• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การจัดการทางการแพทย์ในการรับมือเหตุรุนแรงจากความไม่สงบทางการเมืองในวันที่ 29 สิงหาคม และ 2 กันยายน 2551

กัมพล อำนวยพัฒนพล; อารักษ์ วิบุลผลประเสริฐ; พงศกร อธิกเศวตพฤทธิ์;
วันที่: 2551
บทคัดย่อ
ในอดีต ประเทศไทยมีเหตุภัยพิบัติเกิดขึ้นหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทาง ภัยจากน้ำมือมนุษย์ และโดยเฉพาะภัยพิบัติที่เกิดจากการเมือง (Civil disaster) ที่แม้จะเกิดขึ้นหลายครั้งแต่ก็ยังส่งผลให้ความสูญเสียมากมาย การตอบสนองทางการแพทย์ยังไม่ได้มีการวางแผน ซ้อมแผนอย่างเป็นระบบ เหตุการณ์ในวันที่ 29 สิงหาคม และ 2 กันยายน 2551 เป็นอีกเหตุการณ์ของความรุนแรงทางการเมือง ที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต การศึกษาระบบการจัดการทางการแพทย์ในทั้งสองเหตุการณ์นี้จึงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการวางแผนรับมือเหตุรุนแรงในอนาคต วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระบบการจัดการทางการแพทย์ ในเหตุการณ์วันที่ 29 และ 2 กันยายน 2551 รวมทั้งความพร้อมเของเจ้าหน้าทีเวชกิจฉุกเฉินในการออกปฏิบัติหน้าที่ แบบแผนการศึกษา การศึกษาเชิงพรรณนา (Descriptive study) และ After Action Review (AAR) ผลการศึกษา วันที่ 29 สิงหาคม 2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ป่วย รวม 63 ราย มีการกระจายของผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง มีการใช้แก๊สน้ำตาร่วมด้วย วันที่ 1 กันยายน 2551 มีการจัดประชุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการรับมือ วันที่ 2 กันยายน 2551 เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมสองฝ่าย บริเวณถนนราชดำเนินนอก มีผู้บาดเจ็บ 44 คน เสียชีวิต 1 คนมีกระจายผู้ป่วยไปยังหลายโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงมากขึ้น จากเหตุการณ์ทั้งวันที่ 29 สิงหาคม พบว่าระบบการแพทย์ฉุกเฉินในส่วนของ ระบบการสั่งการกลาง ระบบการสั่งการ ณ จุดเกิดเหตุ การประสานงาน การติดต่อสื่อสารและการเก็บบันทึกข้อมูล ยังไม่มีความชัดเจน เหตุการณ์ในวันที่ 2 กันยายน ระบบการสั่งการกลางยังไม่มีความชัดเจน แต่มีการพัฒนาองค์ประกอบอื่นๆ ทางการแพทย์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีศูนย์เอราวัณเป็นศูนย์ติดต่อและประสานงานหลัก จากแบบสอบถาม จำนวน 19 คน เจ้าหน้าที่ทุกคนทราบลักษณะของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทราบโรงพยาบาลปลายทางที่จะนำส่งผู้ป่วยได้ เจ้าหน้าที่ 6(31.6%) คน ทราบพื้นที่รับผิดชอบของตนก่อนออกปฏิบัติการ ก่อนการออกปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่มีมั่นใจในการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ในระดับมากและมากที่สุดคิดเป็น 15.8% และ 36.8% ตามลำดับ รวมทั้งมีความมั่นใจต่อหน่วยงานของตนเองว่ามีความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในระดับมากและมากที่สุด คิดเป็น 52.6% และ 15.8% ตามลำดับ ขณะออกปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ 89.4% มีการวางแผนร่วมกับหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน 63.1% มีการกำหนดผู้สั่งการ ณ จุดเกิดเหตุ และ 50% ทำการทำการคัดกรอง ณ จุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ 50% ของเจ้าหน้าที่ได้รับการปนเปื้อนจากแก๊สน้ำตาและได้รับบาดเจ็บ ภายหลังการออกปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ 18(94.7%) เข้าร่วมการประเมินผลการทำงานภายในหน่วยงานและมี 16(84.2%) คนได้เข้าร่วมการประเมินผลการทำงานระหว่างหน่วยงาน การวิเคราะห์และวิจารณ์: ระบบการจัดการทางการแพทย์ในการรับมือเหตุรุนแรงจากความไม่สงบทางการเมืองได้มีการพัฒนาในระบบการบริหารจัดการในทางที่ดีขึ้นเนื่องจากมีการเรียนรู้ สรุป และกำหนดแผนจากเหตุที่เกิดขึ้น จึงเห็นได้ว่าในครั้งต่อมาของเหตุความไม่สงบมีระบบการจัดการทางการแพทย์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆและสามารถแก้ไขปัญหาที่คาดว่าจะเกิดได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่พร้อมจะแก้ไขสถานการณ์ให้เกิดความสงบขึ้น ทั้งนี้บุคคลากรทางการแพทย์ที่หน้าที่เกี่ยวข้องก็ต้องมีความเชี่ยวชาญและหมั่นฝึกฝนทักษะในการช่วยเหลือผู้ป่วยในที่เกิดเหตุ เพื่อให้เกิดความพร้อมที่จะรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ ทั้งในด้านความรู้ ความชำนาญและสภาพจิตใจ อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการระบบการแพทย์ให้ได้ประสิทธิภาพนั้น มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องแต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ ความร่วมมือของทุกฝ่ายในการวางแผนและพร้อมที่จะแก้ไขสถานการณ์ให้เกิดความสงบ สรุป: การศึกษาการจัดการทางการแพทย์ ในการรับมือเหตุรุนแรงจากความไม่สงบทางการเมือง ในวันที่ 29 สิงหาคม 2551 พบว่าระบบบริหารจัดการทางการแพทย์ไม่มีความชัดเจน ทั้งระบบการสั่งการกลาง ระบบการสั่งการที่จุดเกิดเหตุ การคัดแยกผู้ป่วยที่จุดเกิดเหตุ ระบบการสื่อสาร ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุมีการร่วมประชุมสรุปสถานการณ์และวางแผนรับมือ ทำให้เหตุการณ์ต่อมาในวันที่ 2 กันยายน 2551 ระบบบริหารจัดการทางการแพทย์ดีขึ้น มีการทำงานอย่างเป็นระบบและเป็นรูปแบบที่ชัดเจนมากขึ้น การกระจายตัวของผู้ป่วยดีขึ้น ในส่วนเจ้าหน้าที่เวชกิจฉุกเฉิน พบว่าส่วนมากมีความมั่นใจในการการปฏิบัติงาน มีการวางแผนและคัดกรองผู้ป่วยในที่เกิดเหตุก่อนนำส่งโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุมีการสรุปประเมินการทำงานทั้งในและระหว่างองค์กร
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs1869.pdf
ขนาด: 740.6Kb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 1
ปีพุทธศักราชนี้: 1
รวมทั้งหมด: 46
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV