• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การพัฒนาเครือข่ายร้านยาในระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อ ประเทศไทย

สุณี เลิศสินอุดม; Sunee Lertsinudom; อดิณัฐ อำนวยพรเลิศ; Adinat Umnuaypornlert; อภินันท์ วัชราภิชาต; Aphinan Watcharapichart; ชวนชม ธนานิธิศักดิ์; Chuanchom Thananithisak; จุฑามณี ดุษฎีประเสริฐ; Jutamanee Dudsadeeprasert; ศิริน เพ็ญภินันท์; Sirin Phenphinan; ขัตติยะ มั่งคั่ง; Khattiya Mangkang; ปาริชาติ ธัมมรติ; Parichart Thummarati; นิรัชรา ถวิลการ; Nirachara Tawinkan; โฉมคนางค์ ภูมิสายดร; Chomkanang Poomsaidorn;
วันที่: 2567-12
บทคัดย่อ
บทนำ ร้านยาเป็นส่วนสำคัญของระบบบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ที่ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะในบริบทของสังคมไทยที่ร้านยาใกล้ชิดกับชุมชน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลดความแออัดในโรงพยาบาลและการจัดบริการสุขภาพที่กระจายตัวมากขึ้น โครงการพัฒนาเครือข่ายร้านยาในระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อจึงเป็นแนวทางสำคัญในการสนับสนุนระบบสุขภาพ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น ระบบใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ และการสร้างร้านยาต้นแบบเพื่อขยายบทบาทเภสัชกรในระดับปฐมภูมิ วัตถุประสงค์ โครงการพัฒนาเครือข่ายร้านยาในระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อของประเทศไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพ ลดความแออัดในโรงพยาบาล และส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนผ่านเครือข่ายร้านยา โดยแบ่งเป็น 2 โครงการย่อย ได้แก่ โรงพยาบาลต้นแบบระบบการจ่ายยาตามใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ ในโครงการลดความแออัดของโรงพยาบาลรัฐ โมเดล 3 และการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพในเขตสุขภาพที่ 7 ด้วยการพัฒนาเครือข่ายร้านยา ระเบียบวิธีวิจัย การศึกษานี้ใช้ระเบียบวิธีแบบผสม (Mixed Methods) ประกอบด้วยการศึกษาเชิงปริมาณแบบกึ่งทดลอง (Quasi-experimental) เพื่อประเมินผลลัพธ์ของบริการ และการศึกษาเชิงคุณภาพผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และกลุ่มสนทนา (Focus Group Discussion) เพื่อสังเคราะห์ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ผลการศึกษา เกิดโรงพยาบาลต้นแบบระบบการจ่ายยาตามใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ ในโครงการลดความแออัดของโรงพยาบาลรัฐ โมเดล 3 ได้แก่ โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต มีร้านยาเครือข่าย รวมทั้งสิ้น 45 ร้าน ร้านยาที่มีระบบจัดการยาโมเดล 3 จำนวน 17 ร้าน มีจำนวนผู้ป่วย 390 ราย และใบสั่งยาทั้งหมด 5,862 ใบสั่งยา ร้านยาในเขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานครที่เข้าร่วมในการศึกษามีทั้งหมด 48 ร้าน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่การให้บริการของโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลสิรินธร และ โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ โดยร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ มีทั้งหมด 18 ร้าน ร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลกลางมีทั้งหมด 12 ร้าน ร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลสิรินธร มีทั้งหมด 10 ร้าน และร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ มีทั้งหมด 8 ร้าน ครอบคลุมโรคเรื้อรัง ดังต่อไปนี้ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคต่อมลูกหมากโต ผลการประเมินความพึงพอใจในภาพรวมของเภสัชกรร้านยาอยู่ในระดับมาก (3.83±0.71 จากคะแนนเต็ม 5) และเรื่องความเหมาะสมของค่าตอบแทนที่ได้รับ ความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง (2.75±1.235) สำหรับการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพในเขตสุขภาพที่ 7 พบว่ามีร้านยาร่วมโครงการบริการอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยในร้านยา 96 แห่ง ครอบคลุม 30 อำเภอจากทั้งหมด 77 อำเภอ หรือประมาณร้อยละ 38.96 ของพื้นที่ในเขตสุขภาพที่ 7 การกระจายตัวในแต่ละจังหวัด มีดังนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดมีร้านยาร่วมโครงการ 26 แห่ง ครอบคลุม 11 อำเภอ จาก 20 อำเภอ (ร้อยละ 55) โดยเน้นพัฒนาบริการต้นแบบ เช่น การดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย การให้บริการคัดกรองโรค และการจัดยาตามใบสั่งยาด้วยระบบ E-prescription ทำให้เกิดการดูแลแบบองค์รวมและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จังหวัดขอนแก่น มีร้านยาร่วมโครงการ 49 แห่ง ครอบคลุม 9 อำเภอ จาก 26 อำเภอ (ร้อยละ 34.62) จังหวัดมหาสารคาม มีร้านยาร่วมโครงการ 16 แห่ง ครอบคลุม 5 อำเภอ จาก 13 อำเภอ (ร้อยละ 38.46) และจังหวัดกาฬสินธุ์ มีร้านยาร่วมโครงการ 5 แห่ง ครอบคลุม 5 อำเภอ จาก 18 อำเภอ (ร้อยละ 27.78) ข้อเสนอแนะจากการศึกษา ควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อสร้างความเข้าใจและการยอมรับของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรเพื่อขยายบริการร้านยาในพื้นที่ที่ยังไม่ครอบคลุม ปรับปรุงระบบสารสนเทศและการเชื่อมโยงข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยแบบครบวงจร สนับสนุนการกำหนดค่าตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับเภสัชกรในร้านยา เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเข้าร่วมโครงการ ส่งเสริมการพัฒนาร้านยาต้นแบบในพื้นที่อื่น ๆ โดยใช้แนวทางจากความสำเร็จของจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นต้นแบบ สรุป การพัฒนาเครือข่ายร้านยาในระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล เพิ่มบทบาทของร้านยาในระบบสุขภาพ และเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการของประชาชน ความสำเร็จของจังหวัดร้อยเอ็ดแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการพัฒนาร้านยาในพื้นที่ และชี้ให้เห็นความจำเป็นในการสนับสนุนและขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ เพื่อให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ

บทคัดย่อ
Introduction Pharmacies are a crucial part of primary healthcare systems, providing convenient and rapid access to health services, particularly within the Thai community setting where pharmacies are closely integrated. The COVID-19 pandemic has underscored the importance of reducing hospital overcrowding and decentralizing healthcare services. The development of a seamless pharmacy network in the healthcare system is an essential strategy to support the healthcare framework, utilizing technologies such as electronic prescriptions and establishing prototype pharmacies to expand the role of pharmacists in primary care. Objectives The project to develop a seamless pharmacy network in Thailand's healthcare system aims to enhance healthcare efficiency, alleviate hospital congestion, and improve public access to health services through a pharmacy network. The project is divided into two sub-projects: 1) Prototype hospital electronic prescription systems under the state hospital congestion reduction initiative (Model 3) and 2) Expanding access to healthcare services in Health Region 7 through the development of a pharmacy network. Methods This study employed a mixed-methods approach, including quasi-experimental quantitative studies to evaluate service outcomes and qualitative studies through in-depth interviews and focus group discussions to synthesize policy recommendations. Results The initiative resulted in the establishment of prototype hospitals with electronic prescription systems under the Model 3 congestion reduction project, including Nakhon Ratchasima Rajanagarindra Psychiatric Hospital, Department of Mental Health. The project integrated a network of 45 pharmacies, with 17 pharmacies using Model 3 systems. These pharmacies served 390 patients, processing 5,862 prescriptions. In Health Region 13 (Bangkok), 48 pharmacies participated, supporting services from four hospitals: Rajpipat Hospital (18 pharmacies), Klang Hospital (12 pharmacies), Sirindhorn Hospital (10 pharmacies), and Luang Por Taweesak Hospital (8 pharmacies). The services covered chronic diseases, such as hypertension, diabetes, hyperlipidemia, and prostatic hyperplasia. Overall pharmacist satisfaction with the project was high (3.83 ± 0.71 out of 5), although satisfaction with compensation was moderate (2.75 ± 1.235). For Health Region 7, 96 pharmacies participated in Common illness service, covering 30 of the 77 districts (38.96%). Distribution by province included: Roi Et Province: 26 pharmacies in 11 of 20 districts (55%), emphasizing prototype services such as minor illness management, disease screening, and E-prescription services, enhancing holistic and comprehensive care. Khon Kaen Province: 49 pharmacies in 9 of 26 districts (34.62%). Maha Sarakham Province: 16 pharmacies in 5 of 13 districts (38.46%). Kalasin Province: 5 pharmacies in 5 of 18 districts (27.78%). Recommendations The study recommends increasing public awareness to foster understanding and acceptance of the project, allocating funds and resources to expand pharmacy services in uncovered areas, enhancing information systems for effective data integration, and supporting appropriate compensation for pharmacists to encourage participation. Expanding prototype pharmacies based on Roi Et's success is also advised. Conclusion Developing a seamless pharmacy network reduces hospital congestion, enhances the role of pharmacies in the healthcare system, and improves public access to services. Roi Et Province's success highlights the potential of this approach, emphasizing the need to support and scale the initiative nationwide for comprehensive coverage.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs3236.pdf
ขนาด: 13.89Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 21
ปีพุทธศักราชนี้: 21
รวมทั้งหมด: 21
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV