• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การตอบสนองภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบ บี หัด หัดเยอรมัน คางทูม จากการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบ บี เมื่อแรกเกิด และวัคซีนรวม DTPa-HB-HIb-IPV หรือ DTPw-HB-Hib+OPV ที่ 2, 4, 6 และ 18 เดือน และ MMR ที่ 9 และ 30 เดือน และระบาดวิทยาภูมิคุ้มกันของโรคหัด หัดเยอรมัน คางทูม ในประชากรไทย สำหรับการวางแผนหลังจากมีการกวาดล้างโปลิโอ

ยง ภู่วรวรรณ; Yong Poovorawan; ณศมน วรรณลภากร; Nasamon Wanlapakorn; รุจิพัชร์ วสิษฐ์ธัญเกษม; Rujipat Wasitthankasem; นวรัตน์ โพธิ์สุวรรณ; Nawarat Posuwan; สมพงษ์ วงษ์พันสวัสดิ์; Sompong Vongpunsawad; ภรจริม นิลยนิมิต; Pornjarim Nilyanimit; จิรัชญา พื้นผา; Jiratchaya Puenpa; Hosie, Margaret; Leuridan, Elke; Damme, Pierre Van;
วันที่: 2563
บทคัดย่อ
ประเทศไทยมีแผนการปรับเปลี่ยนการใช้วัคซีนในแผนการให้วัคซีนแห่งชาติในทารก โดยเปลี่ยนวัคซีนรวมชนิด 4 โรค เพิ่มเป็นวัคซีน 5 โรค คือ คอตีบ ไอกรน ทั้งเซลล์บาดทะยัก ตับอักเสบ บี และ วัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบ Hib จากแผนการให้วัคซีนดังกล่าว ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาของไวรัสตับอักเสบ บี ในส่วนผสมของวัคซีนรวม 5 โรค ดังกล่าว คณะผู้วิจัยจึงศึกษาผลของการให้วัคซีน โดยการศึกษานี้จึงแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1) การศึกษาภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบ บี ในส่วนผสมของวัคซีนรวม 5 โรค 2) การศึกษาความชุกของภูมิต้านทานต่อโรคหัดในประชากรไทยของการให้วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน และคางทูม ที่ให้กับทารกที่อายุ 9 เดือนและ 2 ขวบครึ่ง และ 3) การศึกษาความชุกของภูมิคุ้มกันต่อโรคหัดในประชากรไทยที่มีอายุเกิน 30 ปี ดังนั้น ผลของการศึกษาการให้วัคซีนรวมชนิด 5 โรคในประเทศไทย ทารกควรได้รับวัคซีนที่ 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือนและควรกระตุ้นด้วยวัคซีนดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง ที่อายุ 18 เดือน ส่วนภูมิคุ้มกันโรคหัดในประชากรไทยในผู้ที่มีอายุเกิน 30 ปี ส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันป้องกันโรคหัดแล้ว ความชุกในกลุ่มที่อายุน้อยกว่า 30 ปี ยังอยู่ต่ำกว่าภูมิคุ้มกันกลุ่ม herd immunity ดังนั้น ประชากรกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี ควรได้รับวัคซีนกระตุ้นอีก 1 ครั้ง และการให้วัคซีนป้องกันหัด หัดเยอรมัน และคางทูม ในประเทศไทยที่อายุ 9 เดือนและ 2 ขวบครึ่ง ผลการกระตุ้นภูมิต้านทานได้ดี และน่าจะเหมาะสมแล้ว
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2530.pdf
ขนาด: 2.881Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 4
ปีพุทธศักราชนี้: 2
รวมทั้งหมด: 65
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV