แสดงรายการชิ้นงานแบบง่าย

การศึกษาประสิทธิภาพของยาไอเวอร์เมคตินเปรียบเทียบกับยาไฮด้อกซี่คลอโรควินร่วมกับดารุนาเวียร์/ริโตนาเวียร์ในการลดระยะเวลาการตรวจพบเชื้อ SAR-CoV2 จากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ไม่แสดงอาการ

dc.contributor.authorยุพิน ศุพุทธมงคลth_TH
dc.contributor.authorYupin Suputtamongkolth_TH
dc.contributor.authorรุจิภาส สิริจตุภัทรth_TH
dc.contributor.authorRujipas Sirijatuphatth_TH
dc.contributor.authorสุสัณห์ อาศนะเสนth_TH
dc.contributor.authorSusan Assanasenth_TH
dc.contributor.authorเมธี ชยะกุลคีรีth_TH
dc.contributor.authorMethee Chayakulkeereeth_TH
dc.contributor.authorณสิกาญจน์ อังคเศกวินัยth_TH
dc.contributor.authorNasikarn Angkasekwinaith_TH
dc.contributor.authorเสาวลักษณ์ ศิลปสาครth_TH
dc.contributor.authorSaowaluk Silpasakornth_TH
dc.contributor.authorเอกรัฐ วงศ์สวัสดิ์th_TH
dc.contributor.authorEkkarat Wongsawatth_TH
dc.contributor.authorเดชาธร รัศมีกุลธนาth_TH
dc.contributor.authorDechatorn Rassamekulthanath_TH
dc.contributor.authorณัฐวุฒิ รุ่งเกียรติ์เตชากรth_TH
dc.contributor.authorNuttawut Rongkiettechakornth_TH
dc.contributor.authorเอนก มุ่งอ้อมกลางth_TH
dc.contributor.authorAnek Mungaomklangth_TH
dc.contributor.authorสิรีธร นิมิตวิไลth_TH
dc.contributor.authorSireethorn Nimitvilaith_TH
dc.contributor.authorอุษณีย์ พูลวิวัฒน์ชัยการth_TH
dc.contributor.authorUssanee Poolvivatchaikarnth_TH
dc.date.accessioned2021-10-08T03:05:46Z
dc.date.available2021-10-08T03:05:46Z
dc.date.issued2564
dc.identifier.otherhs2711
dc.identifier.urihttp://hdl.handle.net/11228/5421
dc.description.abstractการวิจัยแบบสุ่ม ไม่ปกปิด ในผู้ติดเชื้อ SARS-CoV-2 ซึ่งไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของยาไอเวอร์เมคตินขนาดสูง (600 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม) วันละครั้งนาน 3 วัน (กลุ่ม A) จำนวน 57 ราย กับยาไฮด้อกซี่คลอโรควินและยาดารุนาเวียร์/ริโตนาเวียร์ (กลุ่ม B) ร่วมกันนาน 5 วัน จำนวน 56 ราย โดยมียาซิงค์ซัลเฟตเป็นยาเสริมทั้ง 2 กลุ่ม การวิจัยนี้ดำเนินการรับผู้ติดเชื้อเข้าร่วมโครงการระหว่างเดือนธันวาคม 2563 ถึงเดือนเมษายน 2564 ผลทางคลินิก พบว่า ยาทั้งหมดที่ใช้ในการรักษาผู้ติดเชื้อมีความปลอดภัย พบอาการข้างเคียงไม่แตกต่างกันในสองกลุ่ม (4 ครั้งในกลุ่ม A และ 10 ครั้งในกลุ่ม B ตามลำดับ) แต่มีผู้ติดเชื้อในกลุ่ม B จำนวน 2 ราย ถอนตัวจากการวิจัย เนื่องจากอาการข้างเคียง คือ อาเจียน 1 ราย และมีผื่นคันตามตัว 1 ราย ผลการติดตามอาการทางคลินิกพบ ผู้ติดเชื้อ 3 ราย (กลุ่ม A จำนวน 2 ราย และกลุ่ม B จำนวน 1 ราย) ที่มีอาการแย่ลงและได้รับการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ ผู้ติดเชื้อทุกรายกลับจากโรงพยาบาลได้ตามกำหนดกักตัวและอาการปกติเมื่อมาติดตามการรักษาหลังครบเวลากักตัวที่บ้าน ผลการศึกษาทางไวรัสวิทยา พบว่า ไวรัส SARS-CoV-2 ที่พบเป็นสายพันธุ์ B.1.36.16 ทั้งหมด ยกเว้นมีสายพันธุ์แอลฟา (B.1.1.7) เพียง 7 ราย จากผู้ร่วมโครงการในเดือนเมษายน 2564 แต่พบว่า มีผู้ติดเชื้อซึ่งตรวจไม่พบเชื้อจาก RT-PCR แล้วจำนวน 29 ราย ก่อนการรักษา (13 ราย และ 16 ราย ในกลุ่ม A และกลุ่ม B ตามลำดับ) ในกลุ่มที่ยังพบเชื้อด้วย RT- PCR ก่อนการรักษา ค่าเฉลี่ย Ct of N gene ไม่แตกต่างกัน มีผู้ติดเชื้อ 18 ราย พบเชื้อ SARS-CoV-2 ได้จากการเพาะเชื้อก่อนการรักษา (กลุ่ม A และกลุ่ม B จำนวน 10 ราย และ 8 ราย ตามลำดับ) โดยพบค่า mean (SD) ของ Ct of N gene = 22.54 (2.76) โดยรายที่เพาะเชื้อได้มีค่า Ct of N gene ต่ำสุด คือ 13.99 และรายที่มีค่า Ct of N gene สูงสุด คือ 35.99 ผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ไม่มีรายใดที่เพาะเชื้อได้ซ้ำหลังการรักษา อย่างไรก็ตามมีผู้ติดเชื้อฯ 2 ราย ในกลุ่ม