• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

ไท้เก๊กเพื่อการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเรื้อรัง

มงคล ศริวัฒน์; สุธีร์ รัตนะมงคลกุล; พิมลพร เชาวน์ไวพจน์; จิรวรรณ ตั้งจิตเมธี; ศุภลักษณ์ เข็มทอง; กิติ ยิ่งยงใจสุข;
วันที่: 2558-12
บทคัดย่อ
โรคหลอดเลือดสมองเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเรื้อรังต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ การ ฟื้นฟูผู้ป่วยให้กลับมามีชีวิตเป็นปกติสุขโดยเร็วเป็นเป้าหมายสำคัญของการรักษาโรค ซึ่งนอกจากจะได้ศักยภาพของบุคคลคืนกลับมาแล้วยังช่วยรักษาคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อีกด้วย การฝึกไท้เก๊กตามรูปแบบที่นำเสนอในโครงการเป็นวิธีการหนึ่งที่เชื่อว่าสามารถทำให้สมองกลับมาทำงานได้อีกครั้งตามหลักการยืดหยุ่นของสมอง ซึ่งผู้วิจัยหัวหน้าโครงการเองมีประสบการณ์สอนไท้เก๊กมาเป็นเวลานานและมีประสบการณ์ฝึกให้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ และรายงานการศึกษาที่ผ่านมายังขาดการวิจัยแบบทดลองที่เป็น randomised controlled trial เพื่อสนับสนุนผลของการฝึกไท้เก๊กตามรูปแบบที่นำเสนอในโครงการต่อการบำบัดโรคหลอดเลือดสมอง คณะผู้วิจัยจึงจัดทำโครงการวิจัยเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการบริหารลมหายใจประกอบการใช้จิตภาพในการเคลื่อนไหวร่างกายตามแบบไท้เก๊กในการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีอาการอัมพฤกษ์อัมพาต งานวิจัยครั้งนี้จะเป็นการค้นหาแนวทางการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่แตกต่างไปจากที่มีอยู่เดิม เป็นแนวทางบำบัดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาหรือเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ ไม่จำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพียงแต่มีบุคคลที่พอจะถ่ายทอดวิธีฝึกปฏิบัติที่เหมาะสม แล้วส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของผู้ป่วยที่ทุ่มเทให้กับตนเอง การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ทั่วไปเพื่อสร้างนวัตกรรมต้นแบบการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือด สมองแบบมีส่วนร่วมโดยใช้การเคลื่อนไหวผสานลมหายใจแบบไท้เก๊กในชุมชนและมีวัตถุประสงค์เฉพาะคือ 1) เพื่อประยุกต์การเคลื่อนไหวผสานลมหายใจแบบไท้เก๊กในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 2) เพื่อศึกษา ประสิทธิผลของการเคลื่อนไหวผสานลมหายใจแบบไท้เก๊กในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 3) เพื่อศึกษาผลของการประยุกต์การเคลื่อนไหวผสานลมหายใจแบบไท้เก๊กที่มีต่อคุณภาพชีวิตและการเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตนเอง และ 4) เพื่อพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ด้วยการเคลื่อนไหวที่ประสานกับลมหายใจแบบไท้เก๊ก ในการดูแลผู้ป่วยระดับปฐมภูมิ การวิจัยนี้อาศัยรูปแบบการวิจัยเป็นทั้งการวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มเปรียบเทียบ randomised controlled clinical trial โดยประกอบด้วยระยะต่างๆ ดังนี้คือ ระยะที่ 1 พัฒนาหลักสูตรการ อบรมฯ การทดสอบนำไปใช้ และคัดเลือกโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการผ่านโรงพยาบาลของรัฐ สำรวจความ สนใจของผู้บริหารโรงพยาบาล ความพร้อมของโรงพยาบาล ความเหมาะสมของบุคลากรที่ได้รับการมอบหมายเข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 2 อบรมทีมผู้บำบัด TSPR (Tai-chi for Chronic Stroke Patient Rehabilitation) เก็บข้อมูล คัดเลือกผู้ป่วยฯ และการประเมินผู้ป่วยเพื่อเข้าโครงการ ระยะที่ 3 ระยะบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยในชุมชน การประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของทีม TSPR การเก็บข้อมูล และการประเมินผู้ป่วย และ ระยะที่ 4 การ วิเคราะห์และสรุปผลการวิจัยทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยมีประชากรเป้าหมายแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. บุคลากรที่ให้บริการด้านการบำบัดรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลของรัฐ รวมทั้งหมด 32 คน และ 2. ผู้ป่วยโรค หลอดเลือดในสมองที่ได้รับการบำบัดฟื้นฟูโดยโรงพยาบาลของรัฐรวมทั้งสิ้น 80 คน สุ่มเข้ารับการบำบัดแบบไม่เจาะจง (Randomization) สรุปผลการศึกษา การบำบัดผู้ป่วยไท้เก๊กด้วยผู้บำบัดจากโรงพยาบาลที่ผ่านการฝึกฝนวิชาไท้เก๊กผ่านการ เยี่ยมบ้านบ้านทุก 1 สัปดาห์รวม 9 ครั้ง แล้วตามด้วยเยี่ยมบ้านทุก 2 สัปดาห์ รวม 5 ครั้ง และทุก 1 เดือน รวม 5 ครั้ง ไม่พบความแตกต่างจากกลุ่มควบคุม แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวิเคราะห์เฉพาะกลุ่มย่อยพบว่า ผู้บำบัดด้วยศาสตร์ไท้เก๊กที่มีทักษะและศักยภาพสูงมีผลต่อการได้ผลลัพธ์ที่ดีในด้านความผาสุกทางสังคม (Social wellbeing วัดโดยเครื่องมือ FACIT) และความผาสุกทางการปฏิบัติหน้าที่การงาน (Functional well-being วัดโดยเครื่องมือ FACIT) และคุณภาพชีวิต (วัดด้วยเครื่องมือ EQ-5D) ความเข้มข้นของการฝึกและเวลาโดยผู้ป่วยเองส่งผลดีต่อผลลัพธ์ด้านคุณภาพชีวิต (EQ-5D) ผู้ป่วยที่มีศักยภาพในการออกแบบท่าฝึกในการออกกำลังกายของตนเองส่งผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในด้านของความผาสุกทางกายภาพ (Physical well-being วัดโดยเครื่องมือ FACIT)และความผาสุกทางการปฏิบัติหน้าที่การงาน (Functional well-being และคุณภาพชีวิต (EQ-5D) สำหรับการพัฒนาการของผู้ป่วยพบว่าผู้ป่วยเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในด้านการเคลื่อนไหว สภาพจิตใจ การใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการเข้าสู่สังคมที่อยู่ได้ดีขึ้น นอกจากนี้โครงการวิจัยยังได้นำไปสู่การจัดตั้งศูนย์การแพทย์ไท้เก๊ก (Tai-Chi Medical Center) ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชมีการดำเนินงานด้วย 3 แผนงานคือ 1. แผนงานบริการรักษาและส่งเสริมสุขภาพด้วยไท้เก๊ก (Tai-Chi Services Center) ประกอบด้วยคลินิกบริการที่จัดทำขึ้นมาเพื่อเป็นที่รักษาและรับคำปรึกษาจากแผนกต่างๆ การใช้ไท้เก๊กเพื่อการรักษาในบริการตามแผนกต่างๆ ที่บุคลากรในแผนกต่างๆ การใช้ไท้เก๊กเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพแก่ประชาชนในชุมชน/ข้าราชการ /ชมรมผู้สูงอายุ/อสม./สถานประกอบการ และการใช้ไท้เก๊กเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพแก่บุคลากรในโรงพยาบาล/จนท. รพ.สต. 2. แผนงานฝึกอบรมไท้เก๊ก (Tai-Chi Training Center) แผนงานนี้ใช้หลักการฝึกแบบ Team-based learning เกิดเป็น CoPs (Community of Practices) ชุมชนนักปฏิบัติ โดยกระบวนการ KM ประกอบด้วย การฝึกอบรมเพื่อการรักษาพยาบาลแก่เจ้าหน้าที่และบุคลากร / ประชาชนและผู้สนใจ เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ และ แผนงานวิจัยไท้เก๊ก (Tai-Chi Research Center) เพื่อการวิจัยเพื่อการพัฒนาระบบการรักษาด้วยไท้เก๊กในโรงพยาบาลระดับ รพ.ทั่วไป การรับรู้ต่อการรักษาด้วยไท้เก๊กในบุคลากร ในผู้ป่วย และประชาชนทั่วไปเช่นผู้สูงอายุ รวมถึงการวิจัยเพื่อการสร้างเครื่องมือเพื่อการรักษาที่เป็นนวัตกรรม โดยสรุปแม้ว่าผลการศึกษาเพื่อวัดผลลัพธ์ในเชิงปริมาณไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่เหนือกว่าการเยี่ยมบ้านตามปกติได้ แต่ในการศึกษากลุ่มย่อยพบว่าการฝึกไท้เก๊กช่วยพัฒนาผู้ป่วยให้ดีขึ้นในเงื่อนไขของการมีผู้บำบัดด้วยศาสตร์ไท้เก๊กที่มีทักษะและศักยภาพสูง ความเข้มข้นของการฝึกที่มากและมีเวลาฝึกที่เพียงพอ รวมถึงศักยภาพของผู้ป่วยในการออกแบบท่าฝึกในการออกกำลังกายของตนเอง และข้อมูลเชิงคุณภาพพบว่าผู้ป่วยรายต่างๆ เห็นคุณค่าของตนเองมากขึ้นมีคุณภาพชีวิตทั้งในด้านการเคลื่อนไหว การใช้ชีวิตประจำวัน ด้านจิตใจ และการเข้าสังคม เป็นต้น ซึ่งผลจากการดำเนินงานในโรงพยาบาลขนาดใหญ่มีบุคลากรที่ให้ความสนใจเป็นทีม ทำให้เกิดศูนย์การแพทย์ไท้เก๊กที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชมีการดำเนินงานด้านการบริการรักษาและส่งเสริมสุขภาพด้วยไท้เก๊ก มีการจัดฝึกอบรมไท้เก๊ก รวมถึงแผนงานการวิจัยเพื่อการพัฒนาระบบการรักษาด้วยศาสตร์ไท้เก๊ก
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2256.pdf
ขนาด: 2.100Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 9
ปีพุทธศักราชนี้: 4
รวมทั้งหมด: 383
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV