• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

ทบทวนสถานะทางกฎหมายของยาสามัญประจำบ้าน

ปรุฬห์ รุจนธำรงค์; Parun Rutjanathamrong; ตวงรัตน์ โพธะ; Tuangrat Phodha; กิตติยา จันทรธานีวัฒน์; Kittiya Jantarathaneewat; ธนะวัฒน์ วงศ์ผัน; Thanawat Wongphan;
วันที่: 2568-07
บทคัดย่อ
ที่มา การจัดประเภทยาไม่ควรพิจารณาเพียงการเข้าถึงเท่านั้น แต่ควรคำนึงถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเป็นเกณฑ์ในการจัดประเภทด้วย การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบจุดที่เป็นปัญหาและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับเกณฑ์การจัดประเภทยาสามัญประจำบ้านในประเทศไทย ระเบียบวิธีวิจัย งานวิจัยนี้ใช้วิธีการเชิงคุณภาพแบบผสมผสานประกอบด้วยสองระยะ ระยะที่ 1 เป็นการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับเกณฑ์การจัดประเภทยาสามัญประจำบ้านของประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2548-2567) โดยวิเคราะห์กรอบแนวคิดของเกณฑ์ ระยะที่ 2 ประกอบด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเกณฑ์การจัดประเภทยาสามัญประจำบ้าน มีการวิเคราะห์เนื้อหาตามด้วยการสังเคราะห์ผลการศึกษาจากทั้งสองระยะเพื่อพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่แก้ไขช่องว่างในระบบการจัดประเภทยาสามัญประจำบ้านของไทยในปัจจุบัน ผลการศึกษา เกณฑ์การจัดประเภทยาสามัญประจำบ้านในประเทศไทยที่ผ่านมาถูกกำหนดขึ้นบนพื้นฐานของข้อมูลสองประเภท ได้แก่ (1) ข้อมูลระบาดวิทยาของโรค ซึ่งบ่งชี้ถึงความจำเป็นด้านสาธารณสุขสำหรับการดูแลตนเองขั้นพื้นฐานและการเข้าถึงยา และ (2) ข้อมูลความปลอดภัยของยา ซึ่งถูกกำหนดโดยปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงการใช้ยาในทางที่ผิด การดื้อยาต้านจุลชีพ และอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ผลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกพบช่องว่างในเกณฑ์การจัดประเภทยาสามัญประจำบ้าน โดยเฉพาะความจำเป็นในการมีข้อมูลการศึกษาความเสี่ยงและประโยชน์ และข้อมูลหมวดหมู่การรักษาที่สอดคล้องกับแนวทางการรักษาในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงเกณฑ์ควรมีการปรึกษาหารือกับประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการจัดประเภทยาในแง่ของการดูแลตนเอง การเข้าถึงยา และการเข้าถึงข้อมูลยา นอกจากนี้ การปรึกษากับผู้ผลิตยามีความจำเป็น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตยา ต้นทุนการผลิต และความเป็นไปได้ในการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน สรุป เกณฑ์การจัดประเภทในอนาคตควรรักษาสมดุลระหว่างการปรับปรุงการเข้าถึงยาและการรักษาความปลอดภัยของสาธารณะ โดยคำนึงถึงพลวัตของความก้าวหน้าทางการแพทย์และความต้องการด้านการดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป ผลการศึกษานี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าสำหรับผู้กำหนดนโยบายและหน่วยงานด้านสาธารณสุขในการพัฒนาระบบการจัดประเภทยาที่แข็งแกร่งและตอบสนองมากขึ้นในประเทศไทย

บทคัดย่อ
Background Drug classification should not consider only accessibility but also the risks associated with drug use as a classification criterion. This study aims to examine the pain points and concepts related to household medicine classification criteria in Thailand. Methods This research employs a multi-method qualitative approach comprising two phases. Phase 1 involves a literature review of Thailand's household medicine classification criteria over the past 20 years (2005-2024), analyzing the conceptual framework of the criteria. Phase 2 consists of in-depth interviews with stakeholders involved in establishing household medicine classification criteria. Content analysis was performed, followed by a synthesis of findings from both phases to develop policy recommendations addressing gaps in the current Thai household medicine classification system. Results Previous household medicine classification criteria in Thailand were established based on two types of data: (1) epidemiological disease data, which indicates the public health necessity for basic selfcare and drug accessibility, and (2) drug safety data, which is determined by various risk factors including drug abuse, antimicrobial resistance, and severe adverse reactions. Results from in-depth interviews identified gaps in the household medicine classification criteria, specifically the need for risk-benefit study data and therapeutic category information that aligns with current treatment guidelines. However, criteria improvements should involve public consultation with citizens, who are directly affected by drug classification in terms of self-care, drug accessibility, and drug information access. Additionally, consultation with pharmaceutical manufacturers is necessary, as changes may impact drug production processes, production costs, and manufacturing feasibility, ensuring alignment with public needs. Conclusion Future classification criteria should maintain a balance between improving drug accessibility and maintaining public safety, while considering the dynamic nature of medical advances and evolving healthcare needs. These findings provide valuable insights for policymakers and healthcare authorities in developing more robust and responsive drug classification systems in Thailand.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs3283.pdf
ขนาด: 29.45Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 14
ปีงบประมาณนี้: 14
ปีพุทธศักราชนี้: 14
รวมทั้งหมด: 14
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2491]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [621]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [100]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [287]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [126]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [160]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1295]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [234]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [21]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV