บทคัดย่อ
การศึกษาย้อนหลังเชิงพรรณนาผู้ป่วยฆ่าตัวตายทำร้ายตนเองที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลโคกสำโรงในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึง 30 กันยายน 2549 รวม 120 ราย การเก็บข้อมูลใช้แบบเฝ้าระวังผู้ที่มีอาการซึมเศร้า และทำร้ายตนเอง (รง 506. DS) และแบบบันทึกข้อมูลจากใบมรณบัตร (ม.บ. 1). ผู้ที่ทำร้ายตนเองเป็นหญิงร้อยละ 64.17 อายุที่พบมาก (ร้อยละ 40) ในช่วงอายุ 10-19 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอโคกสำโรง ร้อยละ 88.33 สมรสแล้ว ร้อยละ 58.33 อาชีพรับจ้างร้อยละ 49.17 เป็นการทำร้ายตัวเองครั้งแรกร้อยละ 96.67 เหตุการณ์กระตุ้นการกระทำ ได้แก่ น้อยใจคนใกล้ชิดดุด่า ร้อยละ 48.33 วิธีการที่ใช้มากที่สุดคือกินยานอนหลับ ร้อยละ 21.67 ผู้ป่วยที่เสียชีวิตหลังรับไว้ในโรงพยาบาล 8 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย (7 ใน 8) อายุน้อยสุด 25 ปี สูงสุด 70 ปี สาเหตุจากน้อยใจคนใกล้ชิดดุด่า วิธีการใช้มากที่สุดคือกินสารเคมี ผู้ป่วยที่เสียชีวิตก่อนมาโรงพยาบาล 29 คน เป็นชาย 17 คนและหญิง 12 คน ช่วงอายุที่พบมากสุด 30-39 ปี ร้อยละ 58.62 ผูกคอตาย และร้อยละ 31.03 กินสารเคมี ผู้ชายใช้วิธีรุนแรงมากกว่าผู้หญิง มีสัดส่วนผูกคอ : กินสารเคมี เท่ากับ 11: 3 ผู้หญิงมีสัดส่วนผูกคอเท่ากับกินสารเคมี (6:6)
บทคัดย่อ
This was a retrospective study on intentional self-harm among patients at
Khoksamrong Hospital in the years 2004-2006. The patients were those who intentionally
attempted suicide but survived, and who were brought to Khoksamrong Hospital
for treatment. Data were collected using a standard form for depression and a self-harm
surveillance system (report 506.DS) and a form to collect data from death certificates
( M.B.1.). Women comprised the majority of the cases (64.17%), married persons (58.33%)
and laborers (49.17%). Most of them (96.67%) had attempted suicide for the first time.
Common precipitating causes (48.33%) were “personal conflicts with a close person and
love affair problems.” A common self-harm method was “ingesting a sedative” (21.67%).
Of eight cases who died among the 120 suicidal patients hospitalized, the youngest was
25 years old and the oldest 70 years old. The most common stimulating event among the
cases of mortality were “personal conflicts with a close person and love affair problems.”
The most common method of committing suicide was “drinking chemical agents.” Of the
29 cases dead on arrival at the hospital, 17 were males and 12 were females, and 31.03
percent were aged 30-39 years. The most common methods were hanging (58.62%), following
by drinking chemical agents (31.03%). It is apparent that men used more aggressive
methods than women.