• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การพัฒนาประสิทธิภาพทางการคลังที่ยั่งยืนสำหรับระบบหลักประกันสุขภาพ และแบบจำลองการจัดสรรทรัพยากรกำลังคนด้านสุขภาพ

ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย; Theepakorn Jithitikulchai;
วันที่: 2564-06
บทคัดย่อ
โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1) พื้นที่การคลังสาธารณสุข: ประมาณการช่องว่างในการกำหนดงบประมาณ (Fiscal Space) ของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและระบบสาธารณสุข และ 2) การจัดสรรบุคลากร: ศึกษาช่องว่างอุปสงค์-อุปทานของบุคลากรทางการแพทย์เชิงพื้นที่และพัฒนาแบบจำลองในการจัดสรรทรัพยากรบุคคล เพื่อลดปัญหาความขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ผลการวิจัยเรื่องพื้นที่การคลัง หรือ ช่องว่างในการกำหนดงบประมาณ (Fiscal Space) ของค่าใช้จ่ายสุขภาพประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณจากภาครัฐ โดยเน้นระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (Universal Coverage Scheme (UCS)) เพื่อประเมินตัวชี้วัดตามกรอบ Sustainability, Adequacy, Fairness and Efficiency (SAFE) พบว่า ความยั่งยืนและความเพียงพอเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับประเทศไทยในอีกอย่างน้อย 10 ข้างหน้า ซึ่งงานวิจัยนี้ได้วิเคราะห์เชิงปริมาณสำหรับความเป็นไปได้ของ 3 รูปแบบ แนวทางบูรณาการ 3 กองทุนหลัก โดยสามารถลดงบประมาณรัฐและค่าใช้จ่ายสุขภาพรวม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการคลัง ทั้งนี้ การวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์การเมือง (political economy analysis) พบว่า มีความเป็นไปได้ที่จะหาแหล่งรายได้ เช่น การเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อนำมาใช้ทางด้านสวัสดิการ (earmarked VAT) และ การปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการผลักดันทางการเมือง จึงจะเกิดขึ้นเป็นจริงได้ ผลการวิจัยเรื่องการจัดเครือข่ายสุขภาพเชิงพื้นที่ โดยศึกษาการจัดสรรทรัพยากรกำลังคนสุขภาพของโรงพยาบาล สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ภายในเขตพื้นที่เดียวกัน รวมทั้งวิเคราะห์การจัดสรรในรูปแบบ Public-Private Partnership พบว่า การจัดเครือข่ายระดับบริการใกล้เคียงกัน เช่น รวมระดับปฐมภูมิ ระดับทุติยภูมิระดับต้นและระดับกลาง จะสามารถช่วยลดการขาดแคลนกำลังคนสุขภาพได้ นอกจากนี้ การจัดสรรบุคลากรโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิและระดับตติยภูมิสังกัด สป.สธ. ร่วมกับโรงพยาบาลเอกชน ภายในจังหวัดเดียวกัน จะลดภาระงานเฉลี่ยต่อหัวของโรงพยาบาลสังกัด สป.สธ. เพียงเล็กน้อยเมื่อพิจารณาในระดับประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณารายจังหวัด จะลดภาระงานเฉลี่ยต่อหัวลงได้ประมาณร้อยละ 10 หรือมากกว่า สำหรับหลายจังหวัดใหญ่

บทคัดย่อ
Objectives of this study are to (1) estimate fiscal space for universal health coverage (UHC) in Thailand, and (2) investigate the demand-supply gaps in health workers and develop microsimulation models to examine how to improve the allocation of health workers in the same areas. The study on health fiscal space found that the public budget for the Universal Coverage Scheme (UCS), when compared with the national goals of Sustainability, Adequacy, Fairness, and Efficiency (SAFE), tends to be neither sustainable nor adequate in the next ten years. This study also conducted quantitative analysis on three options to integrate the three schemes of UHC, which could reduce public budgets and improving fiscal efficiency. In addition, the political economy analysis indicates that there are possibilities to expand sources of funds such as earmarked VAT and tax reform for universal social welfare. The political movement is necessary to actualize the revenue and budget expansion. The study of area-based network allocation focuses on the hospitals under the Office of Permanent Secretary of the Ministry of Public Health and extends to the public-private partnership analysis. The basic results show that healthcare networking combined the primary hospitals and the first--secondary and middle-secondary hospitals within each district could alleviate workforce shortage. Furthermore, the provincial networking of the secondary and tertiary hospitals with the private hospitals which provide inpatient service could not significantly reduce workload per worker at the national average. However, when considered by province, the public-private partnership could reduce workload per worker by 10% or more in major provinces.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2671.pdf
ขนาด: 5.216Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 17
ปีพุทธศักราชนี้: 7
รวมทั้งหมด: 331
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย

ชิ้นงานที่เกี่ยวข้อง

แสดงชิ้นที่เกี่ยวข้องโดย ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง ผู้สร้าง และหัวเรื่อง

  • การประเมินศักยภาพของระบบสุขภาพในความพร้อมรับมือการระบาดโรค COVID-19 ในพื้นที่ชายแดน จังหวัดเชียงราย 

    อนุสรณ์ อุดปล้อง; Anusorn Udplong; ธวัชชัย อภิเดชกุล; Tawatchai Apidechkul; ฟาติมา ยีหมาด; Fartima Yeemard (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2565-10)
    การวิจัยแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินศักยภาพของบุคลากรและระบบสุขภาพในการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรค COVID-19 ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่อำเภอชายแดนจังหวัดเชียงราย คือ ...
  • ประชุมวิชาการระดับนานาชาติ สมาคมนักระบาดวิทยาภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านสาธารณสุขและการพัฒนาที่ยั่งยืน 

    ธวัชชัย อภิเดชกุล; Tawatchai Apidechkul (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2565-11)
    การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ สมาคมรักระบาดวิทยาภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านสาธารณสุขและการพัฒนาที่ยั่งยืน (The 14th SEA Regional Scientific Meeting of the International Epidemiological Association and International ...
  • ผลของการจัดสรรกำลังคนสุขภาพในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขระดับพื้นที่ต่อการให้บริการโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงและผลลัพธ์ทางสุขภาพของประชาชนใน 4 จังหวัด 

    วศิน เลาหวินิจ; Wasin Laohavinij; วิไลลักษณ์ เรืองรัตนตรัย; Wilailuk Ruangrattanatrai; ปุณณิภา คงสืบ; Punnipa Kongsueb; เชาวรินทร์ คำหา; Chaowarin Khamha (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2565-08)
    งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาระบบการจัดบริการรักษา สร้างเสริมและป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 2. ศึกษาการบริหารจัดการกำลังคนสุขภาพสำหรับการให้บริก ...

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV