• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การพัฒนาแบบจำลองทำนายความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประเทศไทยเพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อระบบหลักประกันสุขภาพและระบบสุขภาพ

ปิยะ หาญวรวงศ์ชัย; Piya Hanvoravongchai; เสกสรร เกียรติสุไพบูลย์; Seksan Kiatsupaibul; วิฐรา พึ่งพาพงศ์; Vitara Pungpapong; อรลักษณ์ พัฒนาประทีป; Oraluck Pattanaprateep; มนทรัตม์ ถาวรเจริญทรัพย์; Montarat Thavorncharoensap; วศิน เลาหวินิจ; Wasin Laohavinij; จิดาภา หาญวรวงศ์ชัย; Jidapa Hanvoravongchai;
วันที่: 2566-10
บทคัดย่อ
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สร้างแบบจำลองทำนายความเสี่ยง 2 แบบจำลองหลัก คือ 1.1 แบบจำลองทำนายความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประชากรทั่วไป และ 1.2 แบบจำลองทำนายความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนและการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง และ (2) ประมาณการภาระรายจ่ายทางสุขภาพและความสูญเสียด้านผลิตภาพ การทำงานอันเนื่องมาจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในปัจจุบัน โดยเป็นการศึกษาเชิงปริมาณ และใช้ข้อมูลการใช้บริการสาธารณสุขผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในจากฐานข้อมูล 43 แฟ้ม กระทรวงสาธารณสุข กลุ่มตัวอย่างของการศึกษานี้มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคน ถูกติดตามเป็นระยะเวลา 6 ปี 2 เดือน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560 ถึง 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 สถิติหลักที่ใช้การสร้างแบบจำลอง คือ การวิเคราะห์ การรอดชีพตัวแปรเวลาแบบไม่ต่อเนื่องและใช้วิธีการเรียนรู้ของเครื่องในการจำแนกประเภทข้อมูล 2 วิธี ได้แก่ 1. การถดถอยโลจิสติกส์แบบ Elastic Net และ 2. วิธี XGBoost (Extreme Gradient Boosting) เพื่อค้นหาแบบจำลองที่มีความแม่นยำสูงสุดประเมินจากพื้นที่ใต้กราฟ หรือ ค่า AUC (Area Under ROC Curve) ผลการศึกษา พบว่า วิธี XGBoost มีประสิทธิภาพในการทำนายสูงกว่าการถดถอยโลจิสติกส์แบบ Elastic Net ในทุกประเภทของแบบจำลอง โดยประสิทธิภาพการทำนายของแบบจำลองทำนายความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานและการเกิดโรคความดันโลหิตสูงด้วยวิธี XGBoost ในกลุ่มประชากรทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ดี มีค่า AUC อยู่ระหว่าง 0.86-0.88 และ 0.84-0.87 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการทำนายของแบบจำลองทำนายความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงให้ผลลัพธ์แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของภาวะแทรกซ้อนโดยมีช่วงระหว่าง 0.63-0.84 ซึ่งการทำนายเกิดภาวะไตเสื่อมเรื้อรังมีค่า AUC ดีที่สุดอยู่ที่ 0.82-0.84 และ 0.80-0.82 ในผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ตามลำดับ สำหรับผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง พบว่า ค่าใช้จ่ายทางสุขภาพทั้งหมด ประกอบด้วย ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าเสียโอกาสของผู้ป่วยเนื่องจากต้องมารับการรักษาที่โรงพยาบาลและค่าเสียโอกาสของผู้ดูแลของผู้ที่ไม่เป็นทั้งโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานอย่างเดียว ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงอย่างเดียวและผู้ที่เป็นทั้ง 2 โรค อยู่ที่ 6,114 บาท, 25,322 บาท, 18,124 บาท และ 37,575 บาทต่อคนต่อปี ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายทางสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างเดียวและโรคความดันโลหิตสูงอย่างเดียวแตกต่างกัน คือ ค่าเสียโอกาสของผู้ดูแล กระทรวงสาธารณสุข สามารถนำแบบจำลองทำนายความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานและการเกิดโรคความดันโลหิตสูงในประชากรทั่วไปที่พัฒนาขึ้นไปประยุกต์ใช้ในการคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปของประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประเมินความเสี่ยงแทนที่การใช้เพียงผลการตรวจระดับน้ำตาลปลายนิ้วและการวัดความดันโลหิตเพียงอย่างเดียวและควรสร้างเกณฑ์การจัดกลุ่มผู้ป่วยตามค่าความเสี่ยงและข้อมูลที่จะใช้ในการสื่อสารความเสี่ยงทางสุขภาพ เช่น การแบ่งกลุ่มผู้ป่วยตาม เฉดสี เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่สามารถสื่อสารกับผู้ที่มารับการคัดกรองโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนนำแบบจำลองไปใช้จริงในพื้นที่

บทคัดย่อ
The primary objectives of this study are as follows: (1) Develop two primary risk prediction models: 1.1. for determining the likelihood of developing diabetes and hypertension in the normal population; and 1.2. for determining the risk of developing diabetes and hypertension-related complications and mortality. In addition, (2) estimates the health expenses and productivity loss due to diabetes and hypertension. This is a quantitative study utilizing Ministry of Public Health outpatient and inpatient data. The study consisted of 1.2 million samples and was followed over a period of 6 years, from January 1st, 2017, to February 28th, 2023. The primary statistic employed in model development is discrete-time survival analysis. For data classification, two machine learning techniques, namely Lasso Logistic Regression and XGBoost (Extreme Gradient Boosting), were utilized. Additionally, model accuracy was assessed using the area under the Receiver Operating Characteristic (ROC) Curve. The study found that the XGBoost method had higher prediction efficiency than Lasso Logistic Regression in all models. The diabetes and hypertension risk models for the general population that used the XGBoost method were accurate, with the area under the curve (AUC) values ranging from 0.86 to 0.88 for diabetes and 0.84 to 0.87 for hypertension. However, the predictive performance for the risk of complications in diabetes and hypertensive patients varied depending on the type of complications, with the AUC ranging from 0.63 to 0.84. Predicting chronic kidney disease yielded the best AUC, ranging from 0.82 to 0.84 and 0.80 to 0.82 in diabetic and hypertensive patients, respectively. Additionally, the present study examined the comprehensive health expenditure of individuals diagnosed with diabetes and hypertension. This expenditure comprised direct medical costs, direct non-medical costs (including food and travel), and opportunity costs incurred by both patients and their caregivers. The annual total expenditures per patient vary as follows: 6,114 baht, 25,322 baht, 18,124 baht, and 37,575 baht for patients without both diabetes and hypertension, patients with only diabetes, patients with only hypertension, and patients with both conditions. Caregiver opportunity cost is the determining factor for health expenditure differences between patients with diabetes and hypertension alone. It is recommended that the Ministry of Public Health incorporate the diabetes and hypertension risk models into nationwide diabetes and hypertension screening programs for individuals aged 35 years and older. These models offer a more comprehensive assessment of the risks involved in diabetes and hypertension than point-of-care glucose tests and blood pressure measurements alone. In addition, prior to implementing the risk model, criteria should be established to categorize patients according to their risk, and health recommendations should be tailored to each risk group. This will enable local agencies to efficiently disseminate information to the public.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs3062.pdf
ขนาด: 5.791Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 1
ปีงบประมาณนี้: 40
ปีพุทธศักราชนี้: 25
รวมทั้งหมด: 100
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย

ชิ้นงานที่เกี่ยวข้อง

แสดงชิ้นที่เกี่ยวข้องโดย ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง ผู้สร้าง และหัวเรื่อง

  • การประเมินศักยภาพของระบบสุขภาพในความพร้อมรับมือการระบาดโรค COVID-19 ในพื้นที่ชายแดน จังหวัดเชียงราย 

    อนุสรณ์ อุดปล้อง; Anusorn Udplong; ธวัชชัย อภิเดชกุล; Tawatchai Apidechkul; ฟาติมา ยีหมาด; Fartima Yeemard (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2565-10)
    การวิจัยแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินศักยภาพของบุคลากรและระบบสุขภาพในการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรค COVID-19 ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่อำเภอชายแดนจังหวัดเชียงราย คือ ...
  • การเปรียบเทียบสัดส่วนการจัดสรรงบประมาณกองทุนประกันสุขภาพแห่งชาติระหว่างคู่สัญญาบริการสาธารณสุขระดับปฐมภูมิให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ่ายโอนและไม่ถ่ายโอนไปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย 

    นภชา สิงห์วีรธรรม; Noppcha Singweratham; ตวงรัตน์ โพธะ; Tuangrat Phodha; วิน เตชะเคหะกิจ; Win Techakehakij; ธีระศักดิ์ วงศ์ใหญ่; Dherasak Wongyai; อำพล บุญเพียร; Aumpol Bunpean; พัลลภ เซียวชัยสกุล; Pallop Siewchaisakul (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2565-12)
    การถ่ายโอนภารกิจด้านการให้บริการปฐมภูมิที่อยู่กับสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำให้เกิดความเป็นธรรม ความเสมอภาคและเท่าเทียม ...
  • ข้อเสนอเชิงนโยบาย ถมช่องว่างบริหารจัดการทรัพยากร งบประมาณ ผ่าข้อเสนอจัดสรรงบบัตรทองจาก CUP ให้ รพ.สต. สร้างความเป็นธรรมหน่วยบริการปฐมภูมิ 

    นภชา สิงห์วีรธรรม; Noppcha Singweratham; ตวงรัตน์ โพธะ; Tuangrat Phodha; วิน เตชะเคหะกิจ; Win Techakehakij; ธีระศักดิ์ วงศ์ใหญ่; Dherasak Wongyai; อำพล บุญเพียร; Aumpol Bunpean; พัลลภ เซียวชัยสกุล; Pallop Siewchaisakul (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2567)
    ข้อเสนอเชิงนโยบาย (Policy Brief) นี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย เรื่อง การเปรียบเทียบสัดส่วนการจัดสรรงบประมาณกองทุนประกันสุขภาพแห่งชาติระหว่างคู่สัญญาบริการสาธารณสุขระดับปฐมภูมิให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ่ายโ ...

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV