บทคัดย่อ
นับตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน (มิถุนายน 2552) ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประกอบด้วยจังหวัด ปัตตานี ยะลาและนราธิวาสและบางส่วนของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอสะบ้าย้อย นาทวี เทพาและจะนะ ยังมีความรุนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีความพยายามของหลายฝ่ายมีการปรับยุทธศาสตร์เพื่อการแก้ไขปัญหา แต่ก็พบว่าปัญหาดังกล่าวไม่ได้ลดลงอย่างที่คาดการณ์ไว้ จากข้อมูลอัตราการเกิดความรุนแรงรายวัน คือ 5.05 ครั้งต่อวัน (รายงานสถานการณ์เฝ้าระวังการบาดเจ็บจากความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2551 ) ในแต่ละครั้งเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินสะท้อนให้เห็นถึงความสมานฉันท์ยังไม่ปรากฏ หลายภาคส่วนจึงร่วมมือกันหาทางที่จะแก้ไขปัญหาโดยใช้กระบวนการสร้างความเข้าใจระหว่างกันให้คนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ในพื้นที่ที่จัดได้ว่าเป็น “พหุวัฒนธรรม” ดังนั้นด้วยความพยายามของสถาบันวิจัยระบบสุขภาพ ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และหน่วยงานวิชาการทั้งจากภาครัฐ เอกชน ปราชญ์ และผู้รู้ในชุมชน จึงร่วมกันจัดให้มี “สุนทรียสนทนา” เกิดขึ้นโดยจัดเป็นยุทธศาสตร์ 3 ปี สิ่งที่คาดว่าจะได้มา คือการขยายกลุ่มพูดคุยสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันและเกิดนโยบายสาธารณะเพื่อเสนอต่อรัฐบาลกลางในการจัดเป็นนโยบายเพื่อการแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป นอกจากการใช้กระบวนการสุนทรียสนทนาแล้วสวรส ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ยังได้นำข้อคิดดังกล่าวไปสังเคราะห์เพิ่มเติมและนำสู่เวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ จัดเวทีนักวิชาการเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและจัดทำนโยบายให้สอดคล้องกับพื้นที่ผ่านความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิและนำเสนอข้อคิดเห็นจากพื้นที่โดยผ่านพรรคการเมือง โดยสะท้อนแนวคิดและสิ่งที่คาดหวังว่ารัฐจะนำไปเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นมานาน ทำให้เกิดภาพที่ชัดเจนขึ้น คือการร่วมคิด ร่วมทำ นำไปสู่การดำเนินการโครงการเยียวยาฯ ภายใต้แนวทางการดำเนินงานของสวรส ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และเป็นตัวต่อเล็กๆ ที่เชื่อมโยงกับโครงการอื่นๆ ที่ดำเนินงานโดยองค์กรและหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคมและการเมือง