บทคัดย่อ
การอนุรักษ์ พัฒนาและคุ้มครองภูมิปัญญาไท สุขภาพวิถีไท เป็นวาระแห่งชาติที่ท้าทาย เพราะประเทศไทยได้ทอดทิ้งการสืบทอดภูมิปัญญาสุขภาพวิถีไทไประยะหนึ่ง ทำให้ประชาชนขาดความนิยม และสังคมขาดการพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนขาดโอกาสที่จะแข่งขันกับระบบภูมิปัญญาสุขภาพของชาติอื่นๆ วาระแห่งชาติในการอนุรักษ์ พัฒนาและคุ้มครองภูมิปัญญาไท สุขภาพวิถีไท ชัดเจนขึ้นเมื่อก่อตั้งกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในกระทรวงสาธารณสุข ปี ๒๕๔๕ การศึกษานี้ เพื่อศึกษาระบบ โครงสร้าง กลไกทางการเงินและเพื่อเสนอมาตรการด้านการเงินที่เป็นรูปธรรมในการอนุรักษ์ พัฒนา คุ้มครองภูมิปัญญาไท และสุขภาพวิถีไท ทำการศึกษาโดยการทบทวนวรรณกรรมมาตรการด้านการเงินที่ประเทศอื่นๆ ใช้ในการอนุรักษ์ พัฒนา คุ้มครองภูมิปัญญาในประเทศของตน และกรณีศึกษาโรงพยาบาลในประเทศไทย ที่ให้บริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเมื่อใช้มาตรฐานวิทยาศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบันประเมินการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พบว่า หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านประสิทธิผลของการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกมีไม่มากนักและหลักฐานเหล่านั้นยังไม่แสดงถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ องค์การอนามัยโลกจึงเสนอแนะให้ประเทศสมาชิก กำหนดนโยบายระดับชาติในการคุ้มครองและอนุรักษ์การแพทย์ทางเลือก และจัดทำแผนพัฒนาที่เป็นรูปธรรม สร้างฐานข้อมูลความรู้อย่างเป็นระบบทั้งด้านความปลอดภัย ประสิทธิศักย์และประสิทธิผล จัดทำแนวทางเวชปฏิบัติที่เป็นมาตรฐาน เพิ่มศักยภาพทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ตลอดจนมีระบบการออกระเบียบควบคุมที่รัดกุม ประสบการณ์ในประเทศจีน พบว่า การพัฒนาการแพทย์แผนจีนที่ผสมผสานกับระบบการแพทย์แผนปัจจุบันทำให้การพัฒนามีประสิทธิภาพมากกว่าการแยกกันพัฒนา กรณีศึกษาโรงพยาบาลรัฐ ๓ แห่งในประเทศไทย พบว่า การพัฒนาระบบบริการการแพทย์สมุนไพร นวดไทย และการแพทย์ทางเลือก ได้รับการริเริ่มจากกระทรวงสาธารณสุข แต่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้เป็นบริการที่ผสมผสานกับการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นความพยายามของแต่ละสถานพยาบาล การจัดสรรเงินค่ารักษาพยาบาลตามรายกิจกรรมเป็นแหล่งเงินสำคัญของการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก งบประมาณรักษาพยาบาลจากหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และงบประมาณจากกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่ออนุรักษ์ พัฒนาและคุ้มครองภูมิปัญญาไทยังมีส่วนไม่มากนัก เนื่องจากขนาดของงบประมาณน้อยหากต้องใช้กลไกด้านการเงินเป็นกลวิธีในการอนุรักษ์ พัฒนาและคุ้มครองภูมิปัญญาไท สุขภาพวิถีไทอย่างแท้จริง กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ต้องเป็นหน่วยงานประสานแผนยุทธศาสตร์สำคัญ ๓ ด้าน เริ่มจาก ๑. การจัดกลไกทางการเงินให้ผสมผสานระบบบริการการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก เข้ากับระบบการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยระยะแรกเน้นพัฒนาภายใต้กรอบสถานพยาบาลภาครัฐทั้งบริการแบบผู้ป่วยนอกและบริการแบบผู้ป่วยใน (กำหนดเป็นแผนพัฒนา ๕ ปี) เพื่อสร้างฐานข้อมูลเชิงประจักษ์พัฒนาเป็นแนวทางเวชปฏิบัติ ๒. ยุทธศาสตร์ด้านคน ควรกำหนดกรอบบุคลากรการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในสถานพยาบาลภาครัฐเพื่อเป็นกลวิธีจัดสรรกำลังคนที่ได้รับการสนับสนุนต้นทุนค่าแรง รวมทั้งปรับกระบวนทัศน์บุคลากรการแพทย์แผนปัจจุบันให้สามารถผสมผสานบริการกับบุคลากรการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้มากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง ๓. ยุทธศาสตร์ด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยี ควรอุดหนุนเงินวิจัยพื้นฐานและวิจัยประยุกต์ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเพื่อเป็นวิถีไทที่เป็นอิสระในอนาคต