บทคัดย่อ
การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่สมเหตุผลพบได้ทั้งในกลุ่มผู้ใช้ยาและผู้สั่งจ่าย ทั้งในสถานพยาบาลและร้านยา โดยเฉพาะในโรคหวัดที่พบว่า ประชาชนเกินกว่าครึ่งที่ใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม เป็นการเพิ่มโอกาสของการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรีย เพิ่มค่าใช้จ่ายค่ายาโดยไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย และอาจทำให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ คือ การแพ้ยาปฏิชีวนะ ที่พบได้บ่อยที่สุดของรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยา จนเกิดคำขวัญการรณรงค์ว่า “No action Today, No cure Tomorrow” อันหมายถึง ไม่เริ่มรณรงค์เรื่องการดื้อยาเสียตั้งแต่วันนี้ อาจจะไม่มียาปฏิชีวนะให้ใช้ในการรักษาในวันข้างหน้า เพราะอาจจะไม่มียาปฏิชีวนะให้ใช้ ถ้าเราเกิดการติดเชื้อดื้อยา ร้านยาเป็นด่านแรกของระบบสุขภาพ เมื่อประชาชนเจ็บป่วยเล็กน้อย จะไปขอคำปรึกษา และแนะนำยาเพื่อการดูแลรักษาปัญหาด้งกล่าว มีทั้งมาปรึกษาอาการเจ็บป่วย ปรึกษาเรื่องการใช้ยา และมาเรียกหายา ซึ่งในจำนวนนี้ยังมีการจ่ายยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก เกิดจากความเชื่อ ความรู้ และพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพด้วยตนเองของประชาชน และ/หรือ ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของเภสัชกรร้านยาผู้ให้บริการ ที่จะต้องก้าวทันความรู้ทางด้านเภสัชศาสตร์ที่ทันสมัย
สมาคมเภสัชกรรมชุมชน ซึ่งเป็นสมาคมที่มีสมาชิกเภสัชกรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ที่ร้านยาทั่วประเทศ จึงร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ จัดทำโครงการส่งเสริมการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลในร้านยาขึ้น เพื่อเพิ่มการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมในร้านยา และลดการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม โดยเฉพาะใน 3 โรคติดเชื้อที่พบบ่อยในร้านยา ได้แก่ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคท้องเสีย และแผล เพื่อให้บริการทางเภสัชกรรมที่ดีมีคุณภาพ และยังประโยชน์ต่อประชาชนผู้รับบริการในร้านยา วัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อพัฒนา standard practice guidelines ของการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมในร้านยา 2) เพื่อพัฒนา toolkit และอุปกรณ์สนับสนุน เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค และส่งเสริมการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมในร้านยา 3) เพื่อเพิ่มความรู้เรื่องการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมให้กับผู้ให้บริการในร้านยา 4) เพื่อเพิ่มการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมในร้านยาที่สมัครใจ และร้านยาคณะเภสัชศาสตร์ 5) เพื่อเพิ่มประสบการณ์ ความพึงพอใจ และการบอกต่อของผู้รับบริการที่ร้านยา