dc.contributor.author | เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ | en_US |
dc.contributor.author | Deunden Nikomborirak | th_TH |
dc.date.accessioned | 2015-10-16T08:58:29Z | |
dc.date.available | 2015-10-16T08:58:29Z | |
dc.date.issued | 2558-09 | |
dc.identifier.isbn | 9789742992231 | |
dc.identifier.other | hs2206 | |
dc.identifier.uri | http://hdl.handle.net/11228/4328 | |
dc.description.abstract | การบริหารจัดการระบบประกันสุขภาพของประเทศไทยเป็นปัญหาที่ท้าทายรัฐบาลทุกสมัย เนื่องจากประเทศไทยมีกองทุนประกันสุขภาพที่หลากหลาย เช่น กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว การประกันสุขภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ ที่บริหารจัดการกองทุนรักษาพยาบาลเอง เป็นต้น โดยแต่ละกองทุนมีการบริหารจัดการแบบแยกส่วน ทำให้เกิดปัญหาความลักลั่นของสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนที่เป็นสมาชิกของแต่ละกองทุน รวมทั้งปัญหาของการขาดระบบหรือมาตรฐานกลางในการบริหารจัดการ เช่น การบริหารฐานข้อมูลผู้ป่วย วิธีการและขั้นตอนในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล การตรวจสอบการเบิกจ่าย และคุณภาพของการรักษาพยาบาล ฯลฯ ทำให้มีต้นทุนในการดำเนินการที่สูงเกินควร รัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมามีความพยายามที่จะให้การบริหารจัดการระบบประกันสุขภาพของประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของ 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงสาธารณสุข เป็นไปอย่างบูรณาการ หากแต่รูปแบบที่ใช้ในดำเนินการล้วนใช้วิธีการ จัดตั้ง “คณะกรรมการเฉพาะกิจ” จากมติคณะรัฐมนตรี ตัวอย่างเช่น สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพแห่งชาติ (คพคส.) ซึ่งมีภารกิจในการออกแบบการบริหารจัดการระบบประกันสุขภาพที่บูรณาการทั้ง 3 กองทุน แต่ต่อมารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ยกเลิกคณะกรรมการ คพคส. ดังกล่าว และแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่ายค่าวินิจฉัยและค่าบริการทางการแพทย์ขึ้นมาแทน โดยคณะกรรมการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักในการควบคุมค่าใช้จ่ายของระบบประกันสุขภาพของประเทศ โดยเฉพาะค่ายา การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและวิธีการบริหารจัดการระบบประกันสุขภาพสาธารณสุขของประเทศที่ผันแปรไปตามทิศทางของการเมือง ทำให้เกิดคำถามว่าโครงสร้างองค์กรกลไกที่แต่ละรัฐบาลตั้งขึ้นมานั้นมีประสิทธิภาพในการบรรลุเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด และโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมคืออะไร การศึกษาชิ้นนี้ได้วิเคราะห์โครงสร้างภารกิจและวิธีการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งผลงานของคณะกรรมการทั้ง 2 คณะที่กล่าวมา ได้เล็งเห็นความเหมือน ความต่าง จุดแข็ง จุดอ่อน และโอกาส ในการพัฒนาในมิติต่างๆ จนกระทั่งได้จัดทำข้อเสนอแนะสำหรับการจัดโครงสร้างกลไกการพัฒนาระบบประกันสุขภาพแห่งชาติในอนาคต | th_TH |
dc.description.sponsorship | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | th_TH |
dc.language.iso | th | th_TH |
dc.publisher | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | th_TH |
dc.rights | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | th_TH |
dc.subject | Insurance, Health | en_US |
dc.subject | ประกันสุขภาพ | th_TH |
dc.subject | บริการทางการแพทย์ | th_TH |
dc.subject | ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) | th_TH |
dc.title | ความพยายามและความสำเร็จของคณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่ายค่าตรวจวินิจฉัยและค่าบริการทางการแพทย์ | th_TH |
dc.type | Technical Report | en_US |
dc.identifier.callno | W160 ด933ค 2558 | th_TH |
dc.identifier.contactno | 58-042 | th_TH |
.custom.citation | เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ and Deunden Nikomborirak. "ความพยายามและความสำเร็จของคณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่ายค่าตรวจวินิจฉัยและค่าบริการทางการแพทย์." 2558. <a href="http://hdl.handle.net/11228/4328">http://hdl.handle.net/11228/4328</a>. | |
.custom.total_download | 150 | |
.custom.downloaded_today | 0 | |
.custom.downloaded_this_month | 0 | |
.custom.downloaded_this_year | 4 | |
.custom.downloaded_fiscal_year | 0 | |