A ซึ่งเพาะเชื้อไม่ได้ก่อนการรักษาแต่เพาะเชื้อได้หลังเริ่มการรักษา 5 วัน โดยผู้ติดเชื้อ 1 ราย เพาะเชื้อได้ 2 ครั้งหลังการรักษา 5 วัน และ 7 วัน ตามลำดับ การวิเคราะห์แบบ modified intention to treat พบว่า ระยะเวลาเฉลี่ยหลังการคัดกรองก่อนการกักตัวจนพบ Ct of N gene undetected / มากกว่า 30 ของทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน (6 วัน 95%CI 5.3 - 6.7 วัน และ 7 วัน 95%CI 5.4 - 8.6 วัน ในกลุ่ม A และกลุ่ม B ตามลำดับ P = 0.419) โดยสรุปผลการศึกษาครั้งนี้ ซึ่งพบว่า ผู้ติดเชื้อทั้งสองกลุ่มมีระยะเวลาการพบเชื้อในปริมาณที่น่าจะไม่แพร่กระจายเชื้อได้แล้วหลังการรักษาประมาณ 1 สัปดาห์ไม่แตกต่างกัน โดยไม่มีหลักฐานว่า ยาที่ใช้รักษาในกลุ่ม B ซึ่งเป็นกลุ่มควบคุมมีประสิทธิภาพและพบหลักฐานการเพาะเชื้อ SARS-CoV-2 ได้หลังผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาด้วยยาไอเวอร์เมคติน ร่วมกับผลการศึกษาทางคลินิกขนาดใหญ่ซึ่งเพิ่งตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ สรุปได้ว่า ยาไอเวอร์เมคตินน่าจะไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด 19th_TH
dc.description.sponsorshipสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.rightsสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขth_TH
dc.subjectIvermectinth_TH
dc.subjectยา--การรักษาth_TH
dc.subjectความปลอดภัยในการใช้ยาth_TH
dc.subjectCOVID-19 (Disease)th_TH
dc.subjectCoronavirusesth_TH
dc.subjectCoronavirus Infectionsth_TH
dc.subjectโควิด-19 (โรค)th_TH
dc.subjectการติดเชื้อไวรัสโคโรนาth_TH
dc.subjectไวรัสโคโรนาth_TH
dc.subjectHydroxychloroquineth_TH
dc.subjectRitonavirth_TH
dc.subjectการบริการสุขภาพ (Health Service Delivery)th_TH
dc.subjectIvermectin--Therapeutic Useth_TH
dc.titleการศึกษาประสิทธิภาพของยาไอเวอร์เมคตินเปรียบเทียบกับยาไฮด้อกซี่คลอโรควินร่วมกับดารุนาเวียร์/ริโตนาเวียร์ในการลดระยะเวลาการตรวจพบเชื้อ SAR-CoV2 จากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ไม่แสดงอาการth_TH
dc.title.alternativeComparative efficacy of ivermectin versus combination of hydroxychloroquine plus darunavir/ritonavir for shortening duration of SARS-CoV-2 detection from respiratory secretion among asymptomatic or afebrile Covid-19 infectionth_TH
dc.typeTechnical Reportth_TH
dc.identifier.callnoWC503 ย421ก 2564
dc.identifier.contactno63-087
dc.subject.keywordSARS-CoV-2th_TH
dc.subject.keywordDarunavirth_TH
dc.subject.keywordEffectiveness Evaluationen_EN
.custom.citationยุพิน ศุพุทธมงคล, Yupin Suputtamongkol, รุจิภาส สิริจตุภัทร, Rujipas Sirijatuphat, สุสัณห์ อาศนะเสน, Susan Assanasen, เมธี ชยะกุลคีรี, Methee Chayakulkeeree, ณสิกาญจน์ อังคเศกวินัย, Nasikarn Angkasekwinai, เสาวลักษณ์ ศิลปสาคร, Saowaluk Silpasakorn, เอกรัฐ วงศ์สวัสดิ์, Ekkarat Wongsawat, เดชาธร รัศมีกุลธนา, Dechatorn Rassamekulthana, ณัฐวุฒิ รุ่งเกียรติ์เตชากร, Nuttawut Rongkiettechakorn, เอนก มุ่งอ้อมกลาง, Anek Mungaomklang, สิรีธร นิมิตวิไล, Sireethorn Nimitvilai, อุษณีย์ พูลวิวัฒน์ชัยการ and Ussanee Poolvivatchaikarn. "การศึกษาประสิทธิภาพของยาไอเวอร์เมคตินเปรียบเทียบกับยาไฮด้อกซี่คลอโรควินร่วมกับดารุนาเวียร์/ริโตนาเวียร์ในการลดระยะเวลาการตรวจพบเชื้อ SAR-CoV2 จากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ไม่แสดงอาการ." 2564. <a href="http://hdl.handle.net/11228/5421">http://hdl.handle.net/11228/5421</a>.
.custom.total_download38
.custom.downloaded_today0
.custom.downloaded_this_month0
.custom.downloaded_this_year1
.custom.downloaded_fiscal_year1

ฉบับเต็ม
Icon
ชื่อ: hs2711.pdf
ขนาด: 1.247Mb
รูปแบบ: PDF
 

ชิ้นงานนี้ปรากฎในคอลเล็คชั่นต่อไปนี้

แสดงรายการชิ้นงานแบบง่าย