• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การพัฒนาระบบการดูแลเด็กปากแหว่งเพดานโหว่และเด็กพิเศษแบบองค์รวมไร้รอยต่อ: ระยะที่ 2

เพ็ญแข ลาภยิ่ง; Phenkhae Lapying;
วันที่: 2564
บทคัดย่อ
เด็กปากแหว่งเพดานโหว่ต้องการความดูแลจากผู้ปกครองและบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขมากกว่าเด็กทั่วไปตั้งแต่เกิด เนื่องจากความผิดปกติของริมฝีปาก จมูก กระดูกขากรรไกร สันเหงือกและฟัน ปัญหาที่พบขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแยก ได้แก่ 1) ดูดกลืนน้ำนมลำบากทำให้ได้สารอาหารไม่เพียงพอกับการเจริญเติบโตและได้รับการผ่าตัดล่าช้า 2) ขากรรไกรและฟันไม่ปกติทำให้มีปัญหาการบดเคี้ยวและรูปหน้าผิดปกติ 3) การออกเสียงผิดปกติ พัฒนาการทางภาษาและการพูดล่าช้า 4) เป็นหูน้ำหนวกง่าย ทำให้การได้ยินบกพร่อง 5) ใบหน้าไม่ปกติ มีปัญหาการเข้าสังคมและบุคลิกภาพ ปัญหาสำคัญที่สุดของผู้ป่วยทารกแรกเกิด คือ การดูดนม เมื่ออายุ 6 เดือน ฟันน้ำนมเริ่มขึ้น สุขภาพช่องปากเข้ามามีส่วนสำคัญ ผลลัพธ์ของการผ่าตัดรักษาจนฟันถาวรซี่แรกเริ่มขึ้นเมื่ออายุ 5-7 ปี และขึ้นครบ 28 ซี่ เมื่ออายุ 12-13 ปี ผู้ป่วยอาจมีจำนวนและรูปร่างฟันผิดปกติจึงต้องมีการเตรียมกระดูกขากรรไกรและโครงสร้างอื่นที่เกี่ยวข้องควบคู่กับการประเมินพัฒนาการของแนวโค้งกระดูกขากรรไกรบนและรูปหน้าตั้งแต่ปฐมวัย การจัดฟันด้วยเครื่องมือติดแน่นมักเริ่มเมื่อผู้ป่วยมีฟันถาวรขึ้นเกือบครบและอาจรักษาต่อเนื่องจนถึงอายุ 18-20 ปี ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาจากสหวิชาชีพตามลำดับของแผนการรักษาจึงจะรับการรักษาขั้นตอนต่อไปได้ เมื่อรับการรักษาความบกพร่องครบถ้วนและการผิดปกติของอวัยวะต่างๆ กลับมาเป็นปกติ ผู้ป่วยจะมีรูปร่างใบหน้าและเสียงพูดเหมือนคนทั่วไป ซึ่งการรักษาอย่างต่อเนื่องอาจใช้ระยะเวลาถึง 20 ปี ซึ่งศูนย์ปากแหว่งเพดานโหว่ที่ไกลบ้านทำให้มีความลำบากในการพาเด็กไปรักษาต่อเนื่อง ขณะที่การคลอดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทำให้หน่วยบริการปฐมภูมิไม่มีบทบาทในการดูแลผู้ป่วยทารกมาตั้งแต่แรกและขาดความมั่นใจในการดูแล ซึ่งเป็นช่องว่างของการดูแลสุขภาพเด็กแบบองค์รวม โครงการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยเด็กกลุ่มนี้ต้องการปิดช่องว่างดังกล่าว โครงการวิจัยนี้แบ่งเป็น 3 ระยะ ซึ่งระยะที่ 2 นี้ เป็นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้วยการประชุมเชิงปฏิบัติการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผ่านการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการจัดกลุ่มและวิเคราะห์เนื้อหาร่วมกับการตรวจสอบกับบุคคลและเอกสารที่มีการเผยแพร่อย่างเป็นทางการ ส่งสรุปผลที่ได้จากการประชุมผ่านกลุ่มไลน์เพื่อให้ผู้ร่วมประชุมพิจารณาทบทวนตรวจสอบและแจ้งปรับแก้ข้อความให้ตรงกับความหมายที่ต้องการสื่อ สำหรับข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ด้วยสถิติพรรณนา (ความถี่และร้อยละ) ดำเนินงานระหว่างเดือนธันวาคม 2562 ถึง กันยายน 2563 รวม 10 เดือน และขอขยายเวลาถึงเดือนธันวาคม 2563 เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ในโครงการนี้หมายถึง ปากแหว่งและหรือเพดานโหว่ที่ไม่มีกลุ่มอาการอื่นร่วมด้วย (non syndromic orofacial cleft) จากประสบการณ์การดำเนินงานจังหวัดที่มีศูนย์ปากแหว่งเพดานโหว่ของคณะแพทยศาสตร์และจังหวัดอื่นๆ การลดรอยต่อในระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการเชิงนโยบายและเชิงระบบในระดับจังหวัดร่วมกับระบบข้อมูลสารสนเทศกลาง สำหรับการสื่อสารและติดตามผู้ป่วยร่วมกัน ระหว่างหน่วยบริการที่อยู่ต่างสังกัด ด้านศักยภาพของหน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจำเป็นต้องมีแผนพัฒนาบุคลากรสอดคล้องกับแผนพัฒนาศักยภาพหน่วยบริการและการจัดสรรทรัพยากร ร่วมกับผู้จัดการรายกรณีซึ่งควรต้องมีแนวทางการทำงานที่ชัดเจนเนื่องจากลักษณะของผู้ป่วยและแนวทางการรักษา ประเด็นที่กล่าวมาจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากเขตสุขภาพในด้านนโยบายและการบริหารจัดการ ในระดับประเทศควรมีระบบการลงทะเบียนผู้ป่วยพลเมืองไทยครอบคลุมทุกสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาล ทั้งนี้เพื่อการพัฒนาระบบการดูแลเด็กปากแหว่งเพดานโหว่และเด็กพิเศษแบบองค์รวมไร้รอยต่อให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2648.pdf
ขนาด: 5.465Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 5
ปีพุทธศักราชนี้: 4
รวมทั้งหมด: 66
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV