภาพของประชาชนไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