Show simple item record

Study of General Data on Tuberculosis Cases and Management Trends in a TB Clinic in Rasisalai District, Srisaket Province

dc.contributor.authorสมชาย ภานุมาสวิวัฒน์en_US
dc.contributor.authorSomchai Panumaswiwaten_US
dc.contributor.authorสถิต สายแก้วen_US
dc.contributor.authorSathit Saikeawen_US
dc.contributor.authorนพรัตน์ หารไชยen_US
dc.contributor.authorNoparath Harnrachaien_US
dc.date.accessioned2008-10-01T10:39:26Zen_US
dc.date.accessioned2557-04-16T15:55:21Z
dc.date.available2008-10-01T10:39:26Zen_US
dc.date.available2557-04-16T15:55:21Z
dc.date.issued2551en_US
dc.identifier.citationวารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 2,1 (ม.ค.-มี.ค. 2551) (ฉบับเสริม 4) : 925-931en_US
dc.identifier.issn0858-9437en_US
dc.identifier.urihttp://hdl.handle.net/11228/259en_US
dc.description.abstractการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยวัณโรค และแนวโน้มการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคในอำเภอราษีไศล เพื่อทราบถึงสถานการณ์แนวโน้ม ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ มาเปรียบเทียบกับการดำเนินงานของคลินิกวัณโรคอำเภอราษีไศลรอบหลายปีที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การวางแผนในการควบคุมโรคของพื้นที่ในระยะยาว โดยเก็บรวบรวมจากกลุ่มตัวอย่างทั้งในลักษณะการสัมภาษณ์ข้อมูลเชิงลึก และข้อมูลจากทะเบียนรายงาน ในกลุ่มผู้ป่วยวัณโรคที่มาขึ้นทะเบียนและรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลราษีไศล ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 – 30 กันยายน 2549 จำนวน 134 คน (จากจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด 148 คน) ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 64.2 เป็นชาย ร้อยละ 40.3 มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 88.1 มีการศึกษาระดับชั้นประถม ร้อยละ 71.19 มีอาชีพทำนา ร้อยละ 70.1 เคยฉีดวัคซีนบีซีจี ร้อยละ 11.2 เป็นโรคเบาหวาน ร้อยละ 1.5 เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติอาศัยร่วมบ้าน และใกล้ชิดผู้ป่วยวัณโรคมาก่อนถึงร้อยละ 70.1 พฤติกรรมการดูแลตนเองและการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของผู้ป่วยพบว่ายังปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง คือ ผู้ป่วยวัณโรคปอด ร้อยละ 46.8 ไม่สวมผ้าคลุมปากจมูก ร้อยละ 36.7 ไม่มีการกำจัดเสมหะที่ถูกวิธี ร้อยละ 33.6 ไม่แยกที่นอนของใช้ขณะเริ่มรักษา และร้อยละ 35.8 ไม่แยกภาชนะบริโภคอาหาร ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการตรวจเสมหะผู้สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคคลินิกวัณโรคของอำเภอราษีไศล ซึ่งมีการตรวจน้อยมาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อวัณโรคระหว่างผู้ป่วยกับผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน จากการศึกษาครั้งนี้ได้ข้อคิดว่าการควบคุมวัณโรคให้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะใช้เฉพาะการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จะต้องมีการเร่งค้นหากลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรคให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคในบ้านเดียวกัน เพื่อจะได้นำมาบำบัดรักษาก่อนที่จะแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคคลที่ใกล้เคียงต่อไป ตลอดจนต้องใส่ใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลตนเอง และการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ เพื่อให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพth_TH
dc.format.extent167308 bytesen_US
dc.format.mimetypeapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขen_US
dc.rightsสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขen_US
dc.titleประชากรวัณโรคอำเภอราษีไศล แนวโน้มการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรค อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษen_US
dc.title.alternativeStudy of General Data on Tuberculosis Cases and Management Trends in a TB Clinic in Rasisalai District, Srisaket Provinceen_US
dc.typeArticleen_US
dc.description.abstractalternativeThis report is aimed at studying the management trend of Rasisalai Clinic and the general data on the occurrence of new tuberculosis cases in Rasisalai district, Srisaket Province, for creating a proper TB control planning program. An interview survey was conducted at the TB clinic; all 134 TB cases had been registered between October 1, 2005 and September 30, 2006. The majority were males (64.2%), had a primary school level of education (88.1% ), were farmers (71.9%) and were more than 60 years old (40.3%). These patients were more likely to have been vaccinated with BCG (70.1%) than not vaccinated (29.9%). The study population also had other health indications as follows: DM 11.2 percent and HIV infection 1.5 percent. The most important factor was contact with TB cases in their households (70.1%). Improper protection measures between TB patients and their relatives could account for the occurrence of new TB cases: no mask (53.2%), improper sputum collection (36.7%), no isolated bedroom (33.6%) and no isolated eating area (35.8%). These behaviors were relevant to poor management of the Rasisalai TB Clinic in terms of screening TB contacts in the households and in terms of protective education. We concluded that the effective TB treatment regimen offerred by DOTS to control TB prevalence was not enough; the incidence of TB cases is still rising. We purpose speeding up the screening of new cases in different high-risk groups, especially for persons contacting tuberculosis cases in the same household. Proper protective behavior between the TB patients and their relatives staying with them is imperative. A good clean environment is another issue that should be the responsibility of the community at every level.en_US
dc.subject.keywordวัณโรคen_US
dc.subject.keywordการป้องกันการแพร่เชื้อen_US
dc.subject.keywordการควบคุมโรคen_US
dc.subject.keywordTuberculosisen_US
dc.subject.keywordProtective Behavioren_US
.custom.citationสมชาย ภานุมาสวิวัฒน์, Somchai Panumaswiwat, สถิต สายแก้ว, Sathit Saikeaw, นพรัตน์ หารไชย and Noparath Harnrachai. "ประชากรวัณโรคอำเภอราษีไศล แนวโน้มการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรค อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ." 2551. <a href="http://hdl.handle.net/11228/259">http://hdl.handle.net/11228/259</a>.
.custom.total_download930
.custom.downloaded_today0
.custom.downloaded_this_month3
.custom.downloaded_this_year89
.custom.downloaded_fiscal_year10

Fulltext
Icon
Name: hsri-journal-v2n1 ...
Size: 167.8Kb
Format: PDF
 

This item appears in the following Collection(s)

  • Articles [1352]
    บทความวิชาการ

Show simple item record