• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การสังเคราะห์ข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการตรวจทางชีวโมเลกุลเพื่อแยกเชื้อไวรัสที่มีความสามารถในการแพร่เชื้อได้ออกจากซากเชื้อไวรัสโคโรนาซาร์-2

บุญรัตน์ ทัศนีย์ไตรเทพ; Boonrat Tassaneetrithep; อังสนา ภู่เผือกรัตน์; Angsana Phuphuakrat; เอกวัฒน์ ผสมทรัพย์; Ekawat Pasomsub; อรุณี ธิติธัญญานนท์; Arunee Thitithanyanont; สิรวัฒน์ ศรีฉัตราภิมุข; Sirawat Srichatrapimuk; ศุภโชค เกิดลาภ; Suppachok Kirdlarp; สุรเดช หงส์อิง; Suradej Hongeng; นวลจันทร์ วิจักษณ์จินดา; Nuanjun Wichukchinda; อาทิตย์ วงค์ษา; Artit Wongsa;
วันที่: 2565
บทคัดย่อ
การตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาซาร์โควี-2 ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ คือ วิธี real-time PCR แต่วิธีการตรวจดังกล่าวไม่สามารถแยกเชื้อเป็นกับซากเชื้อออกจากกันได้ คณะผู้วิจัยได้พัฒนาการออกแบบการตรวจวัดปริมาณสารพันธุกรรมโดยใช้โพรบที่ติดฉลาก (Probe-based assay) ที่มีความจำเพาะต่อ S (spike) gene และ N (nucleoprotein) gene ของซับจีโนมิกอาร์เอ็นเอ (subgenomic RNA (sgRNA)) ในไวรัสโคโรนาซาร์โควี-2 สำหรับแยกเชื้อเป็นกับซากเชื้อออกจากกัน โดยเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกของอาสาสมัครที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 30 ราย และนำมาสกัดสารพันธุกรรมและทำการทดสอบ RT-PCR ด้วยไพรเมอร์ S gene sgRNA ให้ผลเป็นลบ ร้อยละ 100.00 (30/30) และ N gene sgRNA ให้ผลเป็นลบ ร้อยละ 93.33 (28/30) เมื่อเปรียบเทียบวิธี RT-PCR มาตรฐานด้วย ไพรเมอร์ N gene RNA ให้ผล RT-PCR เป็นลบ ร้อยละ 43.33 (13/30) และ ORF gene RNA ให้ผล RT-PCR เป็นลบ ร้อยละ 70.00 (21/30) นอกจากนี้พบว่า ไพรเมอร์ที่ทางคณะวิจัยส่วนใหญ่ตรวจพบค่าเป็นลบในวันที่ 8 และสามารถเพาะแยกเชื้อไวรัสโคโรนาซาร์โควี-2 ได้ภายใน 4-5 วันหลังการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือสถานกักกันโรคที่รัฐกำหนดเท่านั้น ผลการศึกษานี้สามารถนำมาปรับแนวทางเพื่อใช้ตรวจคัดกรองการแยกซากเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ได้ และมีความแม่นยำกว่าวิธีการคาดคะเนจากค่า Ct จากวิธี RT-PCR มาตรฐานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยลดความจำเป็นในการกักกันโรค และ/หรือลดจำนวนวันที่จะต้องกักกันโรค จาก 14 วัน ลดลงเหลือเป็น 8 วัน นอกจากนี้วิธีการดังกล่าวอาจนำไปปรับใช้กับตัวอย่างตรวจประเภทอื่นๆ เช่น น้ำลาย ซึ่งทำได้ง่ายและไม่เป็นภาระใช้จ่ายที่สูงจากการเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูก อีกทั้งวิธีการนี้สามารถนำไปปรับใช้โรคอุบัติใหม่จากเชื้อไวรัสโคโรนาในอนาคตได้
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2821.pdf
ขนาด: 2.026Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 3
ปีพุทธศักราชนี้: 2
รวมทั้งหมด: 27
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV